เสพสุขจากความจำ

วันนี้ระหว่างดูข่าวตอนบ่าย เขาก็มีโฆษณาว่าจะมีละครยอดฮิต มาให้ดูกันอีก ก็นึกสนใจ เออเนาะ เขาก็ดูกันทั่วบ้านทั่วเมือง ก็ลองดูเขาสรุปหน่อยแล้วกัน

จะดูละครดึกนี่มันต้องอดทนเหมือนกันนะ ดูไปก็ง่วงไป แต่ก็ได้ประโยชน์อยู่เหมือนกัน ละครน่ะไม่มีประโยชน์อะไรหรอก แต่ประโยชน์ที่ได้มันเกิดจากที่เราพิจารณาโทษมั่นนั่นแหละ เรื่องประโยชน์-โทษในตอนนี้ก็ยกไว้ก่อนเดี๋ยวจะยาว

เห็นเขารวมช็อตเด็ดมาให้ คิดว่าเขาคงคัดมาแต่เจ๋ง ๆ ละนะ เราก็ไม่เคยดู ดูไปตอนแรกก็งงว่าทำไมต้องทำมาให้ดูด้วย ก็นั่งพิจารณาไป…

อ๋อ คนเขาเสพติด อะไรที่คนอยากได้อยากดูอยากเสพเขาก็ทำมาให้เสพนั่นแหละ แสดงว่าเขาประเมินแล้วว่าทำแล้วได้กำไรในทางธุรกิจเขาถึงทำ คือมีคนดูนั่นแหละ

กิเลสในด้านความรักที่โหดร้ายและออกยากกกกกกกกกก..สุด ๆ คือการเสพสุขจากอดีตนี่แหละ เอาแค่อดีตก่อน อนาคต กับปัจจุบันก็ร้ายใช่ย่อย ไว้ว่ากันตอนหลัง

เสพสุขจากอดีต คือนึกย้อนไปถึงเรื่องเก่า วันเก่า ๆ แล้วรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ คิดถึง คร่ำครวญถึง อยากให้ได้มีอดีตแบบนั้นมาเสพอีก

บางคนแม้เลิกรากันไปแล้ว ปัจจุบันแม้ไม่มีอาการอะไร แต่ขอให้ได้นึกถึงอดีตก็สุขใจ แบบนี้ก็ใช่ เป็นกิเลส เป็นภพ ก่อให้เกิด ชาติ ชรา มรณะ ฯลฯ คือไม่จบไม่สิ้นนั่นแหละ

พอคนเสพติดอดีต มันก็จะไปหาอนาคตที่เป็นอดีตแบบนั้น จึงกลายเป็นภพเป็นชาติ เป็นคนในฝัน หนุ่มสาวในสเป็ค ชอบนิสัยลีลาท่าทางแบบนั้นแบบนี้ เพราะมันจำมาหลายชาติ อยากได้มาหลายชาติ ฉันชอบแบบนี้ ๆ พอเห็นปุ๊ปก็รักปั๊บเลย นั่นอุปาทานมันทำงานแล้ว

กลับมาที่ละคร นี่ละครเขาจบไปแล้ว เห็นไหมว่าคนไม่ยอมให้จบ มีบางความเห็นอยากให้มีภาคต่อ อันนี้เขาเสพติดแล้ว หลงกลทั้งผู้จัดทำ หลงทั้งกิเลสในเวลาเดียวกัน

เขาเอาอดีตเก่า ๆ (ที่เรื่องจริงก็ยังไม่ใช่) เอามาตัดต่อกันให้ดู ก็ยังสุข ยังอิ่มเอมใจ ยังชอบอยู่ มันก็เสพอดีตอยู่นั่นแหละ

เมื่อไม่มีแมว

วันก่อนได้เห็นภาพที่ได้ถูกแบ่งปันกันตามเฟสบุค เป็นภาพที่มีคนอุ้มลูกแมวหลายๆตัวไว้ในอ้อมกอด ดูแล้วก็นึกถึงตอนที่เคยมีแมวตัวใหญ่ๆ สามตัวที่มันยังอยู่รวมกัน หลายครั้งก็ได้อุ้มมันแบบนั้นเหมือนกันนะ

อุ้มแมวสามตัว
อุ้มแมวสามตัว

Continue reading เมื่อไม่มีแมว

การเรียนรู้ กับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ

ธรรมชาตินั้นคือสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การเรียนรู้กับธรรมชาติคือการเรียนรู้และรู้จักกับการเปลี่ยนแปลงแห่งความจริง ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย

ผมเองเป็นคนที่ชอบปลูกต้นไม้มาตั้งแต่เด็ก จริงๆจะบอกว่าชอบปลูกต้นไม้มันก็ไม่ตรงเสียทีเดียว ต้องบอกว่าผมชอบมองอะไรที่มันเติบโตมากกว่า นอกจากต้นไม้แล้ว ยังจะมีอะไรที่เติบโตอย่างที่เราสามารถดูได้ทุกวันได้อีก หลายคนอาจจะบอกว่ามีสัตว์เลี้ยงเช่น หมา แมวนั่นไง แต่ผมก็ต้องตอบว่าบทมันก็ต่างไปจากปลูกต้นไม้ เพราะการดูแลสัตว์เลี้ยงกับการดูแลต้นไม้นั้น มีความแตกต่างกันอย่างมาก และสุดท้ายผมก็เลือกมองการเติบโตของต้นไม้มากกว่า

การเรียนรู้ กับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ

ต้นไม้นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของธรรมชาติ สัตว์ก็กินพืช คนก็กินพืช แล้วพืชกินอะไร? แสง น้ำ ความชื้น อากาศ ธรรมชาติของพืชเติบโตและเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป พืชในธรรมชาติอย่างป่า ภูเขานั้น มีการเติบโตเปลี่ยนแปลงที่เป็นวัฏจักรและเกื้อหนุนกันระหว่างสิ่งมีชีิวิตและสิ่งไม่มีชีวิต

การกำเนิดกับการเปลี่ยนแปลง

ผมเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างจากพืช หรือต้นไม้ ภาพที่ติดตาอยู่ตั้งแต่สมัยเด็กคือเมล็ดข้าวโพดที่ซื้อมาจากห้างแห่งหนึ่ง อยู่ในซองผักทั่วไป ผมเพาะลงที่หน้าบ้านเล็กๆ หยอดเป็นหลุม ไม่กี่วันต่อมา ต้นข้าวโพดน้อยๆทำให้ผมประหลาดใจกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น กับขนาดของมัน ต้นข้าวโพดโตเร็วมากๆ แต่สุดท้ายความทรงจำก็จบลงแค่นั้น และมันคงไม่ได้โตต่อด้วยสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง

การเปลี่ยนแปลงในระหว่างการเติบโต

ในระหว่างที่มีการเติบโต ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างเกิดขึ้น ผมเรียนรู้ได้จากไม้ประดับเช่น กระบองเพชร หรือบอนสีที่ผมเลี้ยง ทุกๆขั้นตอนของการเติบโต มีจังหวะ มีปัจจัย มีฤดู และมีสิ่งอื่นๆอีกมากมายที่ส่งผลต่อการเติบโตของต้นไม้ต้นหนึ่ง ลองนึกดูว่าไม้ประดับเช่นกล้วยไม้ กว่าจะได้ดอกงามๆ ต้องให้สารเคมีกี่ชนิดกัน การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สามารถเกิดจากมือของเราก็ได้ หรือจากธรรมชาติก็ได้เหมือนกัน

ผมสังเกตุว่าต้นไม้เองก็มีวัย เหมือนกับวัยของคนเรานี่แหละ วัยต้นกล้า วัยรุ่นของต้นไม้ วัยสืบพันธุ์ หรือต้นไม้ยืนต้นก็จะดำรงชีวิตไปเรื่อยๆจนกว่าจะอ่อนแอและตายไป

การเปลี่ยนแปลงไปสู่ซากบนพื้นดิน

หลายครั้งที่ผมได้เห็นการตาย หรือการหยุดการเจริญเติบโตอย่างถาวรของต้นไม้ ผมเองเคยคิดว่าผมชอบการเติบโต แต่พอมามองการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความตายของต้นไม้แล้ว ผมกลับค้นพบเรื่องใหม่ที่ตัวเองไม่รู้ ซึ่งซ่อนอยู่ในใจของผมเอง ผมสนใจการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความตายนี้ด้วย

สรุปแล้วจริงๆ ผมเองคงจะชอบการเปลี่ยนแปลง ถ้าเรียกว่าชอบคงไม่ถูกตรงประเด็นนัก อาจจะเรียกได้ว่า ผมมักจะได้เรียนรู้จากการสังเกตุการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติไม่ว่าจะร้ายหรือดี หรือจริงๆแล้ว คำว่าร้ายและดีนั้น คนเราคงตัดสินเอาเองตามผลประโยชน์ของตนมากกว่า บางทีการจากไปของบางสิ่งก็อาจจะดีก็ได้ บางทีการเกิดของอีกสิ่งก็อาจจะไม่ดีก็ได้ใครจะรู้ เพราะมันขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ของแต่ละคนจริงๆ

เมื่อการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น คนทีไ่ด้ประโยชน์ก็จะสนับสนุน คนที่เสียประโยชน์ก็จะต่อต้าน ซึ่งก็จะมีผลที่ตามมาอย่างแน่นอน ถ้าการเปลี่ยนแปลงนั้นทำให้ธรรมชาติเสียประโยชน์ล่ะ ผลที่ตามมาคืออะไร?

สวัสดี

หลากหลายประสบการณ์กับทริปปลูกป่าลุยนา

ผ่านไปแล้วกับกิจกรรม “หว่านข้าวสู่ผืนนา หว่านศรัทธาสู่หัวใจ” โดยทีวีบูรพา ซึ่งเป็นช่วงเวลาสั้นๆเพียงสามวัน แต่สิ่งที่เก็บเกี่ยวมาได้นั้น สามารถใช้ต่อไปได้ทั้งชีวิต

สำหรับเรื่องราวที่ผ่านมาเกี่ยวกับกิจกรรมในครั้งนี้ ผมคิดว่าหลายท่านก็คงจะได้อ่านจากบทความก่อนหน้านี้มาแล้ว ซึ่งสิ่งที่ผมได้รับก็จะได้เห็นด้วยรูป และผ่านตัวอักษรที่เล่ามาก่อนหน้านี้แล้ว แต่สำหรับในบทความนี้ก็จะมาเล่าประสบการณ์ที่ได้มาและฝังอยู่ลึกๆ ในส่วนหนึ่งของสมองของผม

หลากหลายประสบการณ์กับทริปปลูกป่าลุยนา

หลากหลายประสบการณ์กับทริปปลูกป่าลุยนา
หลากหลายประสบการณ์กับทริปปลูกป่าลุยนา

จากกิจกรรมที่ผมได้ไปร่วมกับเครือข่ายฅนกินข้าวเกื้อกูลชาวนา ผมได้รับประัสบการณ์ และความรู้หลายๆอย่างนะครับ อาจจะไม่ได้พิมพ์เป็นข้อๆให้อ่านกันได้สะดวกนักแต่ก็จะเล่าให้พอเข้าใจครับ

สำหรับประสบการณ์และความรู้ที่ได้รับนั้น สิ่งแรกต้องบอกเลยว่าได้รับรู้ และรู้จักคำว่าคุณธรรม ในมุมมองของชาวนาคุณธรรมครับ มันมากมายเหนือความคาดหมายของผมมากว่า การเป็นชาวนาคุณธรรมจำเป็นต้องทำขนาดนี้เชียวหรอ แต่แน่นอนว่าถ้ามันคือสิ่งดีก็ควรจะทำครับ เพราะผลประโยชน์ก็จะตกกับตัวชาวนาคุณธรรม สังคม และสิ่งแวดล้อมเองครับ

ผมได้เรียนรู้วิถีชาวนาคุณธรรมแบบสั้นๆ ที่พอจะพบเห็นได้ผ่านภาพที่มองผ่านตา ซึ่งอาจจะไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูได้ทั้งหมดครับ รวมถึงวิถีชีวิตในแต่ละวัน โดยผ่านข้าวของเครื่องใช้ตามที่ได้เห็น

สำหรับประสบการณ์การปลูกป่า การหว่านข้าว การดำนา ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามาก เพราะไม่เคยได้ลงมือทำเลย เป็นครั้งแรกที่ได้ลองทำซึ่งเป็นระดับเล็กๆ ขนาดเล็กๆ คิดว่าวันหนึ่งก็คงจะได้ทำจริงและวันนั้นก็จะได้พบความจริงอย่างที่สุด วันนี้ก็คงจะเป็นการทดลองเรียนรู้ไปก่อน

ได้รับรู้ถึงการส่งต่อและการขยายตัวของน้ำใจและการเกื้อกูลกันของมนุษย์ การส่งเสริมคนดี การส่งเสริมการทำสิ่งดีๆยังมีอยู่ให้เห็นตลอดสามวันที่ได้เดินทาง ไม่เหมือนข่าวสาร และสิ่งที่เรารับรู้กันในเมืองสมัยนี้ มีสักกี่เรื่องในแต่ละวันที่เป็นเรื่องดีๆบ้าง สำหรับผมที่ได้ออกเดินทางไปเรียนรู้ในครั้งนี้ บอกได้เลยว่า ผมได้รับรู้แต่สิ่งที่ดีๆเข้ามาในชีวิต

หลายๆสิ่งอีกมากมายที่ยังฝังอยู่ในสมองของผม อยู่ในความทรงจำของผม อาจจะคาดคั้นออกมาไม่ได้ในบทความนี้ แต่คิดว่าดอกผลของมันก็คงจะออกมาให้เห็นในอนาคตเป็นแน่ ถ้าวันหนึ่งมีความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีเกิดขึ้น ก็คงจะมีการเดินทางในครั้งนี้เป็นหนึ่งในแรงผลักดันนั้นก็เป็นได้

สวัสดี

ประวัติแมว

วันนี้นั่งนึกถึงสิ่งที่อยากจะทำและค่อยคัดกรองและพยายามจะเรียบเรียงมันออกมาให้ได้ เพราะอาจจะมีหลายสิ่งที่หลุดลอยหายไประหว่างช่วงเวลาที่ไร้สมาธิ

สิ่งหนึ่งที่อยากบันทึกลงบล็อกแห่งนี้ไว้ก็คือประวัติของแมว จริงๆแล้วเรื่องนี้คิดไว้ตั้งแต่ก่อนที่แมวจุ๊บจะหายไปด้วยซ้ำ จนวันนี้ผ่านมากว่าปีครึ่งที่จุ๊บหายไปจากบ้าน ความหวังที่มันจะกลับมาบอกตรงๆว่าไม่มีเลย ซึ่งก็ไม่มีผลกับความตั้งใจในการเขียนประวัติแมวของผมอยู่ดี

แมวมากมาย…

แมวที่เลี้ยงมาก็มีมากมายหลายตัว ซึ่งก็คงจะไล่ไปทีละตัวเท่าที่จำได้ เพราะว่าความทรงจำของบางตัวนั้นเลือนลางมาก จำได้แค่ชื่อ บางตัวจำชื่อไม่ได้ด้วยซ้ำจำได้แต่พฤติกรรมของมัน ซึ่งแน่นอนว่าตัวที่ผมชอบที่สุดก็คือแมวจุ๊บนั่นเอง จุ๊บมีลักษณะของแมวในอุดมคติของผมไว้หลายอย่าง จริงๆอาจจะไม่ใช่อุดมคติก็ได้ เพียงแต่เราชอบสิ่งที่มันทำก็เลยคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเราแค่นั้นเอง

วันนี้คงจะไม่ได้เรียบเรียงประวัติแมวกันอย่างที่คิดเพราะว่า ให้พิมพ์ตอนนี้ก็คงจะออกมาน้อยไปหน่อยเพราะต้่องใช้เวลานั่งนึกเหมือนกันว่าแมวตัวไหนทำอะไรยังไงบ้าง ซึ่งเท่าที่นึกออกก็คงมีไม่กี่ตัว…รอชมกันต่อไป

สวัสดี

มองย้อนไปเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา (2553)

เมื่อกี้ผมลองค้นดูรูปเก่าๆเมื่อถ่ายเมื่อปีที่ผ่านมา พบว่าหลายๆเหตุการณ์ดูเหมือนเพิ่งจะเกิดไปเมื่อไม่นาน แต่พอดูวันที่แล้วมันผ่านไปเมื่อปีที่แล้วทั้งนั้น

เขาว่าคนเราเมื่อมีความสุขเวลาจะผ่านไปเร็ว จริงรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่รู้แน่ๆคือเวลาที่เรามองย้อนกลับไปข้างหลัง มันดูเหมือนจะใกล้กว่าที่คิด ทั้งๆที่มันห่างไปตั้งหนึ่งปี ความทรงจำต่างๆที่เก็บรวบรวมมาไว้ในหนึ่งปีนั้น ถ้าไม่ได้รูปถ่ายช่วยจำไว้ ชีวิตผมก็คงต้องหลงลืมอะไรหลายๆอย่างไปตามทางที่มันควรจะเป็น

การจำหรือระลึกอะไรได้เยอะๆมันก็ดีอย่างตรงได้ทบทวนว่าได้ทำอะไรลงไปบ้างในเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา บางอย่างก็มีความสุข บางช่วงก็ทุกข์บ้าง แต่ไม่มีช่วงไหนเลยที่ไม่ดี เพราะทุกเหตุการณ์นั้นสอนผมอยู่เสมอว่าได้ทำอะไรลงไปแล้วได้ผลอะไรกลับมา

มีอย่างหนึ่งที่มองไปแล้วคิดถึงมากๆ นั่นคือจุ๊บ ผมไล่ดูรูปจุ๊บในปีที่ผ่านๆมา ผมถ่ายรูปมันไว้เยอะมากๆ เพราะมันน่ารัก และเป็นแมวตัวโปรด มันมีนิสัยที่เป็นตัวของตัวเองสูงมาก เดาใจยากสุดๆแต่ก็มีรูปแบบให้พอจะจับทางได้บ้าง และที่สำคัญมันนุ่มมาก ตอนนี้มันหายไปจากบ้านเกือบสองอาทิตย์แล้ว ผมอยากรู้ว่ามันไปไหน อยู่หรือตายไปแล้ว มันอาจจะถูกรถชนก็เป็นได้ ถ้ามันจะไปติดสาวบ้านอื่นก็คงจะยากเพราะมันโดนทำหมันตั้งแต่เด็ก อาการกระหายประจำปีของแมวหนุ่มจึงไม่เคยเกิดขึ้นกับมัน

จุ๊บเป็นแมวที่แทบจะไม่ส่งเสียงร้องเลยแม้แต่นิดเดียว เหมือนวิลลี่แม่ของมัน ผมชอบแมวแบบนี้ เงียบๆ ไม่สงเสียง นอน เดิน ตามใจของมัน แมวที่มายุ่งวุ่นวายมากๆกับร้องมากๆ นั้นส่วนใหญ่ผมจะไม่ค่อยได้ให้ความสนใจกับมันสักเท่าไรนัก

จริงๆคงจะเป็นผมเองก็ได้ที่แปลก จึงอยู่กับแมวแปลก หรือไม่ก็แมวได้ซึมซับสิ่งแปลกๆจากผมมาก็เป็นได้ จนถึงตอนนี้จุ๊บก็ยังไม่กลับบ้าน ได้แต่หวังว่าวันหนึ่งมันจะกลับมา…

สวัสดี