[8] พลังงานแสงอาทิตย์ ในชีวิตประจำวัน

diary-0008-พลังงานแสงอาทิตย์ในชีวิตประจำวัน

8. พลังงานแสงอาทิตย์ ในชีวิตประจำวัน

แสงอาทิตย์นี่นอกจากทำให้พืชได้เจริญเติบโต ผมยังสามารถเอามาใช้ได้ผ่านโซล่าเซลล์

พอดีว่าตัวบ้านนั้นค่อนข้างห่างจากถนนหลักก็มากอยู่ การจะลากสายไฟเข้ามาก็ต้องลงทุนสูง ก็เลยตัดสินใจใช้โซล่าเซลล์

พลังงานที่ได้มาก็ไม่ได้ใช้อะไรมาก จะใช้ก็แค่ แสงสว่าง ปั้มน้ำ ชาร์จแบตเตอรี่มือถือ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ เพียงแค่นี้ก็เพียงพอที่จะใช้แล้ว เพราะผมเองก็ไม่ได้ดูทีวี ไม่ได้ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ามากกว่านั้น

บางอย่างถ้ามีก็ดี แต่ไม่มีมันก็ไม่เป็นไร บางอย่างยังไม่ถึงเวลาของมัน มีเท่านี้ก็ใช้เท่านี้ มันก็พอใช้แล้ว

อย่างในรูปนี้ก็ซื้อที่แปลงไฟ 12v เป็น usb สะดวกดีเหมือนกัน อันละ 20 บาท สวิท 10 บาท สายไฟกับเทปก็อีกนิดหน่อย สมัยนี้มีสมาทโฟนมันก็ทำอะไรได้หลายอย่าง มันเลยไม่รู้สึกติดขัดอะไร

ถั่วลิสงคั่ว

ถั่วลิสงคั่ว

ถั่วลิสงคั่ว

ช่วงนี้ฝนตก อากาศเย็น ตอนกลางคืนก็ราว ๆ 25 องศา ปนความชื้นจากฝน ไม่หนาวทรมานเหมือนกับเปิดแอร์ แต่หนาวแบบเย็นสบาย

ถั่วลิสงเป็นถั่วฤทธิ์ร้อน ถ้ายิ่งเอาไปคั่วยิ่งร้อนใหญ่ แต่ก็เหมาะกับวันที่ร่างกายรู้สึกเย็น กินแล้วจะสบาย ดูดซึมได้เต็มที่ ไม่สร้างแก๊ส

ซื้อเมล็ดถั่วมากิโลละ 80 กว่าบาท แต่ถ้าซื้อถั่วถุงแบบที่เป็นขนมขายทั่วไป ตกถุงละ 20 -30 กรัม 5-10 บาท โลนึงก็ตก 200-300 บาท ดังนั้น ซื้อเมล็ดดิบมาคั่วเองถูกกว่าเยอะ ส่วนปลูกเองยังอยู่ในระหว่างศึกษา

[7] วิวข้างทาง ระหว่างไปตลาด

diary-0007-วิวข้างทางระหว่างไปตลาด

7. วิวข้างทาง ระหว่างไปตลาด

ผมเห็นหลายคนเขาไปเที่ยว ไปหาประสบการณ์กันต่างถิ่นต่างแดน แต่ผมกลับรู้สึกว่าไม่ต้องไปไหนอีกแล้ว มันพอใจเท่าที่อยู่กันนี่แหละ

เพราะแค่ที่เห็นนี่มันก็ดีอยู่แล้ว มันลงตัวอยู่แล้ว เอาแค่วิวข้างทาง มองไปไกล ๆ ได้ มันก็สบายใจแล้ว ไม่อึดอัด

ส่วนที่เป็นธรรมชาติในบ้านเราก็สร้างของเราขึ้นมาเอง อยากให้สวย ให้ดี ให้มีประโยชน์แบบไหน เราก็สร้างมันขึ้นมาเอง ให้มันใช้งานได้ เป็นประโยชน์ ….วันหนึ่งคนเขาอาจจะคิดว่าที่เราอยู่เป็นสถานทีท่องเที่ยวก็ได้นะ …

มันเทศ

มันเทศ

มันเทศ

วันก่อนไปตลาดมา ได้มันเทศมาในราคา 20 บาท ถุงในรูปนี้สองกิโลครึ่ง

เขามีทั้งแบบหัวเล็กและหัวใหญ่นะ แต่ผมเลือกหัวเล็กเพราะมันต้มสุกไวดี หัวใหญ่ต้องรอนานกว่า

เห็นมีบางหัว มีหน่อกำลังจะขึ้น คิดว่าเอามาปลูกก็ดีเหมือนกัน คิดไปคิดมาเดี๋ยวไปซื้อแบบหัวใหญ่มาน่าจะดีกว่านะ ถ้าเราจะเอามาปลูก…คิดไปงั้นแหละ ค่อยว่ากันอีกทีตอนไปตลาด เดี๋ยวค่อยซื้อปน ๆ กันมาทั้งเล็กและใหญ่

ก่อนหน้านี้เห็นข่าวมันราคาถูก ก็ถูกจริง ๆ นั่นแหละ สองโลครึ่ง ยี่สิบบาทก็ถูกแล้ว กินได้หลายวันแล้ว ก่อนหน้านี้ซื้อโลละ 15 บาท ก็มี 20 บาท ก็มี

[6] ถางหญ้า ในหน้าฝน

diary-0006-ถางหญ้าในหน้าฝน

6. ถางหญ้า ในหน้าฝน

กิจกรรมถางหญ้านั้น เป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างจะเพลิน กินแรงน้อย ทำได้นาน ถึงแดดจะร้อน แต่ก็ไม่รู้สึกว่าเหนื่อยนัก ยิ่งทำตอนแดดร่มลมพัดนี่ยิ่งถางได้เร็ว

แต่เมื่อฝนตกแล้ว ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นอีก เพราะนอกจากจะชื้นแฉะแล้วยังมีโอกาสเจอกับแมลงมีพิษหรือสัตว์อื่น ๆ ด้วยก็ได้

หลังฝนตกผมจึงไม่ค่อยเสี่ยงไปถางหญ้าสักเท่าไรนัก แต่จะเปลี่ยนงานไปทำอย่างอื่นดีกว่า รอวันอากาศดี ความชื้นน้อย ๆ ดูแห้ง ๆ แล้วค่อยออกไปถางหญ้าจะปลอดภัยกว่า

ข้าวต้ม

ข้าวต้ม

ข้าวต้ม

วันก่อนรู้สึกอยากกินอะไรที่มันนิ่ม ๆ เคี้ยวง่าย ก็เลยคิดจะทำข้าวต้ม

แต่วัตถุดิบก็เหลือน้อย ยังมีขาเห็ดหอมแห้ง กับไชยาอยู่ก็เลยเอามาหั่นใส่ พร้อมทั้งใส่น้ำพริกสมุนไพรที่เหลือลงไปด้วย คงจะได้อารมณ์แบบข้าวต้มทรงเครื่อง

ลองผสมกันไปดู ออกมาก็สมดังใจ แต่ข้าวไม่นิ่มเท่าไหร่เพราะต้มไม่นานนัก แถมยังเป็นข้าวซ้อมมือด้วย ซึ่งถ้ารอให้นิ่มหรือเละอาจจะนาน หรือคงต้องหุงแล้วเอามายีให้มันเละก่อนคงจะได้ข้าวต้มเละ ๆ

แต่ก็ไม่เป็นไร แบบนี้มันมันก็พอได้ ได้กินข้าว ได้ซดน้ำอุ่น ๆ ให้คล่องคอ สบายไปอีกมื้อ

[5] จุดไฟด้วยวัสดุต่าง ๆ

diary-0005-จุดไฟด้วยวัสดุต่างๆ

5. จุดไฟด้วยวัสดุต่าง ๆ

หลังจากที่มาเรียนรู้การประกอบอาหารด้วยฟืนหรือถ่าน ผมก็เรียนรู้การจุดไฟมาเรื่อย ๆ

ความเข้าใจเดิม ๆ ก็คือต้องมีขี้ใต้ มีวัสดุช่วยจุดไฟ ซึ่งถ้าในสถานการณ์ เช่น เดินป่าก็อาจจะเหมาะก็ได้ แต่นี่เราอยู่บ้านมันก็ไม่ต้องมีอะไรยุ่งยาก

ผมเริ่มเรียนรู้การจุดไฟจากเศษกระดาษเหลือใช้ ตั้งแต่การใช้กระดาษเยอะ ๆ จนเหลือเพียงกระดาษไม่กี่แผ่นก็ติดเตาได้

แล้วก็ทดลองใช้กิ่งไม้แทนกระดาษ ใช้เศษหญ้า เศษฟางแทนกระดาษ ลองใช้ไม้ฟืนที่ตัดเตรียมไว้แทน ก็พบว่าแทนกันได้ดี

ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อความยากง่ายในการติดไฟนั้นก็คือความชื้น เราควรเก็บเชื้อเพลิงของเราให้แห้งเข้าไว้จะง่ายต่อการจุดไฟ แต่ถ้าเปียกชื้นมันก็พอได้อยู่ แต่ต้องใช้เวลาและแรงมากหน่อยในการจะก่อไฟแต่ละครั้ง

ผักกับน้ำพริก

ผักกับน้ำพริก

ผักกับน้ำพริก

ผมนี่เป็นคนกินน้ำพริกไม่เป็น เพิ่งจะมาหัดกินน้ำพริกกะปิก็ไม่กี่ปีมานี้ สมัยเริ่มลดเนื้อสัตว์แรก ๆ แต่ปัจจุบันก็ไม่ได้กินแล้ว

ก็เห็นแม่กินข้าวกับน้ำพริกและผักลวก ก็คิดไปว่า เออชีวิตกินแค่นี้ก็ง่ายดีนะ ก็เลยว่าจะลองเรียนรู้บ้าง

ผักที่เอามาลวกก็มีกะหล่ำ ไชยา อ่อมแซ่บป่า ซึ่งอ่อมแซบป่านี่น่าจะกินสด ไม่น่าลวก เพราะมันจะนุ่มนิ่มเกิน ส่วนไชยาชุดนี้นี่ เป็นใบที่เลี้ยงมาแบบขาดน้ำ ดังนั้นมันจึงเหนียว ลองกินใบใหม่ ๆ ดูแล้วไม่เหนียว แต่ถ้าเอาใบแก่ ๆ แนะนำให้หั่นก่อน จะกินง่าย ไม่อย่างนั้นคงจะได้เคี้ยวกันเมื่อยปากแน่ ๆ

ในส่วนน้ำพริกนั้นหยิบมามั่ว ๆ จากร้านขายวัตถุดิบมังฯ เขาก็ว่าเป็นน้ำพริกสมุนไพร ซึ่งจากที่ลองกินดูในมื้อนี้ก็พบว่ามันรสจัด

น้ำพริกนี่แหละคือตัวรวมความจัดของรสชาติ คนก็เลยติดใจไง เพราะมันปรับระดับความจัดได้ อยากให้จัดมากก็ใส่เยอะ ๆ ให้รสอ่อนหน่อยก็ใส่น้อย ๆ ส่วนน้ำพริกแต่ละชนิดก็หลากรสกันไปตามแต่สูตร

ซึ่งผมคิดว่ามันก็ลำบากและสิ้นเปลืองอยู่ดี เพื่อให้ได้มาซึ่งรสจัด ๆ แบบนี้ ถ้าเอาผักในรูปนี้ไปผัดแล้วปรุงในกะทะเลยก็อาจจะง่ายกว่าเอามากินกับน้ำพริก

เพราะแท้จริงแล้วน้ำพริกมีกระบวนการทำที่ค่อนข้างยุ่งยาก ถ้าเราซื้อเอามันจะไม่ชัด ทำเองจะรู้เลยว่ามันยุ่งยากกว่าการหั่นผักแล้วเอาใส่ในกะทะลงไปผัดและปรุงรส

[4] เก็บเศษไม้ ทำเชื้อเพลิง ทดแทนถ่าน

diary-0004-เก็บเศษไม้ทำเชื้อเพลง-*

4. เก็บเศษไม้ ทำเชื้อเพลิง ทดแทนถ่าน

ช่วงแรก ๆ ที่มาอยู่ที่นี่นั้น ผมจะใช้ถ่านเป็นหลักของเชื้อเพลิงในการทำอาหาร

แต่การได้มาซึ่งถ่านนั้นก็ยากเย็น ต้องขับรถออกไปซื้อจากชาวบ้าน แม้จะมีราคาถูกมากเมื่อเทียบกับที่กรุงเทพฯ คือกระสอบละ 130-150 บาท แต่ก็ยังเป็นความไม่สะดวกในการจัดหาอยู่ดี

ต่อมา ผมเริ่มใช้กิ่งไม้เข้ามาเพื่อช่วยลดภาระ จนในที่สุดผมแทบจะไม่ได้ใช้ถ่านที่ซื้อมาเลย เรียกว่าแค่กิ่งไม้ที่มีในพื้นที่ก็ใช้กันไม่ทันเลยทีเดียว

ซึ่งตรงจุดนี้ก็สามารถลดค่าใช้จ่ายและความยุ่งยากจากการซื้อถ่านได้ แต่การมีถ่านสำรองไว้นั้นก็สามารถช่วยได้ในหลาย ๆ กรณีเช่น ไม่มีเวลาจัดหาฟืน ป่วย หรือทำอาหารประเภทเผา ย่าง ปิ้ง ควรจะใช้ถ่านมากกว่า เพราะฟืนจะมีควันค่อนข้างมาก ไม่เหมาะที่จะใช้กับอาหารที่ต้องกระทบกับความร้อนโดยไม่ผ่านเครื่องครัว

ถ้าเราไม่ต้องการซื้อถ่าน เราก็สามารถจะเผาถ่านเก็บไว้เองได้ แต่ในการเผาถ่านนี้ผมยังไม่ได้ทดลอง และหากไม่เผาถ่านก็สามารถจัดหาไม้มาตัดเป็นท่อน ๆ เตรียมสำรองไว้ได้เช่นกัน

เมล็ดข้าวโพด

เมล็ดข้าวโพด

เมล็ดข้าวโพด

ปลูกข้าวโพดไว้ตั้งแต่สามเดือนก่อน แบบว่าปลูกเล่น ๆ ที่เหลือ พอมาถึงคราวนี้ตอนแรกนึกว่าตายหมด เพราะหญ้าโตคลุมสูงกว่าต้นข้าวโพดอีก

แต่พอลองแหวก ๆ หญ้าดูก็เห็นต้นข้าวโพด เห็นฝักข้าวโพดเลยปลิดออกมา

ข้าวโพดที่ปลูกนั้นจำได้ว่ามีสองพันธุ์ ที่แน่ ๆ คือข้าวโพดข้าวเหนียว ส่วนอีกพันธุ์น่าจะเป็นข้าวโพดป๊อปคอน แต่มันก็จำได้ไม่แน่ว่าอาจจะมีพันธุ์อื่นมาผสม ๆ ตอนปลูกก็ได้ เพราะถ้าต้นไหนตาย เราก็ลงเมล็ดไปเสริม

ทีนี้เท่าที่เห็นมันได้เมล็ดมาสามแบบ ฝักล่างนี่ข้าวโพดข้าวเหนียวแน่ ๆ กลางนี่ไม่แน่ใจ เหมือนข้าวโพดบ้าน ๆ ทั่วไป แต่บนสุดนี่ไม่คุ้นเลย ฝักก็สีม่วง ก้านก็สีม่วง ถ้าเมล็ดม่วงก็คงจะพอเดาได้ แต่เมล็ดดันเหลือง เดี๋ยวจะลองปลูกในรอบหน้า ตอนนี้แยกถุงและจดลักษณะไว้แล้ว