มะเขือเทศสุกคาต้น

มะเขือเทศสุกคาต้น

มะเขือเทศสุกคาต้น

ผ่านไปกว่าครึ่งเดือนแล้วที่ถ่ายรูปนี้ไว้ จนตอนนี้มะเขือเทศในรูปก็เริ่มเหี่ยวนิดหน่อย แต่ก็ยังอยู่ในระยะที่กินได้ ยังไม่เน่า

ก็เลยนึกได้ว่า วิธีเก็บที่ดีที่สุดก็คือปล่อยมันอยู่กับต้นละนะ เพราะถ้าไม่มีตู้เย็น การเก็บผักผลไม้มาวางทิ้งไว้มันก็จะเหี่ยว

ตอนนี้ก็คิดว่าจะเอาสองลูกนี้ไปเพาะเมล็ดต่อ เพราะลองกินดูแล้วก็อร่อยแบบมะเขือเทศ จะว่ายังไงดี.. มันก็มีหวานเปรี้ยวไปตามเรื่องราวของมัน

ไม่รู้อันนี้พันธุ์อะไร เพราะเป็นมะเขือเทศที่ซื้อมาจากตลาด ถามชาวบ้านเขาก็บอกไม่รู้… แต่เพาะมะเขือเทศนี่เพาะง่าย สนุกดี ส่วนใหญ่ต้นจะอึดแข็งแรง ไม่ต้องดูแลมาก กะว่าหน้าแล้งนี่ปลูกมะเขือเทศคงดี เพราะดูจะใช้น้ำไม่เยอะ แถมยังเก็บผลผลิตได้หลายรอบอีกต่างหาก

มะเขือเทศในพงหญ้า

มะเขือเทศในพงหญ้า

มะเขือเทศในพงหญ้า

ก่อนจะกลับกรุงเทพฯ เมื่อราว ๆ สามเดือนก่อน ก็ปลูกมะเขือเทศทิ้งไว้ รวมทั้งผักชนิดอื่น ๆ ด้วย เช่นผักบุ้ง ถั่วแขก

ถั่วแขกนี่ยังพอเหลือต้นให้เห็นแต่ฝักนั้นเหี่ยวไปแล้ว ส่วนผักบุ้งนี่ไม่เหลือแม้แต่ตอ แต่ที่น่าประหลาดใจที่สุดคือมะเขือเทศนี่แหละ

ลองคิดดูว่ากลับมาเจอสภาพหญ้ารก ๆ แล้วมีลูกอะไรสักอย่างสีแดง ๆ ในพงหญ้า มันก็น่าสนใจใช่ไหม แล้วที่มันดีกว่านั้นคือ มันรอดตั้ง 4 ต้นแน่ะ (จากที่ปลูกไว้ 10-15 ต้น) เมื่อสามเดือนก่อนเป็นต้นมะเขือเทศสูงไม่ถึง 6 นิ้ว แต่เราก็จากมันมา ทิ้งมันไว้ตามธรรมชาติ สรุปว่ารอด มีหลายลูกด้วย เดี๋ยวจะเอาผลสุกมาเพาะกันต่อไป เพาะขึ้นได้ผลนี่สนุกกว่าทำอาหารอีกนะ แค่ไม่อิ่มเท่านั้นเอง อยากมีกินก็ต้องขยันเพาะ ปลูก เลี้ยงกันอีกหน่อย

[19] ฝนตกแดดออก

diary-0019-ฝนตกแดดออก

19. ฝนตกแดดออก

วันสองวันนี้มีสภาพอากาศเหมือนกันคือฝนตกแดดออก ตกกันตอนบ่าย ๆ นี่แหละ ประมาณว่ากินข้าวเสร็จ กำลังจะไปทำสวน ฝนก็เทลงมา…

ตกกันทีก็นานเป็นชั่วโมง สรุปว่าแปลงผักแฉะหมดแล้ว เลยไม่ได้ทำอะไรเพิ่ม นอกจากจะไปเก็บงานนิดหน่อย ฝังเมล็ดนั่นนี่ไปตามประสา

แต่จะไปเกี่ยวหญ้าหลังฝนนี่เกรงใจแมลงจริง ๆ แต่ก่อนฝืนทำบ่อย แต่ก็ต้องเผชิญกับมดไปเรื่อย จริง ๆ ก็เกรงว่าจะเจออะไรที่มากกว่ามดละนะ เพราะอากาศชื้น ๆ หลังฝน สัตว์มันก็คงจะชอบออกหากิน

สู้ทำงานในวันแห้ง ๆ แดดดี ๆ ไม่ได้ สบายใจมาก แม้จะร้อนไปสักหน่อย แต่ก็สะดวกในการทำงาน ไม่เฉอะแฉะ

ถั่วต้ม(จนแห้ง)

ถั่วต้ม

ถั่วต้ม(จนแห้ง)

ปกติเวลาผมจะต้มถั่ว ก็จะแช่ถั่วทิ้งไว้ก่อนหนึ่งคืน คือต้องประมาณสมดุลร้อนเย็นล่วงหน้าหนึ่งวัน ถั่วที่มีก็มีหลากหลาย เช่นถั่วเขียว ถั่วแดงหลวง ถั่วขาว ถั่วเหลือง ถั่วดำ ถั่วลิสง กินสลับกันไป วันละ 2 ชนิด ปน ๆ กันไป

ด้วยความที่ต้องประหยัดน้ำดื่ม ผมเลยไม่ได้ใช้น้ำต้มถั่วมากเท่าไหร่ คือจะกะปริมาณน้ำเอาแค่ถั่วพอสุก น้ำแห้งคือถั่วสุกนิ่มพอดี

ซึ่งก็มักจะพลาดคือบางทีต้มถั่วอยู่ ก็ไปทำอย่างอื่น ก็มีบ่อยครั้งที่ถั่วไหม้บ้าง แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก เพราะถ้ามากก็อาจจะกินไม่ได้ ที่กินได้เพราะไหม้ไม่มาก…

เคยกินถั่วที่ไหม้มาก ๆ กินไปก็ร้อนไปทั้งตัวเลย เหมือนมันสะสมพลังงานความร้อนมาด้วย เคยเข้าใจว่าเหมือนกินถ่าน แต่มันก็มีความต่างของมันอยู่เหมือนกัน

[18] เก็บน้ำฝนไว้กิน

diary-0018-เก็บน้ำฝนไว้กิน

18. เก็บน้ำฝนไว้กิน

ช่วงหลายวันมานี้ ฝนตกบ่อย เลยใช้เป็นโอกาสในการเก็บน้ำฝน ก่อนหน้านี้ผมนึกไม่ออก เลยปล่อยให้น้ำฝนตกไปแบบนั้น

อยู่มาวันนึงก็คิดว่า เออเรามีกะละมังซักผ้าอยู่ ก็เลยเอามารองน้ำฝน ได้เยอะเหมือนกัน แม้จะมีฝุ่นบ้าง แต่ก็ไม่มีปัญหา

เพราะก่อนจะเอามาเก็บหรือกิน ก็จะเอาไปกรองผ่านผ้าขาวบางก่อน ให้ได้มั่นใจว่าสะอาดพอประมาณเป็นใช้ได้

การใช้น้ำฝนนี่ก็ประหยัดดีเหมือนกัน ไม่ต้องซื้อน้ำกิน เดี๋ยวจะค่อย ๆ หาโอ่งมาใส่น้ำ จะได้เก็บไว้กินได้นานขึ้น

ผักต้ม

ผักต้ม

ผักต้ม

ถ้าวันไหนที่อากาศร้อน ๆ รู้สึกอึดอัด ผมก็จะเปลี่ยนเมนูมาเป็นผักต้ม

ก็ไม่ได้กินกับอะไรหรอกครับ โรยเกลือเฉย ๆ นี่แหละ โรยไปที่ข้าวแล้วกินกับผัก เป็นเมนูอาหารสุขภาพที่มีประโยชน์มาก เป็นการถอนพิษและปรับสมดุลไปในตัว แม้จะไม่เป็นที่นิยมนักในสังคม เพราะมันเป็นเมนูที่กินได้ยาก ฝืนกิเลสมาก แต่มันก็มีประโยชน์มากทีเดียว เรียกว่าแค่กินแต่ผักต้ม, ผักลวก, ผักสด ก็ปราบมะเร็งได้แล้ว (ศึกษาเพิ่มเติมได้จากองค์ความรู้ยา ๙ เม็ด, แพทย์วิถีธรรม)

ผักที่ได้มานั้นฟรีครับ ฟักทองเพื่อนบ้านให้มา ส่วนผักบุ้งปลูกเอง แม้จะดูเยอะไปหน่อยสำหรับฟักทอง เพราะต้องจัดการฟักทองที่เหลือในวันนี้ พอดีไม่มีตู้เย็นเลยต้องวางแผนจัดการวัตถุดิบให้ดี

กินแบบสบาย ๆ ไม่ต้องรีบ ค่อย ๆ เคี้ยว ผักบุ้งนี้เคี้ยวนานหน่อย แต่ฟักทองไม่นานมาก เพราะถ้ามันสุกเนื้อมันก็จะร่วน กินง่าย

ฝูงมด

ฝูงมด

ฝูงมด

ช่วงฝนตกนี่ มดจะออกมากันเยอะมาก ย้ายถิ่น อาหาร หนีน้ำ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุอะไร

แต่พอมีการเดินขบวน มันก็ต้องหาอาหารละนะ พอหาอาหารมันก็เลยวนเวียนอยู่ตรงพื้นที่ทำอาหารของผมเยอะหน่อย

แบบว่ามีอะไรตกแล้วพอจะกินได้ มันก็จะพากันไปล้อม ถ้าไม่มีอะไรสักพักมันก็จะสลายตัวไป ซึ่งก็มีบ้างเหมือนกันที่มันออกนอกเส้นทาง มาวนเวียนในห้องนอน รอบ ๆ ที่นอน เพราะมันทะลุมุ้งมาได้ เพียงเพราะแค่พยายามเข้ามากินน้ำมันกัวซาที่ปิดฝาไว้ … รับกลิ่นได้ดีมาก

มานึกถึงมดหนึ่งตัว นี่มันก็มีหนึ่งจิตวิญญาณ ผมนั่งอยู่ในพื้นที่ 3*3 เมตร น่าจะมีมดเป็นหมื่นตัว ถ้าเอาจิตเหล่านั้นเปลี่ยนมาเป็นคน ที่ 3*3 เมตรนั้นคงไม่พอแน่ ๆ

มีจิตวิญญาณอีกมาที่รอการพัฒนาเป็นคน ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า สัตว์ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้นน้อย แต่เราก็มักจะไม่ค่อยเห็นความสำคัญนี้กัน ก็ลองมองภาพฝูงมดนี้ แล้วทำใจว่า มีจิตวิญญาณอีกมากมายที่จะสามารถมาแทนที่เราตรงนี้ ถ้าเราไม่ดีมากพอก็ไม่มีสิทธิ์จะเป็นมนุษย์ และมีโอกาสมากมายที่จะเวียนกลับไปเป็นสัตว์

ถ้าใช้ชีวิตกินสูบดื่มเสพไปวัน ๆ ไม่สร้างประโยชน์แท้จริงให้แก่ตนเองและผู้อื่น หรือมีชีวิตเยี่ยงเดรัจฉาน ก็อาจจะได้กลับเป็นเป็นสัตว์จริง ๆ

แต่คิด ๆ ไปก็เอาเถอะ มันก็วนเวียนไปแบบนี้แหละ เขาถึงเรียกว่าวัฏสงสาร

ผัดถั่วงอก เต้าหู้

ผัดถั่วงอก-เต้าหู้

ผัดถั่วงอก เต้าหู้

หลังจากเพาะถั่วงอกแล้ว ก็วางแผนไปตลาดเพื่อลองซื้อวัตถุดิบมาทำเมนูนี้ดู

เต้าหู้ที่ซื้อมาก็ไม่รู้ว่าชนิดไหน รู้แต่เป็นแผ่นใหญ่ ๆ หนา ๆ ประมาณ 6*6 นิ้ว ราคา 20 บาท

หั่นค่อนข้างใหญ่ เพราะตั้งน้ำมันบนเตาไว้แล้วมันร้อน เลยรีบไปหน่อย

ทอดเต้าหู้ก่อน แล้วตามด้วยถั่วงอก เห็ดนางฟ้า ต้นหอม ผัดแล้วก็ใส่เครื่องปรุง เกลือ น้ำตาล….

แต่ปรุงออกมาไม่เหมือนรสที่เคยลิ้มลอง มันจำได้ว่ารสมันไม่จืดขนาดนี้ นี่เราปรุงปกติอย่างที่กินทุกวันมันจืดมาก เลยลองปรุงเพิ่มไปจนถึงรสที่พอจำได้ รู้สึกเลยว่ามันจัดมาก

จริง ๆ แล้วเมนูนี้ไม่ต้องมีเต้าหู้ก็ได้ แค่มีถั่วงอก ถั่วเหลืองที่แช่น้ำไว้ แล้วก็ใบต้นหอม ผัดรวมกันก็ได้แบบนี้แล้ว สารอาหารพอ ๆ กัน ดีไม่ดีจะดีกว่าด้วย เพราะเราไม่รู้หรอกว่าเต้าหู้ก้อนที่ซื้อมาเขาทำอย่างไร สะอาดแค่ไหน

[17] ฟ้าหลังฝน

diary-0017-ฟ้าหลังฝน

17. ฟ้าหลังฝน

ช่วงก่อนหน้านี้ ฟ้าค่อนข้างสดใส ตารางงานที่วางไว้ ถูกจัดการไปโดยลำดับ ซึ่งผมเองก็กำลังเพลินกับงานเลยทีเดียว

มาถึงวันสองวันนี้ ฝนตกค่อนข้างมาก ตกทีนึงก็ตกนาน แถมนำพาความชื้นมาอีกมากมาย งานที่วางไว้ก็ล่าช้าลงไป

การทำงานในสวนหลังฝนตกนั้นไม่ง่าย เพราะนอกจากต้องคอยสังเกตมดและแมลงที่ออกมากันมากมายแล้ว ยังเจอความเปียกชื้น ที่เป็นอุปสรรคทั้งในด้านกระบวนการทำงานและด้านร่างกายด้วย

ในด้านร่างกายนั้นผมสังเกตว่าในวันฝนตกเหงื่อจะออกมากและแห้งช้า ต่างกับวันที่แดดดี ๆ แม้เหงื่อจะออกก็แห้งเร็วไม่เหนาะหนะ และไม่เหนื่อยเร็ว

ในส่วนงานนั้นก็ยากขึ้นไปอีก เช่นงานขุด ฝนตกลงมาเหมือนจะขุดง่าย แต่จริง ๆ ไม่ง่าย เพราะขุดทีนึงดินก็ติดอุปกรณ์ขึ้นมาทีนึง ถ้าขุดต่อก็จะยิ่งหนัก แถมจะขุดไม่เข้าอีก ก็เลยลำบากขึ้นอีกหน่อย

วันนี้แม้ฝนจะตกตั้งแต่เช้าถึงเที่ยง แต่เห็นฟ้าหลังฝนตอนเย็นแล้ว ก็พอจะเห็นภาพของฟ้าที่สดใสในวันพรุ่งนี้ แม้ว่าฟ้าจะไม่ใส แต่อย่างน้อยเมฆก็ไม่มากเหมือนวันก่อน ๆ

เพาะถั่วงอก

เพาะถั่วงอก

เพาะถั่วงอก

เห็นคลิปที่เขาสอนเพาะถั่วงอกแบบง่าย ๆ และเพื่อนก็ลองเอามาทำแล้วได้ผลจริง ไม่ยาก ก็เลยลองทำบ้าง

ตอนแรกนั้นก็ติดที่ไม่มีวัสดุ ก็เลยว่าจะกลับกรุงเทพก่อนแล้วค่อยทำ ไป ๆ มา ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าเราน่าจะลองประยุกต์ดู

ก็เอากะละมังโลหะที่ซื้อมาจากร้าน 20 บาท มาเจาะก้นด้วยตะปู

เอาผ้าเช็ดตัวเก่าที่เคยใช้เป็นผ้าเช็ดทั่วไปมาเป็นผ้ารองแต่ละชั้นเพื่อเก็บกักความชื้น

เอาถาดพลาสติกที่เป็นรู ที่เป็นของเหลือจากที่เขาใส่เส้นขนมจีนมาเป็นตัวกั้นระหว่างชั้นของถั่วงอก

แล้วก็หาอะไรที่พอดีมาปิดไม่ให้มีแสง ลำดับก็คือใส่ผ้าไปก่อน แล้วใส่ถาด แล้วก็ใส่ถั่วที่แช่น้ำมาแล้วคืนนึง แล้วก็ใส่ผ้า ใส่ถาด ใส่ถั่ว สลับกันไปแบบนี้ อย่างของผมทำสี่ชั้น

ที่เห็นเขียว ๆ นั่นเพราะวันก่อนมันโตจนดันฝาออก แล้วไม่ได้หาอะไรมากดทับไว้ พอแสงเข้า ก็เลยยอดเขียว แต่ก็กินได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร

จริง ๆ 3 วันก็กินได้แล้ว แต่ในรูปนี้ผมทิ้งไว้ 4 วันเพราะจะเอามาทำอาหารในวันที่ 4 พร้อมกับวัตถุดิบอื่นที่ซื้อมาจากตลาด

ถั่วงอกปลูกเองจะต่างจากถั่วงอกซื้อเขา ถ้าผมซื้อถั่วงอกมาเย็นนี้ พอถึงพรุ่งนี้สาย ๆ มันก็จะช้ำ ก็เริ่มเน่าแล้ว (ไม่มีตู้เย็น) ดังนั้นทำเองดีกว่า ปลอดภัยกว่า สบายใจกว่า ยืดหยุ่นกว่า ประหยัดกว่า