เมล็ดฟักทองญี่ปุ่น

เมล็ดฟักทองญี่ปุ่น

เมล็ดฟักทองญี่ปุ่น

ซื้อฟักทองญี่ปุ่นมา กะจะเอาเมล็ดมาปลูก เพราะด้วยเหตุที่ว่า ผลของมันมีผิวเกลี้ยง ทำความสะอาดได้ง่าย กว่าฟักทองทั่วไป

พอเอาผลมากินก็เหลือเมล็ด ส่วนหนึ่งก็แบ่งไปปลูก ส่วนหนึ่งก็ลองเอามาคั่วกิน มันไม่เหมือนเมล็ดฟักทองทั่วไป คือเมล็ดฟักทองญี่ปุ่นนั้นหนากว่า เปลือกนั้นหนาถึง 1 มิลลิเมตรเลยทีเดียว ต้องกัด แกะ กะเทาะเอาถึงจะได้กิน ไม่เหมือนเมล็ดฟักทองทั่วไปที่เคยคั่ว กินทั้งเปลือกได้เลยเพราะเปลือกมันบาง

แล้วเวลาคั่วนี่ก็ยากกว่าเพราะเปลือกมันหนา มันจะไม่แตกแล้วกระเด้งไปมาเหมือนฟักทองทั่วไป แต่มันจะระอุ สุกอยู่ข้างใน ดังนั้น จะคั่วให้ถึงขั้นเปลือกแตกก็คงจะสุกจนแห้งเกินไป ต้องคอยสังเกตมากกว่าเมล็ดฟักทองทั่วไป

พอรวมองค์ประกอบเรื่องการคั่วเมล็ดกินด้วยแล้ว การปลูกฟักทองญี่ปุ่นนั้นมีน้ำหนักลดลงไปทันที ไปหาพันธุ์ฟักทองไทยที่ผิวมันเรียบ ๆ มาเพาะดีกว่า ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็เก็บไว้ชุดหนึ่ง ซื้อฟักทองมาจากตลาด ผิวเรียบดี เดี๋ยวก็คงปลูกและคัดพันธุ์ไปเรื่อย ๆ

นก

นก

นก

ปกติแล้ว ที่นี่จะนกเยอะมาก มีมาให้เห็นทุกวัน มีหลายพันธุ์แต่ผมก็ไม่รู้จักมันหรอก มีทั้งตัวเล็กตัวใหญ่

และช่วงหลังนกมากขึ้นเนื่องจากปลูกต้นตะขบไว้ ซึ่งเขาก็บอกกันว่าถ้าปลูกตะขบนกจะเยอะ ซึ่งมันก็เยอะขึ้นจริง ๆ โดยเฉพาะช่วงที่ตะขบออกลูก ก็จะมีนกมากินลูกตะขบ

ผมปลูกตะขบไว้เพราะว่าจะเอาร่มเงา ด้วยเหตุที่มันเป็นต้นไม้ที่โตเร็วมาก แต่ก็ปลูกไว้แค่สองต้น เพราะคิดว่าสองต้นนี่ก็คงจะเยอะมากแล้ว คือมากพอที่สัตว์จะมากันเยอะ ที่มากันเยอะไม่ใช่แค่นก ยังมีสัตว์อื่นเช่น หนู อีกด้วย พอหนูมาล่ะทีนี้งูก็จะตามมาอีกเหมือนกัน

วันหนึ่งอาจจะโค่นตะขบทิ้ง แต่คิดว่านกก็คงไม่หายไปไหน เพราะถึงไม่มีต้นตะขบนกมันก็มากันประจำอยู่แล้ว ถึงตอนนั้นก็คงจะเป็นตอนที่ต้นไม้อื่น ๆ งอกงามกันหมดจนไม่จำเป็นต้องพึ่งร่มเงาของตะขบอีกต่อไป

[30] ลองกินมะเขือเทศ + เก็บเมล็ด

diary-0030-ลองกินมะเขือเทศ

30. ลองกินมะเขือเทศ + เก็บเมล็ด

หลังจากที่ปลูกมะเขือเทศแล้วได้ผล ก็เลยคิดว่าน่าจะทดลองปลูกมะเขือเทศพันธุ์อื่น ๆ บ้าง

เมื่อคิดอย่างนั้น ก็เลยไปลองซื้อมากินดู ว่าแต่ละพันธุ์นั้นมีรสชาติอย่างไร (ปกติกินแต่มะเขือเทศทั่วไป) ซึ่งก็ได้ผลมาว่า บางชนิดเนื้อแน่น บางชนิดเนื้อไม่แน่น บ้างก็ออกหวาน บ้างก็ไม่ค่อยหวาน และก็ได้ประสบการณ์ใหม่ว่า มะเขือเทศกินสดก็ดีเหมือนกัน โดยเฉพาะพวกผลเล็ก ๆ กินไปก็คล้าย ๆ องุ่น ก็น่าปลูกดีเอาไว้กินเป็นผลไม้

ที่ซื้อมาลองก็มะเขือเทศที่ขายในห้างทั่วไป ผมซื้อมาอย่างในรูปนี้ก็ 5 ชนิด ก็แพงอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้แพงที่สุด ตกแพคละ 20-50 บาท ไอ้ที่แพคละ 100-300 นี่ซื้อไม่ลง มันอาจจะหวานกว่าละมั้ง แต่ที่กินไป 5 ชนิดนี่แทบไม่ได้ต่างกันขนาดนั้น คือไม่มีนัยสำคัญในความหวาน ซึ่งการซื้อผลสดมาลองกินก็น่าจะดีกว่าซื้อเมล็ดพันธุ์ที่เขาขายเป็นซอง เพราะถ้าซื้อแบบนั้น กว่าจะรู้ว่ามันรสเป็นอย่างไร ก็ต้องรอโต

แต่วิธีของผมนี่จะเลือกปลูกจากที่ได้ทดลองกินแล้ว เหมือนย้อนขั้นตอนไปอีกขั้น กินแล้วก็เก็บเมล็ดเอง เคยลองแล้วได้ผล และมันไม่ยากก็เลยเลือกใช้วิธีนี้

การปลูกพืชผักของผม ไม่เหมือนเกษตรกรเขาทำ แต่จะทำเหมือนการวิจัย ทดสอบ ทดลองอะไรไปเรื่อย เน้นเอาความรู้ ส่วนผลผลิตนั้นเป็นผลพลอยได้

ถ้ามะเขือเทศชุดนี้เพาะสำเร็จแล้ว ลงปลูกแล้ว ได้ผลแล้ว จะเอามาให้ดูกันอีกที

ผึ้ง

ผึ้ง

ผึ้ง

เมื่อเดือนก่อนระหว่างที่ผมกำลังทำงานกลางทุ่งอยู่นั้น ก็มีเสียงหึ่ง ๆ ดังขึ้นมา ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนเสียงโดรนที่บินอยู่ใกล้ ๆ

มีฝูงผึ้งจำนวนมาก ไม่รู้กี่ตัว น่าจะหลักพันถึงหลักหมื่นได้ มาบินวนอยู่บนต้นไม้ที่ไม่ไกลจากจุดที่ผมยืนนัก

เมื่อผมเห็นมันเยอะขนาดนั้น ก็เลยหนีห่างออกมาในจุดที่ปลอดภัย นั่งดูมัน ไม่นานนักเสียงก็เงียบไป แต่มันไม่ได้ไปไหน มันมาเกาะรวมกันอย่างในรูปนี้

เอาแล้วไง กิ่งที่มันเกาะนี่สูงจากพื้นราว ๆ 5 เมตร หนำซ้ำยังอยู่ปากทางเข้าบ้านอีก

แต่ก็ไม่มีอะไร ไม่กี่วันต่อมามันก็บินจากไป ไม่ได้ทำอันตรายอะไร อาจจะเพราะผมหลีกเลี่ยงที่จะไปใกล้แถวนั้น

ตอนแรกก็คิดเหมือนกันว่า ถ้ามันไม่ไปจะทำอย่างไร รถก็จอดอยู่ใต้รังมัน แถมยังต้องไปตลาด ถ้าโดนต่อยด้วยปริมาณขนาดนี้คงแย่แน่ ๆ แต่ดีที่มันชิงอพยพก่อนวันที่จะไปตลาด เลยรอดไป

วอเตอร์เครสใบใหญ่

วอเตอร์เครสใบใหญ่

วอเตอร์เครสใบใหญ่

หรืออีกที่เขาเรียกกันว่าวอเตอร์เครสฮาวายนี่แหละ เอามากินสดก็ดี เอาไปใส่แกงจืดก็ดี ใส่สลัดก็ดี ก็แล้วแต่ใครจะกินแบบไหน

พอดีวันก่อนทำใบของมันตกไปในถังน้ำที่มีฝาปิด ก็เปิดฝามาใช้น้ำทุกวัน ก็เห็นมันลอยและสีเขียวสดอยู่หลายวัน ลองหยิบขึ้นมาดูก็พบว่ามันยังสดและดูเหมือนจะมีพลังชีวิตอยู่

ก็เลยลองเด็ดใบต้นที่เพิ่งจะขุดย้ายที่ปลูกมา ใบของมันไม่ตึงมาก ออกไปทางเหี่ยว ๆ ด้วยซ้ำ แต่ผมเอาไปแช่น้ำไว้หนึ่งคืน ปรากฎว่ามันเต่งตึง แข็ง กรอบ เหมือนผักที่ได้รับการดูแลอย่างดี

ตอนแรกก็คิดไปว่าเอาผักไปแช่น้ำไว้ข้ามคืน มันจะเน่า ที่ไหนได้ มันสดขึ้น แถมแช่ได้หลายวันด้วยสิ ก็คงแล้วแต่ชนิดผัก อันนี้เป็นความรู้ที่ได้มาแบบบังเอิญ ถ้าใบมันไม่ตกในถังน้ำก็คงไม่รู้แบบนี้

ตะปาด

ตะปาด
ตะปาด

ก็ตะปาดบ้าน ๆ นั่นแหละนะ ไม่ได้แปลกอะไร แต่มันมานอนในที่ที่แบบว่า สูงสำหรับตัวมันเหลือเกิน

ผมตั้งไม้ถูพื้นไว้ในห้องเก็บของ ซึ่งมันก็สูงพอประมาณ เจ้าตะปาดนี่ก็กระโดดขึ้นมานอนบนนี้ ในห้องเก็บของนี้ไม่ได้มีความชื้นมากนัก ไม่ได้มีทางเข้าออกหลายทาง มันก็คงเข้ามาทางประตูที่เปิดไว้ทางเดียวนั่นแหละ

ปกติจะเจอตะปาดในห้องน้ำ ก็ไม่มีพิษภัยอะไรสำหรับตะปาด มันก็อยู่ของมันไป แต่สงสัยว่าตัวนี้มันจะออกยังไง ก็มีสัตว์หลายตัวเหมือนกันที่หลงเข้ามาแล้วก็ออกไม่ได้ เน่าตายบ้าง แห้งตายบ้าง…

*เพิ่มเติม แต่ก่อนเข้าใจว่าตัวนี้เรียกว่ากบ แต่เขาเรียกมันว่าตะปาด แถมยังมีจุดเด่นที่กระโดดได้ไกล ดังนั้นมันคงจะหาวิธีออกจากห้องได้ทางเพดานนั่นแหละนะ (ไม่มีฝ้า)

[29] ฝน และ แมลงเม่า

diary-0029-ฝนและแมลงเม่า

29. ฝน และ แมลงเม่า

หลังจากหนาวมาหลายวัน อากาศก็เปลี่ยนเป็นร้อน เพียงแค่ลมพัดผ่านวันเดียว ฤดูกาลก็เปลี่ยนได้

หลังจากร้อนมาสักพักจนอบอ้าว ฝนก็ตกลงมา ตกมาไม่เยอะหรอก แต่เม็ดใหญ่ ตกได้ไม่นานก็หยุด พอให้ชุ่มฉ่ำ เย็นสบาย อุณหภูมิก็ลดลงมาเป็นสบาย ๆ อีกครั้ง

หลังจากร้อนแล้วมาฝน สิ่งที่มักจะเจอคือแมลงเม่า หลังจากพระอาทิตย์ตก ตอนเปิดไฟเข้าห้องน้ำก็เห็นแมลงเม่า และรู้ทันทีว่าคงต้องปิดไฟนอนเลย เพราะแมลงเม่านี่มันมุดมุ้งได้ เปิดไฟนิดหน่อย เพียงแค่แสงหน้าจอมือถือมันก็มาแล้ว

ก็เลยวางงานสรุปในวันนั้นทังหมดแล้วนอน ก็นอนคิดอะไรเพลิน ๆ ไปเรื่อย ๆ แล้วก็หลับ ตื่นมาอีกทีดึก ๆ ค่อยมาสรุปงาน วางแผนงานวันต่อไป เพราะแมลงเม่านี่มันมีเวลาของมัน มันจะมาเยอะช่วงหัวค่ำ และลดลงไปเรื่อย ๆ หลังจากนั้น

วันต่อมาฝนก็ตกเหมือนเดิม แต่ไม่มีแมลงเม่าเหมือนวันแรก ก็ดีเหมือนกัน…

มะเขือเทศที่ไม่เป็นสีแดง

มะเขือเทศที่ไม่เป็นสีแดง

มะเขือเทศที่ไม่เป็นสีแดง

อาจจะเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่หลายคนก็คงรู้อยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ผมเพิ่งรู้ คือ “มะเขือเทศไม่จำเป็นต้องสุกเป็นสีแดง”

ผมก็เคยเห็นบ้างที่เขาเอามะเขือเทศมาขาย ลูกสีส้มบ้าง สีเขียวบ้าง ก็เข้าใจว่าเขาเก็บตอนที่มันยังไม่สุก ถ้าสุกมันก็คงเป็นสีแดงเหมือนกันหมด

จนกระทั่งผมลองปลูกมะเขือเทศเอง ก็ได้ผลสุกเป็นสีแดงทั้งหมด จนกระทั่งมาเจอกับมะเขือเทศต้นนี้ เป็นต้นที่ให้ลูกมาก ลูกใหญ่ ตอนที่ผมไปเจอมันอยู่ในพงหญ้าก็มี 8 ลูกโต ๆ แล้ว ทุกลูกเป็นสีเขียว

ต่อมาผมก็ถางหญ้า รดน้ำดูแลมัน หวังว่ามันจะสุก สุดท้ายแม้จะรอนานแค่ไหน มันก็ไม่สุกเสียที ก็อย่างที่เห็น มันก็สีเหลืองจนเหี่ยวไปนั่นแหละ ผมก็ลองเอาผลสีเหลืองมากินแล้ว มันก็รสเหมือนมะเขือเทศสุกทั่วไป

คือมันสุก แต่มันไม่เป็นสีแดง ผมไม่เคยซื้อมะเขือเทศสีอื่นมาเลย เลือกแต่ลูกแดง ๆ และมะเขือเทศต้นนี้ก็เป็นต้นที่เพาะเมล็ดมาจากผลสีแดงที่ซื้อจากตลาดนั่นแหละ

เหมือนกับที่เราคาดหวังว่าใครสักคนจะพัฒนา เราเฝ้าดูแล เอาใจใส่ สุดท้ายพบว่าเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ วันเวลาเปลี่ยนแปลง ร่างกายของเขาแก่ก็จริง แต่ความคิดเขาไม่เปลี่ยน สุดท้ายเขาก็อาจจะตายไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่เข้าใจความผาสุกที่แท้จริงเลยก็ได้

แน่นอนว่าการดูแลของเราก็เป็นกรรมดีที่เราสมควรทำ แต่ความคาดหวังนั้นเป็นสิ่งที่จะทำร้ายตัวเรา เหมือนกับมะเขือเทศ เราไม่รู้หรอกว่ามันจะสุกเป็นสีแดงหรือไม่ เป็นเพราะเราดูแลไม่ดีหรือเป็นเพราะพันธุ์มัน หรือเพราะเรายึดมั่นว่าผลสุกที่ดีต้องสีแดง ถ้ามันเป็นพันธุ์ที่ไม่มีวันจะเป็นสีแดงได้ เราไปพยายามให้มันเป็นมันก็ทุกข์เปล่า ๆ

คนก็เช่นกัน พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ว่า คนนั้นมีทั้งคนที่สอนได้ คนที่สอนไม่ได้ แม้คนที่สอนได้ยังมีระดับง่ายไปจนถึงสอนลำบาก ในช่วงเวลาที่มีอยู่จำกัด เราจะเลือกทำสิ่งใด ถ้ามะเขือเทศที่ตลาดต้องการต้องมีผลสดใหญ่สีแดง เรายังจะปลูกมะเขือเทศที่ไม่มีวันเป็นสีแดงนี้อยู่ไหม เหมือนกับที่โลกต้องการคนดีแท้ เราจะให้เวลากับการสร้างคนดีแท้ที่พอจะเป็นไปได้ หรือเป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้เลย

นี่คือเรื่องที่ผมได้จากมะเขือเทศต้นนี้ …แต่ผมอาจจะดูแลมันไม่ดีก็ได้นะ เดี๋ยวจะลองใส่ปุ๋ยแล้วมาดูผลชุดใหม่กันอีกที

[28] คั่วเมล็ดมะม่วงหิมพานต์

diary-0028-คั่วเมล็ดมะม่วงหิมพาน

28.คั่วเมล็ดมะม่วงหิมพานต์

ด้วยความที่ว่าอยากจะปลูกมะม่วงหิมพานต์ไว้สัก 4-6 ต้น เพราะเป็นพืชที่ให้ทั้งโปรตีน ให้ทั้งน้ำมัน ทั้งเป็นที่นิยมอีกต่างหาก เอาเป็นว่ากินเองก็ได้ ทำขายก็คงพอมีคนสนใจ

ทีนี้ก่อนจะปลูก มันก็ต้องศึกษากันก่อนว่ากระบวนการที่จะทำให้ได้กินเนี่ย เขาทำอย่างไร ไม่ใช่ว่าปลูกแล้วแปรรูปยาก ขั้นตอนเยอะ อะไรแบบนี้มันก็ไม่ไหว

พอดีว่ามีคนเขาให้เมล็ดมะม่วงหิมพานต์มาให้ปลูก เราก็เลยแบ่งส่วนหนึ่งมาทดลองคั่วดู ก่อนจะคั่วก็เปิดหาความรู้กันในอินเตอร์เน็ตนั่นแหละ ตามที่่เขาทำให้ดูกัน เราก็เรียนรู้ไป

พอมาถึงคราวทำจริงนี่ก็ระวังเหมือนกัน เพราะที่เขาทำให้ดูนี่มันติดไฟง่าย เราก็ลองเอาหม้อเก่านี่มาคั่ว ก็คั่วไป ใช้ไม้เขี่ย วน ๆ ไปให้มันร้อนหลาย ๆ ด้าน ไม่นานนักก็ไฟลุก เราก็ตายใจ เห็นเปลือกมันหนาเลยปล่อยให้ไฟลุกไปสักพัก รอบแรกได้แบบรูปขวาบน น้ำตาลมาเชียว สรุปว่าเสีย

รอบสองพอจะกะเวลาได้ คือถ้าไฟติด ก็ดับแล้วเลิกเลย ก็ออกมาดูดี แต่เมล็ดมันไม่เต่งเหมือนที่เราซื้อกินกัน ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน แต่ก็กินได้

สรุปลองกินทั้งแบบยั่งไม่คั่ว คั่วแล้วไหม้ คั่วแล้วยังไม่ไหม้ ก็โอเค สรุปความคิดว่าจะปลูกมะม่วงหิมพานต์ไว้กินก็ผ่าน ไว้ปลูกโตให้ผลแล้วค่อยมาว่ากันอีกที

เก็บเมล็ดพันธุ์ถั่วพุ่ม

เก็บเมล็ดพันธุ์ถั่วพุ่ม

เก็บเมล็ดพันธุ์ถั่วพุ่ม

ผมเคยปลูกถั่วพุ่มไว้หนึ่งแปลงเล็ก ๆ ขนาด 4*1 เมตร ผลที่ได้ก็ดีเชียวล่ะ แต่ก็มาเสียตรงที่ปล่อยมันไว้กับฟ้ากับฝนนานไปหน่อย ก็ประมาณ 3 เดือน

แต่กลับมามันก็ยังไม่ถึงกับตาย แค่พิการไปบ้าง ใบไม่มี เหลือแต่ต้นที่ยังมีสีเขียว ๆ พอรดน้ำดูแลไปสักพัก ใบก็เริ่มผลิออกมาใหม่ ไม่นานนักก็ให้ผล คือมีฝักถั่ว แต่ไม่งามหรอก ต้นหนึ่งได้หนึ่งฝักก็ถือว่าเก่งแล้ว กับสภาพของต้นที่มันเป็น

เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ชุดนี้ซื้อมา แล้วก็ไม่อยากจะต้องเสียเงินไปซื้ออีก ก็เลยยังไม่เด็ดไปกิน ถึงจะเด็ดไปกินก็ได้ไม่กี่ฝัก เลยคิดจะเก็บเมล็ดไว้ปลูกชุดใหม่น่าจะดีกว่า

แต่การจะไปปล่อยไปตามธรรมชาติ บางทีฝักก็ไม่สมบูรณ์ มักจะมีแมลงมากินตรงกลางฝัก ก็เหมือนจะได้เมล็ดที่ไม่สมบูรณ์ตามไปด้วย

สุดท้ายนึกได้ ไปเจอห่อผ้าที่เขาไว้ห่อของชำร่วย ก็เลยเอามาห่อฝักเลย หนึ่งฝักนี่ก็คงได้ไม่ต่ำกว่า 5 เมล็ด ก็จะลองปลูกต่อดู ขึ้นไม่ขึ้นอย่างไรค่อยว่ากันอีกที ถ้าขึ้นก็ดี จะได้มีปลูกมีกินไปเรื่อย ๆ ไม่ขึ้นก็ลองศึกษากันต่อไป