ใช้เวลากับห้องสมุด

ตอนนี้เหมือนผมจะไปห้องสมุดบ่อยกว่าที่เคยครับ เพราะต้องไปค้นคว้าหาข้อมูลมาทำงานวิจัยอิสระครับ งานนี้เกี่ยวกับที่เรียนนะครับ ไม่ได้เกี่ยวกับต้นไม้หรืออื่นๆแต่อย่างใด

แต่การไปห้องสมุดครั้งนึงเนี่ย มันใช้เวลาเยอะมาก ผมเองไม่เคยรู้สึกว่าห้องสมุดมีคุณค่ามาก่อน จนกระทั้งหัดอ่านหนังสือครับ เขาว่าคนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยปีละ 7-8 บรรทัดเท่านั้นครับ ซึ่งน้อยมากๆ แต่อาจจะเป็นแบบผมแต่ก่อนก็ได้ จริงๆก็อ่าน แต่อ่านอย่างอื่นน่ะนะ แต่ไม่ได้อ่านหนังสือวิชาการหรือหนังสือทั่วไปแต่อย่างใด เอาเป็นว่าแต่ก่อนนั้นเป็นการอ่านแบบอ่านเพื่อบันเทิงหรือไม่ก็เพื่อแก้ปัญหาเท่านั้นเอง

แต่วันนี้พฤติกรรมการอ่านของผมเปลี่ยนไปมาก เพราะส่วนใหญ่มักจะเป็นการอ่านเพื่อเรียนรู้ เพราะอยากรู้ เพราะอยากเข้าใจ เพราะว่าจำเป็นต้องรู้ จนกระทั่งอ่านไม่ค่อยจะทัน เพราะเรื่องที่อยากรู้มันเต็มไปหมด ซื้อหนังสือมาก็เยอะ ยืมหนังสือมาก็บ่อย อ่านๆไปเรื่อยๆก็เพลินดีครับ

มาถึงเรื่องการใช้เวลากับห้องสมุดของผมในวันนี้…

ผมใช้เวลากับห้องสมุดวันนี้เพื่อค้นคว้าอยู่ 5-6 ชั่วโมงก่อนที่ห้องสมุดจะปิด เพราะว่าติดธุระเลยมีเวลาจำกัด จึงเข้าไปหาข้อมูลเท่าที่ได้ แต่ครึ่งนึงของเวลาที่มีผมกลับไปหาหนังสืออื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับงานวิจัยอิสระมาอ่านครับ พอมีนิสัยรักการอ่านแล้วกลายเป็นพวกอยากรู้แบบสุดขีด ถ้าไม่รู้ไม่เลิก

จริงๆแล้วผมเป็นคนค่อนข้างจะจริงจังกับเรื่องที่ทำอยู่พอสมควร อะไรที่ยังสงสัย ยังคาใจ หรือหาข้อสรุปไม่ได้ก็จะพยายามค้นหาหรือทำจนเสร็จให้ได้ เป็นข้อดี ที่มีข้อเสียมหาศาล นั่นคือมันทำให้ผมแบ่งเวลายากมาก เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่ชีวิตในวันหนึ่งๆเราจะมุ่งสมาธิไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ถ้าทำได้คงต้องอยู่ในถ้ำที่มีแต่ข้อจำกัดให้เหลือแต่สิ่งที่สนใจเท่านั้นเอง

สุดท้ายผมก็คงจะต้องแวะเวียนไปห้องสมุดให้บ่อยและนานกว่าเดิม เพื่อที่จะได้ใช้โอกาสของเวลา สร้างผลประโยชน์ให้ชีิวิตและงานให้มากที่สุด

สวัสดี

ลูกแมวกลางถนน

เป็นเรื่องราวแปลกๆที่ไม่คิดว่าจะเกิดได้ และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต่อไปลูกแมวสีดำที่ผมเจอกลางถนนตัวนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป…

เมื่อวันก่อนผมเจอเรื่องราวแปลกเรื่องหนึ่ง ที่ไม่น่าจะเกิดได้บ่อยนัก มันเป็นความบังเอิญในจังหวะที่ลงตัวมากๆ

บ่ายวันเสาร์ผมขับรถออกจากบ้าน…

ผมขับวนออกจากบ้านโดยใช้เส้นทางเลียบทางด่วนรามอินทรา เอกมัย มุ่งหน้าไปยังเหม่งจ๋าย หลังจากที่กลับรถใกล้เกษตรนวมินทร์แล้ว ก็มาถึงช่วงที่รถจะติดนิดหน่อย เพราะว่าจะมีรถออกจากถนนทางลัดด้านซ้ายที่มาจากเกษตรนวมินทร์ ใครอยู่ใกล้ๆคงจะนึกภาพกันออก พอมาถึงจุดที่รถชะลอตัว ผมก็รู้สึกว่ามันชะลอกันแปลกๆ

รถสิบล้อที่อยู่ด้านขวาของผมหยุดนิ่ง สายตาผมมองไปถึงสาเหตุในการหยุดรถ มีลูกแมวสีดำอยู่กลางถนน (น่าจะอายุประมาณ 3-6 เดือน) ซึ่งอยู่ในเลนรถที่ 2 จากขวา มันมาถึงเลนนี้ได้อย่างไรก็ไม่รู้เหมือนกัน รถคันหนึ่งขับผ่านไปอย่างไม่ได้สนใจลูกแมว ลูกแมววิ่งสวนเข้าใต้ท้องรถ ขณะรถคันดังกล่าวขับผ่านไปด้วยความเร็วไม่มากนัก แต่ถ้าพลาดไปคงถึงชีวิต

เป็นเรื่องน่าตกใจที่ลูกแมวตัวสีดำ ตัวนั้นรอดจากการที่รถคันหนึ่งขับผ่าน จริงๆแล้วมันคงจะรอดมาหลายครั้งแล้วด้วย แต่นั่นคืออดีตก่อนที่มันจะมาอยู่กลางถนน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะรอดตลอดไป….

หลังจากที่รถเก๋งขับผ่านไปแล้ว ผมได้ตัดสินใจในวินาทีแห่งชีวิตแมว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ผมขับปาดไปบังหน้าสิบล้อที่กำลังหยุดดูเหตุการณ์ เปิดไฟฉุกเฉิน แล้วเปิดประตูลงมา ในใจคิดว่าจะเอาลูกแมวขึ้นรถให้ได้ก่อนเท่านั้น แต่ด้วยประสบการณ์ของผม การจับแมวที่ตกใจอยู่นั้นเป็นเรื่องยากมาก เพราะถ้ามันตกใจแล้ว มันอาจจะวิ่งไปให้รถเหยียบก็ได้

ณ ตอนนี้รถทุกเลนหยุดนิ่งทั้งหมด ผมเปิดประตูลงไปเพื่อที่จะจับลูกแมว เดินเ้ข้าไปอย่างช้าๆ เพื่อไม่ให้มันตกใจ (จริงๆมันก็ตกใจมากอยู่แล้วละนะ) จังหวะัที่ลูกแมวหันหลังไปผมก็เดินเข้าไปตะครุบตัวมัน ด้วยสองมืออย่างระมัดระวัง…

ผมจับลูกแมวสีดำตัวนั้นไว้ได้ แต่จับได้ไม่เต็มมือเท่าไหร่ เพราะจับตอนจังหวะมันเดิน และสุดท้ายมันก็วิ่งพุ่งไปข้างหน้าด้วยความตกใจอย่างที่คาดไว้ ทิศทางที่มันวิ่งไปคือใต้ท้องรถแทกซี่ที่จอดดูอยู่เลนขวาสุด และวิ่งทะลุไปจนถึงเกาะกลางถนน ซึ่งเป็นพื้นที่ใต้ทางด่วนที่กว้างใหญ่มากๆ ผมเองเห็นอย่างนั้นก็คงหมดหวังที่จะตามไปจับ แต่ก็สบายใจที่มันไปถึงใต้ทางด่วนได้ เพราะอย่างน้อยก็มีที่กว้างพอให้ดำรงชีวิตได้สักพัก ถ้าข้ามถนนกลับมาตอนเช้าๆ รถน้อยๆ ก็คงจะข้ามกลับไปได้สักฝั่งหนึ่งที่เหลือก็คงจะเป็นชะตากรรมของมัน…ลูกแมวสีดำกลางถนน

หลังจากนั้นผมก็ขึ้นรถ และพี่แทกซี่แกก็ลงมาดูว่าแมวเข้าใต้ท้องรถแล้วไปไหนแล้ว ผมก็ส่งสัญญาณบอกว่ามันวิ่งไปที่ใต้ทางด่วนแล้ว จึงออกรถเดินทางไปยังจุดหมายเดิมที่วางไว้ต่อไป

เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ

หลังจากวันเกิดเหตุผมก็ขับผ่านถนนเส้นเดิม มุมเดิมอีกครั้งในใจภาวนาว่าอย่าเป็นซากอะไรสีดำๆบนถนนเลย และมันก็ไม่มีจริงๆ อย่างน้อยผมก็คิดว่าลูกแมวสีดำตัวนั้นมันยังไม่ถึงเวลาของมัน เป็นความบังเอิญมากๆที่มันรอดไปได้ ไม่รู้ว่าจะมีหมาแมวสักกี่ตัวที่เอาชีวิตมาทิ้งในการข้ามถนน เรามักจะเห็นซากหมาแมวตายตามถนนเป็นประจำ ซึ่งพวกมันคงจะไม่ได้ดวงดีรอดไปเสียทุกครั้ง ครั้งใดที่พลาดก็คงหมดทางแก้ตัว

เรื่องดวงดี ดวงไม่ดีนี่ก็เป็นความบังเอิญที่เกินจะคาดเดาได้เสมอ เพราะแม้แต่นกที่บินได้ก็ยังมาตายแบบแบนๆกลางถนนเลย เพราะวันนี้ผมเห็นซากนกพิราบ บนถนนใน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แน่นอนว่าในมหาวิทยาลัยนั้น เราจะขับรถกันไม่เร็ว แต่ถ้านกโดนทับตายได้มันก็เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ…

สวัสดี

To do list กับการควบคุมชีวิต

เหมือนว่าตอนนี้วิถีชีิวิตของผมจะหลุดไปจากที่เคยพอสมควร ช่วงสามเดือนมานี่ไม่ได้เขียน To do list หรือรายการสิ่งที่จะทำในแต่ละวันเหมือนก่อน ทำให้บางวันนั้นดูว่างเปล่าเกินจะจินตนาการ

ผมเป็นคนที่ชอบวางแผนในแต่ละวัน ซึ่งก็มักจะทำตามแผนที่วางไว้อย่างหลวมๆ คือมีแนวทางในแต่ละวันนะ แต่จะเสร็จไม่เสร็จนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆมากมาย เพราะบางทีก็ไม่ได้ว่างทั้งวัน หรือมีเหตุการณ์อะไรเข้ามาเสมอๆ ทำให้ทำตาม To do list ไม่ได้ ซึ่งช่วงหลังๆก็เลยไม่ได้เขียนเหมือนเคย

ปัจจุบันได้ค้นพบแล้วว่าถ้าผมไม่เขียน To do list ไว้บ้าง ชีวิตในแต่ละวันก็มีโอกาสล่องลอยไปตามลมฟ้าอากาศได้มากพอสมควรเลย ความขยันที่เคยมีเมื่อก่อนถูกพัดพาให้ไกลออกไปด้วยลมเย็นๆ ตอนบ่ายแก่ๆ ซึ่งตอนนี้ผมพยายามตั้งสติและกลับมาเป็นตัวเองอย่างที่เคยเป็นอีกครั้ง เพราะนอกจากงานที่กองสุมมากมายแล้วยังมีเรื่องเรียนซึ่งเป็นเรื่องที่รอไม่ได้อยู่อีกด้วย

ใครมีอาการแบบผมแนะนำให้วางแผนชีวิตโดยเขียน To do list ไว้บ้างนะครับ แม้ว่าจะเป็นระยะสั้นแต่ก็ดีกว่าเราไม่ได้วางแผนอะไรเลย

สวัสดี

ฟ้าฝนที่ไม่น่าไว้วางใจ

เมื่อคืนฝนตกลงมาอย่างหนัก และตกต่อเนื่องจนถึงตอนเช้า ผมตื่นมาพร้อมบรรยากาศชื้นๆ ไม่นานนัก แสงอาทิตย์เริ่มแรงขึ้นจนเป็นสัญญาณบอกให้…

ซักผ้า!

ครับเรื่องฟ้าฝนกับแดดแรงๆนี่คงจะไม่มีอะไรมากกว่าการซักผ้า เพราะผมตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะใช้ช่วงแดดดีๆนี่แหละซักพวกผ้าห่มและผ้าคลุมเตียง ซึ่งจะพยายามซักบ่อยๆเท่าที่มีโอกาส บางทีฝนตกติดต่อกันหลายวันก็ทำให้ลำบากเหมือนกันนะ

วันนี้แดดดีช่วงเช้าๆแต่พอเผลอเข้าฝนก็ตกหนักทันที แทบจะเก็บผ้าที่ตากไว้ไม่ทัน หลังจากฝนตกลงมาห่าใหญ่ก็เริ่มมีแดดอีกครั้ง ทำให้รู้ว่าแม้จะมีแดดก็ไม่น่าไว้วางใจ เพราะฝนตกตอนแดดออกได้เสมอ บางทีมองออกไปเห็นแต่ฟ้าไกลๆไม่ได้ดูฟ้าใกล้ๆว่ามีเมฆฝนลอยผ่านมาละนะ

ล่าสุดหลังจากชิงจังหวะแดดออกนำผ้าห่มไปตากได้หนึ่งแดดก็แห้่งแล้วครับ ส่วนผ้าอื่นๆยังต้องรอคิวต่อไปเพราะไม่แน่ใจว่าฝนจะตกลงมาอีกรึเปล่า เอาไว้วันไหนแดดดีๆฟ้าโปร่งๆค่อยซักแล้วกันนะ

สวัสดี

ช่วงนี้ ช่วงเรียน ช่วงศึกษา

การเรียนของผมก็ดำเนินมาได้เกินครึ่งแล้วนะครับ ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเทอม 5 ครับ เป็นช่วงที่ต้องทำการค้นคว้าอิสระ ที่ต้องใช้ความสามารถส่วนตัวกันเยอะเพราะเป็นงานเดี่ยวชิ้นใหญ่นั่นเอง

การศึกษาค้นคว้าอิสระ หรือที่เขาเรียกย่อๆว่า ” IS (Independent Study) นั้นเป็นหนึ่งในหลักสูตรการเรียน ปริญญาโท ของ YMBA KU ครับ ซึ่งรุ่นของผมนั้นก็ทำ IS กันทั้งหมดคือ 100% เลย แต่ว่าตั้งแต่รุ่น 21 เขาก็เปลี่ยนให้มีวิทยานิพนธ์ (Thesis) เข้ามาเพิ่มด้วยครับ อัตราส่วนนั้นไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นเท่าไหร่ ถ้าใครจะสมัคร YMBA KU รุ่นต่อๆไปอาจจะต้องวางแผนเพิ่มกันนิดหนึ่งนะครับ
สำหรับ IS นี่ผมเองยังไม่เคยทำเหมือนกันครับ แต่เคยทำคล้ายๆกันนั่นคือ ศิลปนิพนธ์ เขาก็เรียกว่า Thesis ( Art Thesis) เหมือนกันครับ ทำให้มีความคุ้นเคยในรูปแบบอยู่บ้าง แต่วิธีการทำนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ

คราวนี้ก็จะเป็นบททดสอบใหม่ที่จะเข้ามา ทำให้ช่วงนี้อาจจะห่างหายจากการมาพิมพ์บล็อกไปสักพัก หรือเข้ามาเยี่ยมบล็อกตัวเองน้อยลงอะไรประมาณนั้น

สวัสดี

วันแดดดีอย่างนี้ต้องตากผ้า~

วันนี้เป็นวันที่แดดดี อากาศดี ผิดกับหลายๆวันที่ผ่านมา ที่มีแต่ฝนตกฟ้าครึ้ม และบรรยากาศที่หมองหม่น…

วันสดใสแบบนี้ ภารกิจที่สำคัญของผมจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกเสียจากว่าซักผ้าและตากผ้าให้ไวๆครับ เพราะแดดแรงๆแบบนี้ทำให้ผ้าแห้งไวปราศจากกลิ่นอับ ใส่แล้วรู้่สึกว่าสะอาดปลอดภัยจริงๆครับ และถ้าไม่ซักตากกันวันนี้ เดี๋ยวต่อไปจะไม่มีฟ้าสดใสมาให้ตากผ้ากันสักพักครับ เพราะดูพยากรณ์อากาศเมื่อวาน เขาบอกว่าลมฝน และฟ้าหม่นอาจจะกลับมาอีกครั้งเร็วๆนี้

ดังนั้น มีเวลาผ่านที่พอจะเก็บเกี่ยวช่วงเวลาแดดดีๆก็รีบตากผ้ากันไว้นะครับ

สวัสดี

ฝันว่าจุ๊บกลับมาบ้าน

เป็นฝันของเมื่อคืน ซึ่งเป็นวันที่อ่อนเพลียมาก เนื่องจากเพิ่งกลับมาจากวันรับน้อง ที่มหาวิทยาลัย ผมซึ่งอยู่ในบทบาทของรุ่นพี่ มีภาระหน้าที่ก็ไม่มากเท่าไหร่แค่ถ่ายรูปให้เยอะๆ

ผมกลับมาถึง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรฺ์ ประมาณ 4 โมงเย็น ด้วยสภาพอ่อนเพลียเต็มที และเมื่อกลับมาถึงบ้านก็อาบน้ำนอนตั้งแต่เย็นเลย ความฝันค่อยๆ เริ่มขึ้นอย่างช้าๆในค่ำคืนอันยาวนอนที่แสนจะเหนื่อยล้าของผม

มีฝันมากมายในคืนนี้ ฝันบ้าบอ ฝันไร้สาระ หาเหตุผลไม่ได้ก็มีเยอะแยะ แต่ในจำนวนฝันมากมายหลายหลากเหล่านั้น ที่ทำให้ผมต้องนึกถึงเมื่อตื่นขึ้นมา…

ผมฝันว่าจุ๊บกลับมาบ้าน…

ผมฝันว่าจุ๊บเดินกลับมาที่บ้าอย่างปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จุ๊บในฝันนั้นยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ผมอุ้มมันและทักทายมันว่ากลับมาแล้วหรอ แน่นอนนี่คือฝันตอนสั้นๆ เนื้่อหาเท่าที่จำได้มีเท่านี้ แต่มันทำให้ผมที่ตื่นมามีความรู้สึกสับสนนิดหน่อย และทำให้ยังคาดหวังว่ามันจะกลับมา

ซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นแค่ฝันในวันเหนื่อยๆเท่านั้นเองครับ อาจจะเพราะทริปที่ไปรับน้องไปเจอแมวเยอะก็ได้ ไปวัดก็เจอแมว ไปโรงแรมก็เจอแมว ร้านอาหารก็เจอแมว มีแมวเต็มไปหมดเลยเก็บเอามาฝันละนะ…

สวัสดี

แมลงก้นกระดกเข้ามาในห้อง

ปกติแล้วห้องของผมถ้าไม่ปิดหน้าต่างก็จะต้องปิดมุ้งลวดไว้ กันไม่ให้แมลงหรือยุงเข้ามาครับ แต่วันนี้มีแมลงที่ผิดคาดไปจากเดิมเข้ามาครับ

นั่นคือแมลงก้นกระดก !!

หรือด้วงก้นกระดกนั่นเอง พิษสงของมันนั้นดูจะใหญ่เกินตัวครับ ผมเองไม่คิดว่าจะเจอมันในบ้านครับ บ้านผมอยู่แถวๆลาดพร้าวซึ่งดูแล้วไม่เหมาะที่แมลงจะเข้ามาเพาะพันธุ์ครับ แต่เจ้าแมลงก้นกระดกก็เดินผ่านมาให้ผมเห็นชัดๆเลยครับ

แมลงก้นกระดก
แมลงก้นกระดก

เจ้าแมลงก้นกระดกตัวนี้ เดินดุ่มๆเข้ามาในห้องผมหน้าตาเฉย และตำแหน่งที่มันกำลังเดินอยู่คือหน้าโต๊ะทำงานของผมครับ เหมือนว่าจะเดินมาโชว์ให้เห็นเลยนะเนี่ย สุดท้ายผมก็จับมันโดยใช้แหนบหนีบออกไปโยนนอกบ้านครับ อย่าเผลอทำให้ตัวมันแตกนะครับ เพราะในตัวมันจะมีสารที่เป็นพิษกับเราครับ อันตรายมาก

คนส่วนใหญ่ที่เจอนิยมเอาเทปกาวไปแปะมันไว้ครับ อันนี้ฟังๆเขามา เป็นวิธีกว่าไปบี้มันแน่นอนครับ ถ้าเผลอไปโดนก็ควรจะล้างมือให้ไว แล้วอย่าเอามือไปจับร่างกายหรือขยี้ตาเชียวนะครับ อาจจะมีสารพิษติดอยู่ก็ได้อันตรายจริงๆ

แมลงหรือด้วงอะไรก็ไม่รู้
แมลงหรือด้วงอะไรก็ไม่รู้

อันนี้แถมครับ เป็นแมลงอะไรก็ไม่รู้เกาะอยู่บนผนังห้อง ตัวมันก็ใหญ่กว่ารูมุ้่งลวดนะครับ แต่เข้ามาได้ยังไงก็ไม่รู้เหมือนกันนะ

อันนี้อีกตัว ไม่รู้ตัวอะไร
อันนี้อีกตัว ไม่รู้ตัวอะไร

เจ้าตัวนี้อีกตัว ตัวใหญ่กว่ารูมุ้่งลวดอีกแล้ว เข้ามาทางไหนไม่รู้ แต่ถ่ายรูปเก็บหลักฐานไว้ก่อนว่าเข้ามาแล้ว วันหลังจะได้จำได้ว่า อ๋อ ตัวแบบนี้มันเคยเข้ามาบ่อยๆแล้ว แต่ว่ามันเข้ามาทางไหนละ…

ยังไงถ้าเจอพวกแมลงพวกนี้ก็อย่าเผลอไปบี้มันนะครับ ปล่อยมันไปหรือเอามันไปล่อยจะปลอดภัยกับเรามากกว่าครับ ส่วนจะป้องกันยังไงนั้นผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ มีอย่างเดียวที่รู้คือไม่ว่าจะทำอะไรก็ควรดูให้ดีก่อนแค่นั้นเองครับ

สวัสดี

แมวที่รักหายไปร่วมครึ่งปี

แมวหายไปนี่ปกติ ถ้ามันไม่ได้เป็นอะไร มันก็จะกลับมาเอง แต่แมวตัวนี้ของผมหายไปร่วมครึ่งปีแล้วครับ

จริงๆก็เป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้วถ้าตามอ่านบล็อกนี้มา  ว่าจุ๊บแมวของผมนั้นหายไปตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่ ที่ผ่านมาจนจะครึ่งปีแล้ว

ผมเองหมดหวังไปนานแล้วเหมือนกันว่ามันจะกลับมา แม้ว่าตอนแรกๆจะมีความคาดหวังเสมอ ว่าเปิดประตูบ้านไปตอนเช้าก็จะเจอจุ๊บนอนรอกินข้าวอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเรื่องราวในวันก่อนที่จุ๊บจะหายไป

แต่ในวันนี้การเปิดประตูบ้านไปแล้วไม่เจออะไรเลยนี่กลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว เพราะตัวใหญ่ก็ไม่ค่อยจะได้มาสักเท่าไหร่ และตัวใหญ่ก็ไม่เคยมารออาหารเหมือนจุ๊บด้วย

….

วันก่อนเพิ่มหมวดหมู่สัตว์เลี้ยงขึ้นมา ทำให้ต้องทำการโยกย้ายบทความกันนิดหน่อย ผมก็พบว่าผมได้เขียนเรื่องเกี่ยวกับจุ๊บไว้มากเหลือเกิน เหมือนเป็นพวกเห่อแมวอะไรอย่างนั้น ก่อนหน้าที่จะเขียนบล็อกผมเองก็ไม่ได้ใส่ใจจุ๊บสักเท่าไหร่ แต่พอมาเขียนบล็อกทำให้ผมสนใจมันมากขึ้นกว่าเดิม และสังเกตุมันมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเขียนเรื่องของมันแล้วสนุกมากๆ แต่ตอนนี้คงเป็นแค่อดีตให้ได้อ่านกัน

สวัสดี

ตัวใหญ่ แมวด่าง

ตอนนี้ผมเหลือแมวอยู่ตัวเดียวแล้วครับ นั่นคือตัวใหญ่ ตัวใหญ่คืือชื่อแมวนะ เดี๋ยวจะมาเล่าอีกทีว่าทำไมถึงชื่อตัวใหญ่

วันนี้จะมาให้ดูภาพเกี่ยวกับตัวใหญ่ แมวด่าง ขาวดำตัวนี้ แมวในประเทศไทยของเรานั้นมีมากมายหลายพันธุ์หลายสี หลายแบบ ซึ่งแบบด่าง ขาว ดำ นั้น สามารถพบเห็นได้ทั่วไป…

ตัวใหญ่ที่นอนหลับอยู่หน้าบ้าน
ตัวใหญ่ที่นอนหลับอยู่หน้าบ้าน

ตัวใหญ่นั้นจะนิสัยต่างจากจุ๊บค่อนข้างมาก จุ๊บมักจะอยู่รอบๆบ้าน เดินหาไม่นานก็จะเจอ แต่ตัวใหญ่มักจะออกไปนอกบ้านทีละหลายๆวัน และกลับมานานๆครั้ง หลังจากจุ๊บหายไป ตัวใหญ่ก็ยังมีนิสัยเหมือนเดิม จะมานอนที่บ้านก็นานๆที

เข้าไปใกล้ๆก็ตื่นตามประสาแมว
เข้าไปใกล้ๆก็ตื่นตามประสาแมว

ถ้าเข้าไปใกล้ๆ แมวก็มักจะรู้ตัวก่อนเราเข้าไปถึงเสมอๆ แต่ก็ไม่ใช่ทุกกรณี ยกตัวอย่างเช่นจุ๊บถ้านอนนอกบ้าน เดินไปใกล้แค่สองเมตรมันก็ตื่นแล้ว แต่ถ้าจุ๊บมานอนในบ้านเดินเข้าไปลูบก็ยังไม่ตื่น (เข้าใจว่ามันหลับอย่างไม่มีกังวลเลยหลับลึก)

มีการมองค้อนนิดหน่อย
มีการมองค้อนนิดหน่อย

ตัวใหญ่ จะดูเป็นแมวตัวผู้มากกว่าจุ๊บ แต่ก่อนนี้มันไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่ตั้งแต่มันติดสัดครั้งแรกจนโดนทำหมัน ตัวใหญ่ก็เปลี่ยนไป เหมือนจะเข้มแข็งขึ้นนะ ตาของตัวใหญ่เหมือนจะเป็นฝ้า ไม่รู้ว่าโดนอะไรมา แต่ดูมันยังใช้ชีวิตได้อย่างปกติอยู่อย่างสบายๆ

ขนสีขาวดำ ของตัวใหญ่
ขนสีขาวดำ ของตัวใหญ่

ขนของตัวใหญ่ แมวด่างสีขาวดำ ตัวใหญ่มีแค่สองสีเหมือนจุ๊บ  จุ๊บจะมีสีขาวน้ำตาล ซึ่งตอนนี้คงจะได้แต่ดูรูปกันไป เพราะจุ๊บนั้นหายไปนานกว่าครึ่งปีแล้ว และคิดว่าคงไม่ได้กลับมาอีกแล้ว…

สวัสดี