กระเพราเห็ดไข่ดาว

วันนี้มากับเมนูใหม่กระเพราเห็ดไข่ดาว เมนูที่ผ่านเข้ามาในหัวเมื่อหลายวันก่อน วันนี้มีโอกาสได้ออกไปกินรู้สึกประหลาดอย่างไม่น่าเชื่อ

ที่มาที่ไปของกระเพราเห็ดไข่ดาว

มันสืบเนื่องมาจากที่วันหนึ่ง ผมไปซื้อไก่กินที่มหาลัย ซึ่งซื้อมาเยอะหน่อยเพราะว่าหิว กินไปกินมามันก็เริ่มไม่อร่อยเพราะเยอะ+เลี่ยนไป (ไก่ทอด) ก็มานั่งนึกๆว่าทำไมต้องกินไก่ด้วย ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบได้ที่ทำให้ผมซื้อไก่กิน ก็รู้สึกว่าถ้าจริงๆเราไม่กินไก่กินอย่างอื่นก็ได้นะ ก็มานั่งคิดไปว่าไม่กินเนื้อสัตว์ก็อยู่ได้นี่นะ เป็นการลดน้ำหนักไปในตัวด้วยเพราะบางทีอะไรที่มันอร่อยเกินไปก็จะกินเยอะเกิน

ต่อเนื่องจนเป็นกระเพราเห็ดไข่ดาว

วันก่อนได้ไปกินสเต๊ก เนื่องจากไม่ได้กินมานาน แต่ความรู้สึกไม่เหมือนก่อน ไม่ใช่ว่ามันไม่อร่อย แต่ก็ไม่รู้จะไปกินทำไมให้มันลำบาก กินให้อิ่มก็พอ เหมือนว่าความคิดของผมก่อนหน้านี้มันมากเกินไปหน่อย รู้สึกเหมือนอยากปรับตัวเองให้พอดีกับความเป็นจริงเสียหน่อย ทำไมผมต้องลำบากออกเดินทางไปหาสเต๊กกินด้วยนะนี่…

วันนี้ก็ได้กินกระเพราเห็ดไข่ดาว

วันนี้ตอนสายๆออกไปกินข้าวที่สี่แยกแถวบ้าน ซึ่งมีร้านอาหารตามสั่งอยู่ ถ้าปกติสำหรับผมแล้วก็คงจะสั่งกระเพราหมูกรอบพิเศษไข่ดาว แต่วันนี้เริ่มลังเล มาถึงที่ร้านมองไปไม่เห็นหมูกรอบก็เป็นโอกาสที่ดี เพราะร้านนี้จะทอดหมูกรอบประมาณสายๆ ถึงเที่ยง แต่วันนี้เขายังไม่ได้ทอดก็เป็นโอกาสที่ดีในการเปลี่ยนเมนูเสียเลย

ผมมองไปที่ตู้ใส่ผักว่ามีอะไรบ้าง ตอนแรกคิดว่าจะใส่เห็ดกับข้าวโพด แต่เห็นว่ามีเห็ดเยอะก็เลยสั่งแต่กระเพราเห็ด ใส่ไข่ดาวเพิ่มไปอีกหน่อย แม้ค้าถึงกับต้องถามซ้ำอีกครั้งว่ากระเพราใส่เห็ดอย่างเดียวหรอ ปกติคงจะไม่ค่อยมีคนสั่งเมนูนี้เท่าไหร่ หรือไม่ก็สั่งแล้วใส่ควบกับอย่างอื่น ก็ตกลงเอาเมนูนี้แหละ วันนี้มั่นใจและพร้อมที่จะกินกระเพราเห็ดเต็มที่แล้ว แม้มันจะแปลกๆในใจก็ตาม

หลังจากนั่งรอไม่นานนักกระเพราเห็ดไข่ดาวก็ถูกนำมาวางไว้หน้าผม รสชาติของกระเพราก็เหมือนเดิมต่างไปแค่เป็นเห็ดแทนเนื้อสัตว์ ผมคิดว่าที่มันอร่อยจริงๆก็ตรงกระเพราไข่ดาวนี่แหละ พวกเนื้อหมูกรอบหรืออะไรก็ตามดูเหมือนจะเป็นเครื่องเคียง เพราะฉะนั้นเปลี่ยนเนื้อสัตว์เป็นเห็ดก็เลยไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่ กินไปก็อร่อยดี ในใจก็คิดว่านี่แหละเมนูยอดฮิตในปีนี้ของผม อย่างมาก็ใส่เต้าหู้เพิ่มเข้าไปด้วยอีกหน่อย

สักพักก็มีคนเดินมาสั่งกระเพราหมูกรอบ แต่ที่ร้านยังทอดไม่เสร็จบอกว่าอีกครึ่งชั่วโมงได้ คนที่เขาสั่งกระเพราหมูกรอบแทนที่จะเปลี่ยนเป็นกระเพราอย่างอื่นก็ยังยืนยันที่จะรอกระเพราหมูกรอบ เพราะร้านนี้หมูกรอบเด็ดจริงๆครับ แต่ในระหว่างที่ผมกินอยู่นั้น กลับไม่รู้สึกอยากเปลี่ยนใจกลับไปกินหมูกรอบเลย หรือเพราะได้กินเข้าไปบ้างแล้วอาการหิวเลยไม่มีทำให้ไม่อยากและไม่สนใจเมนูอื่นแล้ว

สรุปแล้วกระเพราเห็ดก็อร่อยดีครับ วันหลังว่าจะให้ใส่อย่างอื่นไปด้วย เช่นข้าวโพดอ่อน เห็ดหูหนู ฯลฯ ประมาณว่าอยากกินผักแทนแล้วครับ อะไรก็ได้จะพยายามเปลี่ยนตัวเองให้ได้สักวัน

สวัสดี

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับการลดเนื้อสัตว์ มากินผักได้ที่ Veggie kitchen , facebook (Veggie Kitchen)

มองย้อนไปเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา (2553)

เมื่อกี้ผมลองค้นดูรูปเก่าๆเมื่อถ่ายเมื่อปีที่ผ่านมา พบว่าหลายๆเหตุการณ์ดูเหมือนเพิ่งจะเกิดไปเมื่อไม่นาน แต่พอดูวันที่แล้วมันผ่านไปเมื่อปีที่แล้วทั้งนั้น

เขาว่าคนเราเมื่อมีความสุขเวลาจะผ่านไปเร็ว จริงรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่รู้แน่ๆคือเวลาที่เรามองย้อนกลับไปข้างหลัง มันดูเหมือนจะใกล้กว่าที่คิด ทั้งๆที่มันห่างไปตั้งหนึ่งปี ความทรงจำต่างๆที่เก็บรวบรวมมาไว้ในหนึ่งปีนั้น ถ้าไม่ได้รูปถ่ายช่วยจำไว้ ชีวิตผมก็คงต้องหลงลืมอะไรหลายๆอย่างไปตามทางที่มันควรจะเป็น

การจำหรือระลึกอะไรได้เยอะๆมันก็ดีอย่างตรงได้ทบทวนว่าได้ทำอะไรลงไปบ้างในเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา บางอย่างก็มีความสุข บางช่วงก็ทุกข์บ้าง แต่ไม่มีช่วงไหนเลยที่ไม่ดี เพราะทุกเหตุการณ์นั้นสอนผมอยู่เสมอว่าได้ทำอะไรลงไปแล้วได้ผลอะไรกลับมา

มีอย่างหนึ่งที่มองไปแล้วคิดถึงมากๆ นั่นคือจุ๊บ ผมไล่ดูรูปจุ๊บในปีที่ผ่านๆมา ผมถ่ายรูปมันไว้เยอะมากๆ เพราะมันน่ารัก และเป็นแมวตัวโปรด มันมีนิสัยที่เป็นตัวของตัวเองสูงมาก เดาใจยากสุดๆแต่ก็มีรูปแบบให้พอจะจับทางได้บ้าง และที่สำคัญมันนุ่มมาก ตอนนี้มันหายไปจากบ้านเกือบสองอาทิตย์แล้ว ผมอยากรู้ว่ามันไปไหน อยู่หรือตายไปแล้ว มันอาจจะถูกรถชนก็เป็นได้ ถ้ามันจะไปติดสาวบ้านอื่นก็คงจะยากเพราะมันโดนทำหมันตั้งแต่เด็ก อาการกระหายประจำปีของแมวหนุ่มจึงไม่เคยเกิดขึ้นกับมัน

จุ๊บเป็นแมวที่แทบจะไม่ส่งเสียงร้องเลยแม้แต่นิดเดียว เหมือนวิลลี่แม่ของมัน ผมชอบแมวแบบนี้ เงียบๆ ไม่สงเสียง นอน เดิน ตามใจของมัน แมวที่มายุ่งวุ่นวายมากๆกับร้องมากๆ นั้นส่วนใหญ่ผมจะไม่ค่อยได้ให้ความสนใจกับมันสักเท่าไรนัก

จริงๆคงจะเป็นผมเองก็ได้ที่แปลก จึงอยู่กับแมวแปลก หรือไม่ก็แมวได้ซึมซับสิ่งแปลกๆจากผมมาก็เป็นได้ จนถึงตอนนี้จุ๊บก็ยังไม่กลับบ้าน ได้แต่หวังว่าวันหนึ่งมันจะกลับมา…

สวัสดี

ผ่านข้ามปี กับหนึ่งอาทิตย์ที่ไม่มีจุ๊บ

หลังจากที่จุ๊บหายไปตั้งแต่ช่วงวันคริสต์มาสหรือ ประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ตอนนี้ผ่านข้ามปีเก่ามาถึงปีใหม่แล้วก็ยังไม่มีวี่แววของมันโผล่มาเลย

ใครยังไม่ได้อ่านก็ตามไปอ่านตอนที่แล้วก่อนได้นะครับ > ” จุ๊บไปไหน?

หลายวันก่อนผมพยายามเดินหามัน หาร่องรอย หากลิ่นที่ไม่อยากดม เผื่อจะเจออะไรบ้าง เพราะแม่กับผมเองเข้าใจดีว่าจุ๊บเป็นแมวที่ติดบ้านมากๆ ตลอดชีวิตของมันไม่เคยห่างบ้านเลย เป็นแมวที่ติดบ้านมากที่สุดในหมู่แมวจำนวนมากที่ผมเลี้ยงมา

การที่มันหายไปแบบนี้ย่อมเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเอาเสียเลย แต่มันหายไปแบบไร้ร่องรอย ไม่มีวี่แววอะไร ก็คงจะเป็นอย่างนั้นเพราะมันคือแมว จะหายไปไหนก็คงไม่ได้บอกเราก่อนหรอกนะ

ช่วงนี้ผมเจอแต่ตัวใหญ่ และมักจะเจอในที่ ที่จุ๊บเคยอยู่เสมอๆ ตัวใหญ่มันจะนั่งตรงที่จุ๊บเคยนั่ง รอคนเข้าบ้านเพื่อมาให้อาหารมันตรงที่จุ๊บเคยรอ ตัวใหญ่ก็ไม่เคยมาอยู่แถวบ้านบ่อยๆแบบนี้เช่นกัน ผมเองภาวนาให้มันสลับกันมากกว่าที่จะไปอย่างถาวร ตัวใหญ่กลับบ้าน จุ๊บออกไปท่องเที่ยวตามหาตัวเอง ถ้าเป็นแบบนี้สักวันมันคงจะกลับมา

ผมมองจุ๊บ มองแมวตัวนี้ เหมือนสมาชิกในบ้าน แม่ของผมเป็นห่วงมันเอาเสียมากๆ เพราะมันชอบอ้อนแม่ ขอให้แม่เปิดประตูให้มันเข้ามานอนในบ้านเป็นประจำ ไม่ก็มานอนดูทีวีกับแม่ แม่กังวลเกี่ยวกับจุ๊บมากๆเลยครับ ผมเองก็เช่นกัน แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็คงต้องถามเพื่อนบ้าน ถามยามแถวบ้านเอาว่าเห็นแมวหน้าตาแบบนี้บ้างไหม…

ตอนนี้เป็นช่วงปีใหม่ หลายบ้านไม่ค่อยอยู่บ้าน หมู่บ้านดูจะเงียบเหงาไปนิดหน่อย ผมมองออกไปตอนเช้า ตอนสาย บ่าย เย็น ค่ำ ในตำแหน่งที่ควรจะมีจุ๊บอยู่ แต่ทั้งหมดนั้นว่างเปล่า บางครั้งตำแหน่งเหล่านั้นถูกแทนที่ด้วยตัวใหญ่อย่างที่บอกไว้ตอนแรก ถ้าปีนี้ถามว่าผมอยากได้ของขวัญปีใหม่เป็นอะไร ก็คงอยากให้แมวของผมกลับมาอยู่ที่บ้านแหละครับ หรืออย่างน้่อยก็อยากรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน พอไม่เจอมันแล้วเหงาๆพิกล

สวัสดี

จุ๊บไปไหน?

เมื่อตอนเย็นที่ผ่านมา แม่เดินเข้ามาและถามว่า “เห็นจุ๊บบ้างไหม” พอนึกๆไป ผมก็รู้สึกเหมือนกันว่าช่วงนี้ไม่ได้เห็นจุ๊บมาสองสามวันแล้ว…

ปกติถ้าเป็นตัวใหญ่ละก็ ไม่เห็นเป็นเดือนก็ยังเฉยๆเพราะเป็นเรื่องปกติของตัวใหญ่ไปแล้ว แต่สำหรับจุ๊บนั้นต่างออกไป จุ๊บเป็นแมวที่ค่อนข้างติดบ้านพอสมควร ผมกับแม่มักจะเจอจุ๊บในเวลาเดิมๆหรือที่เดิมๆเป็นประจำ อย่างสองวันก่อนผมกลับบ้านดึกทุกวัน ซึ่งปกติจะเห็นจุ๊บนั่งอยู่แถวๆหน้าบ้านไม่ก็ริมถนน แต่ช่วงสองวันนี้กลับไม่เห็นอะไร

และก็ยังไม่เห็นจุ๊บมากินข้าวเสียด้วย ซึ่งปกติแล้วมันก็ไม่น่าจะหายไปขนาดนี้เพราะมันเป็นแมวที่ติดบ้านมากๆ เป็นผลทำให้มันอ้วน ซึ่งถ้าการออกไปท่องเที่ยวไกลๆ ทำให้มันหิวล่ะก็ อย่างน้อยก็น่่าจะกลับมากินข้าวที่บ้านบ้างนะ

วันนี้ตอนค่ำๆผมเดินไปดูตามซอยหมู่บ้านเผื่อจะเจอมันยืน นั่ง เดิน หรือนอนอยู่ตามถนนบ้าง เพราะเคยเห็นมันอยู่ซอยอื่นเหมือนกันนะ หวังว่ามันคงจะกลับมาบ้านเร็วๆนี้ แม่กับผมเป็นห่วงมันจริงๆเลยนะนี่

สวัสดี

จุ๊บข้างถนน

หลายวันก่อน ขณะที่กำลังเดินทางเข้าหมู่บ้าน เจอแมวหนึ่งตัวเดินเล่นอยู่ข้างทาง… ตอนแรกเห็นไกลๆก็คิดว่า แมวที่หมู่บ้านเรานี่ก็เยอะดีนะ แต่ดูไปดูมา..นั่นมันแมวบ้านผม..!!

จุ๊บข้างถนน
หันมามองทำหน้าแมวสงสัยนิดหน่อย เหมือนว่าไม่เคยเห็นแมวรึไง ตำแหน่งนี้อยู่ห่างจากบ้านประมาณร้อยเมตรครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่าอาณาเขตของแมวมันกว้างใหญ่เท่าไหร่เหมือนกัน แต่รู้ว่านี่ก็ไกลจากบ้านพอสมควร

แมวข้างถนน
จุ๊บนี่เวลาเข้าไปใกล้ๆมันจะเดินหนีครับ เป็นปกติสำหรับมันและผมไปแล้ว จริงๆมันก็กลัว+เกรงคนอื่นๆด้วยเหมือนกัน จะเชื่องกับแม่ผมคนเดียวเท่านั้นเอง

แมวหลบหลังเสา
เดินไปสักพักก็มาหลบหลังเสาไฟฟ้านี่แหละ รู้สึกปลอดภัยดีตอนกลางวันหรือเมื่อเวลาแมวอยู่กลางแจ้ง รูม่านตาของมันจะปิดให้รับแสงน้อยลงครับ ดูๆแล้วก็ไม่ค่อยได้เห็นจุ๊บในมุมนี้เท่าไหร่ เพราะปกติที่เห็นจะกลับมานอนอยู่บ้านก็ตอนเย็นๆแล้ว ส่วนตอนบ่ายๆไม่รู้มันไปเที่ยวที่ไหนเหมือนกัน

เห็นแมวตัวเองไปเที่ยวไกลๆแล้วก็แอบห่วงอยู่นิดหน่อยว่ากลัวจะไป ทะเลาะกับแมวที่อื่นแล้วได้แผลมาครับ…

สวัสดี

สองแมวหิว

ช่วงนี้ตัวใหญ่กลับบ้านมาบ่อยมากครับ เห็นเกือบทุกวันเลย ตัวใหญ่จะมารอกินข้าวเป็นประจำ.. และจุ๊บก็รอด้วยเหมือนกัน

สองแมวหิว

เดี๋ยวนี้เวลาตัวใหญ่มารอกินข้าว จุ๊บก็จะมารอเหมือนกันครับ เหมือนกับว่ามันรอมากินพร้อมกัน กินตัวเดียวไม่อร่อย เพราะว่าหลายครั้งที่เห็นจุ๊บแตะๆดมๆ กินนิดหน่อยแล้วก็เดินหายไปครับ คงหวังว่่าจะได้กินปลาแทนก็เลยยังไม่กินอาหารเม็ดแน่ๆ

แต่พอตัวใหญ่มาแล้วเหมือนมันได้กินด้วยกันครับ ดูมันกินได้นานขึ้นเยอะขึ้น ดูจากรูปก็กินกันแบบไม่เว้นช่องว่างกันเลย เป็นแมวหิวสองตัวที่มาพบกันแบบอาจจะนัดหมายครับ

ตัวใหญ่ดูผอมไปเยอะมาก แต่ลองจับแล้วก็เนื้อแน่นดีครับ เหมือนแมวหนุ่มที่ออกกำลังกายตลอดเวลา ส่วนจุ๊บนี่เป็นแมวนุ่มครับ นุ่มมือมากๆ นุ่มทุกส่วน หัวก็นุ่ม พุงก็นุ่ม น่องยังนุ่มเลย จริงๆแล้วจะไปโทษว่าทำหมันแล้วอ้วนก็ไม่ได้นะครับ จุ๊บกับตัวใหญ่โดนจับทำหมันพร้อมๆกันเลย แต่จุ๊บก็ดูอ้วนกว่าตัวใหญ่ตั้งแต่แรกแล้ว หรือมันอาจจะโดนจับทำหมันก่อนวัยอันควรก็ได้ มันเลยเป็นแมวหมูนุ่มนิ่มอย่างทุกวันนี้

สวัสดี

แมวบิดขี้เกียจ

ช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ดูตึงๆ อะไรก็ตึงๆชนๆไปหมด อยากจะผ่อนคลายอยู่บ้าง แต่ความตึงก็คงจะไม่หายไปมากนัก วันนี้จะมาโชว์รูปแมวที่กำลังสลายความตึงของเส้นสายง่ายๆด้วยการ…

จุ๊บที่กำลังเมื่อย ตึงๆ ก็เลยบิดขี้เกียจ
จุ๊บที่กำลังเมื่อย ตึงๆ ก็เลยบิดขี้เกียจ

เห็นมันแล้วก็อิจฉา เพราะอาการบิดขี้เกียจแบบนี้ก็มักจะเกิดหลังตื่นนอนของแมว ดูจากท่าทางเหยียดเต็มที่ของมันเหมือนได้ปลดปล่อยทุกความตึงออกไปเลยทีเดียว

เห็นแล้วผมก็อยากบิดขี้เกียจมั่งจะได้หายเมื่อยบ้าง…

สวัสดี

ต้มยำไก่ 10 ปี

สำหรับหลายๆครอบครัว การทำอาหารกินกันเองในบ้านดูจะเป็นเรื่องธรรมดาจนไม่อยากเอามาพูดถึงกัน แต่วันนี้ผมจะเอาเรื่องธรรมดามาเขียนให้อ่านกันครับ

บ้านผมเป็นครอบครัวไมโครเวฟครับ นั่นคือชีิวิตจะอยู่กับไมโครเวฟเสมอเพราะไม่มีการทำอาหารเลย มีแต่ซื้อเข้ามาใส่ตู้เย็นและอุ่นกิน ถ้าถามว่ามันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่ต้นไหม จริงๆมันก็ไม่ได้เป็นแบบนี้หรอกครับ แต่วิถีชีิวตก็ได้ปรับให้เข้ากับจังหวะของชีวิตและโอกาสทางสังคมก็เลยได้กินแต่อาหารถุงอยู่จนทุกวันนี้

แต่มาวันนี้หลังจากที่แม่ได้กลับมาจากการไปลุยปลูกข้าวกับ ฅนกินข้าวเกื้อกูลชาวนา ซึ่งจัดกิจกรรมโดยทีวีบูรพาแล้วนั้น ก็มีสิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจค่อนข้างมากนั่นคือ

ต้มยำไก่

ต้มยำไก่… ต้มยำไก่ชามนี้ ( หม้อนี้มีแต่โครงไก่ครับ ) ผมแปลกใจตั้งแต่ไปซื้อของกับแม่แล้วแม่ซื้อเครื่องต้มยำมาแล้ว บอกว่าจะทำต้มยำกิน แต่ผมก็ยังไม่ได้ถามหรอกครับว่าทำไม แต่สิ่งที่รู้แน่ๆก็คือ แม่ของผมไม่ได้ทำกับข้าวมานานเกือบสิบปีแล้วครับ จริงๆมันน่าจะนานกว่าสิบปีแล้วก็เป็นได้เพราะจำได้ว่ากินครั้งสุดท้ายก็ตอนอยู่ประถม ตอนนี้ผมก็จบจากมหาวิทยาลัย ป.ตรี ตามเกณปกติมาได้เกือบ 5 ปีแล้วครับ

เมนูเด็ดของแม่ก็คือไข่ยัดไส้ครับ ทำแค่ครั้งเดียวใส่ตู้เย็นกินกันไปสองสามวันเลยทีเดียว หลังจากนั้นเทคโนโลยีไมโครเวฟก็เข้ามาชีวิตของเราก็เปลี่ยนไป จนมาถึงวันนี้ดูมันจะวนกลับเป็นวงจรเสียแล้วครับ แม่กลับมาทำกับข้าวและเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ซึ่งผมก็อยากเปลี่ยนด้วยเหมือนกัน เพราะวันๆกินแต่อะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน ทั้งทำให้อ้วนและเสียสุขภาพ การทำอาหารเองนั้นเป็นการควบคุมพฤติกรรมการกินได้ดีมากทีเดียว

ต้มยำไก่ชามนี้ไม่มีเนื้อไก่ครับ มีแค่โครงไก่ แต่รสชาดนั้นบอกได้เลยว่าเด็ดครับ ผมแอบกังวลตอนแม่บอกว่าจะทำต้มยำ ก็คิดในใจว่ามันจะออกมาเป็นยังไงหนอ ผลคืออร่อยและควบคุมได้ครับ คืออยากได้อะไรมากน้อยก็ใส่ลงไปได้เลย มันเป็นอะไรที่แปลกประหลาดมากๆสำหรับครอบครัวผมซึ่งเป็นวิถีชีวิตแบบไมโครเวฟ 100% เปลี่ยนมาเป็นแบบนี้ครับ ซึ่งนี่คือผลจากการที่แม่ได้ไป ฅนกินข้าวเกื้อกูลชาวนา

จริงๆแล้วผมก็หวังให้เรื่องทำอาหารนี้เป็นเรื่องธรรมดาเหมือนที่หลายๆครอบครัวเขาเป็นกันนะครับ อยากให้่ชีิวิตได้ช้าลงบ้าง เพื่อที่จะได้มีเวลาหยุดคิดไตร่ตรองสิ่งต่างได้มากขึ้น ผมหวังอย่างนั้นจริืงๆ

สวัสดี

จุ๊บนอนแผ่

วันก่อนตอนบ่ายๆ เป็นบ่ายที่ลมเย็นสบาย น่านอนเอามากๆ แต่ยังไงผมก็มีธุระออกไปข้างนอก ก็ต้องออกไปข้างนอกอยู่ดี…

sleep-relax-cat-1

ตอนนั้นเป็นตอนบ่ายที่ผมเปิดประตูหน้าบ้านรับลมไว้ครับ ตรงประตูก็เลยเป็นช่องลมที่ลมพัดตลอดเวลา มีแมวอ้วนๆตัวหนึ่งมานอนโพสท่าเอียงพุงหงายคางอยู่..

นานแล้วที่ผมไม่ได้เห็นจุ๊บมันนอนแบบหงายหรือเอียงแบบนี้ จริงๆก็จะไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าเคยเห็นเมื่อไหร่ เพราะปกติมันจะนอนคว่ำแบบแมวนั่งทั่วๆไป แต่วันนี้ลมก็คงพัดเย็นสบายแมวมากไปหน่อยก็เลยนอนท่าแปลกๆแบบนี้ ถ้าเทียบกับวิลลี่แม่ของมันที่จากไปนานแล้ว วิลลี่จะชอบนอนหงายแผ่พุงมากกว่า..

sleep-relax-cat-2

ผมเดินผ่านข้ามตัวมันไปรอบหนึ่งเพื่อไปเปิดประตูบ้านใหญ่และกลับมามันก็ยังนอนอยู่เหมือนเดิม ก็เลยปลุก เพราะว่าจะปิดประตูบ้านแล้วซึ่งต้องลากประตูบ้านพาดผ่านพุงของมันนั่นเอง ก็เลยสะกิดมันให้ตื่นก่อน

พอตื่นก็ออกอาการแมวงัวเงีย ช่วงนี้แมวจะเชื่องครับ ช่วงเพิ่งตื่นเนี่ยมันจะเคลิ้มๆ เล่นอะไรก็ดูเชื่องคุ้นมือไปหมด เล่าต่อกันเลยว่ามีครั้งหนึ่งเห็นจุ๊บมันนอนในบ้าน นอนตั้งแต่เที่ยงคืน ผมลงมาตอนเช้ามันก็นอนที่เดิม แต่เปลี่ยนท่าเปลี่ยนมุมนิดหน่อย พอดูไปดูมันใกล้ๆน้ำลายมันยืดด้วย พอเข้าใกล้มันก็ตื่นทำหน้าเหมือนสูดน้ำลายกลับ เหมือนคนตื่นเช้าๆอะไรอย่างนั้น แต่นั่นก็ทำให้ผมรู้ว่า แมวก็นอนน้ำลายยืดเหมือนคนนั่นแหละ..

ดูเหมือนจะเป็นเรื่องราวประจำวันของจุ๊บกับผมซึ่งดูจะเกิดๆทุกวันเป็นประจำ และจุ๊บที่อยู่ด้วยกันมาเกือบเก้าปีแล้วก็ยังมีอะไรให้ผมแปลกใจอยู่เสมอ

สวัสดี

จุ๊บนอนหลังบ้าน

ช่วงนี้จุ๊บมักจะมานอนที่หลังบ้าน ถ้าบอกว่าหลังบ้านก็คงจะไม่แปลกที่ไหร่ แต่นี่เป็นตำแหน่งของหลังประตู ถ้าเราเปิดประตูแบบกว้างสุดๆก็จะไปชนแมวที่นอนอยู่ แล้วทำไมมันยังนอนอยู่อีก?..

จุ๊บ-จุ๊บนอนขดหลังบ้าน

จากมุมขวาล่างจะเห็นขอบบานประตูที่ถ้าเปิดกว้างอีกนิดก็จะชนจุ๊บ จริงๆแล้วก็เปิดไปชนมันบ่อยๆเหมือนกัน แต่มันก็ไม่เคยเปลี่ยนที่ไปไหน ก็ยังนอนมุมนี้เหมือนเดิม

ดูจากรูปนี้แล้ว ดูๆไปก็เหมือนแมวท้่องยังไงก็ไม่รู้ เพราะหัวเล็กแต่พุงโต ถ้าใครไม่รู้ก็คงคิดว่าจุ๊บกำลังท้องอยู่ แต่ที่จริงเป็นเป็นแค่แมวตัวผู้แก่ๆที่ลงพุง…

วันก่อนผมฝันว่าแมวที่บ้านจับหนูได้สี่ตัว สองตัวเอามาวางไว้ให้ผม อีกตัวหนึ่งวางไว้หน้าบ้าน อีกตัวหนึ่งมันกินเอง รวมแล้วก็เป็นหนูสี่ตัวพอดี คงจะกินมากไปนอนมากไปเลยฝันประหลาดๆ อาจจะเพราะคิดว่าจุ๊บมันพุงโตเพราะไปกินหนูมาแน่ๆก็เป็นได้ เลยเก็บเอาไปฝันแบบนั้น

เวลาที่จุ๊บล่าหนูมาได้ก็จะเอามาวางไว้หน้าบ้านเป็นประจำ วิลลี่แม่งของมันก็มีนิสัยเช่นนั้น ชอบล่ามาให้แล้วเอามาให้ดู แต่วิลลี่โหดกว่านั้น ชอบเอามาแบบหนูไม่เป็นหนู เป็นซากเนื้อตัวอะไรก็ไม่รู้ ที่รู้ว่าเป็นหนูเพราะเห็นขาบ้าง หางบ้างแต่ส่วนอื่นกระจายอย่างสวยงาม และคนที่เก็บซากหนูชำแหละคือผมเอง…

ตอนนี้ก็มีหนูอยู่ในบ้าน แต่เอาจุ๊บเข้ามาในบ้านทีไรมันก็เอาแต่นอน ไม่รู้ว่ามันรู้รึเปล่าว่ามีหนูอยู่ในบ้าน ยังไงผมก็ยังคาดหวังว่ามันจะจับหนูทุกครั้งเมื่อมันอยู่ในบ้าน

สวัสดี