ลงแขกเกี่ยวข้าว รับลมหนาวปลายนา

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้เดินทางไปเรียนรู้และสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เคยเป็นเพียงคำพูด เรื่องเล่า หรือกลายเป็นเรื่องที่ถูกลืมไปแล้ว นั้นคือประเพณีของไทยอย่างการลงแขกเกี่ยวข้าว

เป็นอีกครั้งที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมกับทางทีวีบูรพา และเครือข่ายฅนกินข้าวเกื้อกูลชาวนา ในกิจกรรมเรี่ยวแรงสู่เรียวรวง ตอน “ลงแขกเกี่ยวข้าว รับลมหนาวปลายนา” ณ จังหวัด ยโสธร วันที่ 9-11 พฤษจิกายน 2555

ภาพประทับใจ จากเครือข่ายฅนกินข้าวเกื้อกูลชาวนา
ภาพประทับใจ จากเครือข่ายฅนกินข้าวเกื้อกูลชาวนา

สำหรับ กิจกรรมนี้จำเป็นต้องออกเดินทางกันตั้งแต่วันศุกร์เช้า เพราะว่าเราจำเป็นต้องใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างนานทีเดียวครับสำหรับคน ทั่วไปอาจจะยากหน่อยเพราะต้องลาหยุดกันสักหนึ่งวัน แต่สำหรับบางคนก็ไม่ใช่ปัญหา และผมเองก็ชินแล้วครับ เพราะร่วมทางไปกับทีวีบูรพามาหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่ครั้งแรกที่ สวนลุงนิล และครั้งล่าสุด หว่านข้าวสู่ผืนนา หว่านศรัทธาสู่หัวใจ และอีกหลายๆ กิจกรรมที่เคยร่วมกับทีวีบูรพาเช่น กินข้าวอย่างรู้แจ้ง ตนค้นตนอวอร์ด เป็นต้น ก็อ่านย้่อนกันได้่นะครับ

สำหรับบทความเหล่านี้คงจะเป็นการเล่าเรื่องประกอบประสบการณ์ต่างๆที่ได้มา มีน้ำมีเนื้อคละเคล้าปนกันไปเลยแล้วกันนะครับ

เรื่องราวทั้งหมดถูกบันทึกและเรียบเรียงไว้ดังนี้…

ผมเคยคิดว่าจะพยายามบันทึกเรื่องราว รวมไว้ให้ได้ในบทความเดียว แต่พอมานั่งเรียบเรียงเอาเข้าจริงๆก็พบว่าแต่ละบทความนั้นมีความยาวมากเหลือเกิน จึงแบ่งส่วนให้ผู้อ่านได้เลือกอ่านได้ง่ายขึ้น

สำหรับเนื้อ ข้อมูล และรูปภาพเกี่ยวกับกิจกรรมนี้ สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ : เครือข่ายฅนกินข้าวเกื้อกูลชาวนา

บทนำสู่กิจกรรม หว่านข้าวสู่ผืนนา หว่านศรัทธาสู่หัวใจ

ก่อนจะเข้าเรื่องราวของการเดินทางไปเรียนรู้ในกิจกรรม “หว่านข้าวสู่ผืนนา หว่านศรัทธาสู่หัวใจ” โดยทีวีบูรพา ผมเองจะขอเล่าที่มาที่ไปและจุดประสงค์ของผมกันก่อนเพื่อความเข้าใจในบทความต่อจากนี้ของผม

ก่อนที่จะมีกิจกรรมในครั้งนี้ เครือข่ายฅนกินข้าวเกื้อกูลชาวนาก็ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมข้าวคุณธรรมมาหลายครั้งแล้ว ผมเองได้รับรู้ข่าวตลอดมาและตั้งแต่แรก เพราะคุณแม่ของผมได้ไปร่วมกิจกรรมด้วย ซึ่งตัวผมเองก็สนใจในกิจกรรมเหล่านั้น แต่ติดที่ต้องเรียนและยุ่งอยู่กับการเรียนในช่วงที่ผ่านมา

หว่านข้าวสู่ผืนนา หว่านศรัทธาสู่หัวใจ
หว่านข้าวสู่ผืนนา หว่านศรัทธาสู่หัวใจ

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ ผมได้รับทราบข่าวสารจากทางเฟสบุคของเครือข่ายฯ และได้รับการแนะนำจากคุณแม่อีกทางหนึ่ง ซึ่งเมื่อลองดูถึงความเหมาะสมของช่วงเวลา ผมคิดว่านี่เป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด เพราะอยู่ในช่วงรอยต่อระหว่างเรียนจบและการเริ่มโครงการงานใหม่ของผม ผมจึงได้ตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรม “หว่านข้าวสู่ผืนนา หว่านศรัทธาสู่หัวใจ” ในครั้งนี้

จุดประสงค์ของผม…

จุดประสงค์แรกของผมคือ การเรียนรู้ต่อเนื่องจากการไป สวนลุงนิล ที่ได้ไปศึกษาเกี่ยวกับเกษตรเชิงผสมผสาน จากการที่ได้ไปสวนลุงนิล ผมได้เรียนรู้ทั้งวิถี และวิธีการ รวมถึงความรู้ต่างๆ จากลุงนิล และพี่ๆ น้าๆ ท่านอื่นที่ได้ร่วมเดินทางไปด้วยกัน ผมคิดว่าการไปร่วมกิจกรรมกับเครือข่ายฯ ในครั้งนี้จะทำให้ผมสามารถผสมความรู้ระหว่างเกษตรพอเพียงกับชาวนาคุณธรรมได้

สำหรับประเด็นที่สองคือ ไปศึกษาวิถีของชาวนาคุณธรรม ไปดูคำว่าคุณธรรม ที่ถูกนิยามในมุมมองของชาวนาคุณธรรมว่าสิ่งนั้นเป็นอย่างไร เป็นอย่างที่ผมคิดหรือไม่ สำหรับวิถีชีวิตนั้นผมคงไม่คาดหวังจะไปดูในเวลาเพียงแค่สามวันอย่างแน่นอน สิ่งที่เราจะสังเกตุคือวิธีคิด และวิธีปฏิบัติต่อสถานการณ์ต่างๆ

สำหรับเรื่องย่อยๆที่สนใจก็คือ การดำนา การหว่านข้าว อะไรประมาณนี้ เพราะสิ่งเหล่านี้ผมเองยังไม่เคยมีประสบการณ์ และต้องการจะทดลองมานานแล้วแต่ก็ไม่มีโอกาส เผื่อไว้ว่าวันหนึ่งจะมีที่ดินของตัวเองจะได้มีประสบการณ์ และมีที่ปรึกษาในวันหนึ่งที่น่าจะมาถึงสักวัน

สำหรับเรื่องอื่นๆเดี๋ยวก็ค่อยไปเก็บเกี่ยวเอาจากสถานที่จริงอีกที สำหรับบทสรุปสำหรับการเดินทางในครั้งนี้ผมคงจะเขียนไว้ในบทความต่อไป

สวัสดี

ผลิตผลเกษตรอินทรีย์ มูลนิธิธรรมะร่วมใจ

จากการไปเรียนรู้ที่ยโสธร ที่มูลนิธิธรรมะร่วมใจ ในกิจกรรม “หว่านข้าวสู่ผืนนา หว่านศรัทธาสู่หัวใจ” โดยทีวีบูรพา ก็ได้พบกับผลผลิตจากเกษตรอินทรีย์ส่วนหนึ่งครับ

เกษตรอินทรีย์นั้นจะไม่ใช้สารเคมีเลย ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง สารเร่งต่างๆ จากการสังเคราะห์ทางเคมีหรือแม้แต่ใช้พืชที่ตัดแต่งพันธุ์กรรม ทำให้เกษตรอินทรีย์นั้นเติบโตโดยพื้นฐานทางธรรมชาติทั้งสิ้น ทั้งนี้ก็จะใช้วัสดุและนวัตกรรมทางธรรมชาติแทนครับ เช่นน้ำหมัก ฮอโมนพืชต่างๆที่มีอยู่ในธรรมชาติ นั่นคือเอาธรรมชาติ ส่งเสริมธรรมชาติอีกที สรุปคือไม่ใช่สิ่งที่มีพิษมีภัยแน่นอนครับ

ทีนี้เกษตรกรหลายคนอาจจะคิดว่ามันได้ผลผลิตน้อยไม่พอขาย แต่จากที่ผมได้ไปศึกษาจากสวนลุงนิล จนถึงกิจกรรมในตอนนี้ผมก็ยังคิดว่ามันพอกินนะ สำหรับการพอขายเนี่ยมันแล้วแต่การวางแผนทางการค้า แต่ถ้าพอกินนี่มีแน่นอน เพราะพื้นที่ไม่มาก แต่ดูเหมือนจะให้ผลผลิตที่ดีทีเดียวเชียวล่ะ ลองมาดูกันนะ

ผลิตผลเกษตรอินทรีย์ มูลนิธิธรรมะร่วมใจ

มะเขือ
มะเขือ

มะเขือนี่อาจจะดูธรรมดาและพบเห็นได้ทั่วไปนะครับ ผลสุกนี่ถ้าเราเอามากินไม่ทันสุกจริงๆก็เก็บไปทำน้ำหมักชีวภาพได้ครับ เอามารดต้นไม้อีกทีงามนักล่ะ

บวบ
บวบ

บวบที่ไม่โดนปนเปื้อนด้วยสารเคมี สำคัญนะครับ บวบที่เราเอาไปขัดตัวขัดผิว หากมีการปนเปื้อนด้วยสารเคมีแล้วจะดีต่อผิวอันบอบบางของเราจริงหรือ หลายคนอาจจะบอกว่าเราแกะเปลือกใช้แต่ไส้ในของมัน แต่สารเคมีที่เกษตรเคมีใช้ส่วนใหญ่เป็นพวกดูดซึมครับ หมายความว่ามันก็ไปปนอยู่ในที่เราถูตัวนั่นแหละ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้โดนฉีดโดยตรงแต่ถ้าในพื้นที่มีการฉีดพ่นก็มีความเสี่ยงอยู่ครับ ดังนั้นถ้าไม่อยากเสี่ยงก็ควรจะมั่นใจกับแหล่งที่มาด้วยนะ

ไผ่ปลูกไว้ ได้ใช้ไม้ ได้กินหน่อ ได้รักษาพันธุ์ไผ่
ไผ่ปลูกไว้ ได้ใช้ไม้ ได้กินหน่อ ได้รักษาพันธุ์ไผ่

ที่มูลนิธิธรรมะร่วมใจนี่เขาปลูกไผ่ไว้หลายชนิดเลยครับ มีทั้งไผ่ใช้ไม้ ไผ่กินหน่อมากมาย มีเยอะขนาดนี้วันไหนอยากกินก็เดินไปหาๆดูก็น่าจะพบหน่อไม้ อิ่มสบายๆ แค่เดินรอบดงไผ่

มะละกอในแปลงสาธิตลูกดกและมีขนาดใหญ่
มะละกอในแปลงสาธิตลูกดกและมีขนาดใหญ่

มะละกอในแปลงสาธิตใหญ่ขนาดที่มือผมยังจับลำบาก ที่เห็นนี่ถือว่ายังเล็กนะครับ เมื่อเทียบกับมะละกอในสวนด้านหลังซึ่งไม่ได้ถ่่ายมาเพราะมัวแต่ไปถ่ายอย่างอื่น จะเห็นว่าผลผลิตที่ได้นั้นมีคุณภาพและความปลอดภัยมากทีเดียว

กล้วยพันธุ์พระราชทาน
กล้วยพันธุ์พระราชทาน

กล้วยพันธุ์พระราชทานครับ นี่เป็นกล้วยน้ำว้าลูกใหญ่ที่มีเปลือกบางครับ ซึ่งลองกินแล้วก็พบว่าหวานแต่พอดีครับ แต่ปัญหาคือกินลูกเดียวก็จะอิ่มแล้วครับ เลยไม่ได้ชิมลูกที่สองอยู่ คุณภาพคับหวีอีกเหมือนเดิมครับ

แตงโมอินทรีย์ ลูกเล็กหน่อยแต่อร่อยแบบมั่นใจ
แตงโมอินทรีย์ ลูกเล็กหน่อยแต่อร่อยแบบมั่นใจ

มาจบกันที่แตงโมครับ เคยได้ยินว่าแตงโมที่นี่ไม่ได้รดน้ำครับ ให้กินแต่น้ำค้างเอา ซึ่งนี่อาจจะไม่ใช่ขนาดของแตงโมที่ผมว่าก็ได้ เพราะที่เคยได้มามันใหญ่กว่านี้เยอะเลยครับ แต่ขนาดนี้ก็น่ารักดีครับ กินเป็นมื้อๆได้พอดีไม่ใหญ่มากขนาดพอเป็นของหวานประดับมื้อได้ ที่สำคัญปลอดภัยกับชีวิตครับ

นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของผลผลิตจากเกษตรอินทรีย์นะครับ จริงๆแล้วก็มีอีกมากมายที่งอกงามในดินร่วนปนทรายผ่านกรรมวิธีบำรุงดินแบบเกษตรอินทรีย์ให้โตและงอกงามอย่างยั่งยืนครับ

สวัสดี

ปลูกป่าลุยนา

เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา ผมได้ไปร่วมกิจกรรมกับเครือข่ายฅนกินข้าวเกื้อกูลชาวนา  ซึ่งจัดโดยทีวีบูรพา อีกครั้งหลังจากไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมแบบเดินทางไปต่างจังหวัดมานาน

สำหรับกิจกรรมในตอนนี้ก็มีชื่อว่า “หว่านข้าวสู่ผืนนา หว่านศรัทธาสู่หัวใจ” ครับ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดมาหลายครั้งแล้ว แต่ผมเองก็ไม่ว่างไปสักทีเพราะว่าส่วนใหญ่มักจะชนกับกิจกรรมที่มหาวิทยาลัย ไม่ก็ติดสอบก็เลยไปไม่ได้สักที

เครือข่ายฅนกินข้าวเกื้อกูลชาวนา
เครือข่ายฅนกินข้าวเกื้อกูลชาวนา

มาคราวนี้มีโอกาสได้ไปแล้ว ก็ยินดีมากๆสำหรับการได้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในครั้งนี้ สำหรับรูปก็สามารถหาชมได้ในเฟสบุคของ เครือข่ายฅนกินข้าวเกื้อกูลชาวนา ได้เลยครับ หรือกดลิงก์ จากรูปภาพด้านบนได้ครับ

สำหรับตอนนี้ก็จะมาเขียนหัวเรื่องทิ้งไว้ก่อนเพราะว่า จากที่คิดๆแล้วน่าจะมีหลายประเด็นหลายตอนที่ผมเก็บเกี่ยวมาได้ซึ่งมีส่วนหนึ่งหรือหลายๆส่วนของเนื้อหาที่เกี่ยวพันกับการที่ผมได้ไปศึกษาจาก สวนลุงนิล จากกิจกรรม ฅนคอเดียวกันสัญจร วิถีแห่งความพอเพียง กับ ลุงนิลคนของความสุข ที่ผมได้เคยไปมาเมื่อ 3 ปีก่อน สำหรับบทความของกิจกรรมคราวนี้ขอเวลาสักครู่ใหญ่ๆในการเรียบเรียงทุกอย่างออกมานะครับ

ยังไงก็อยากจะฝากบทความเก่าๆ ซึ่งผมได้พิมพ์ประสบการณ์และเรื่องราวที่เก็บเกี่ยวไว้ได้จากสวนลุงนิล ในบทความ : วิถีแห่งความพอเพียง กับ ลุงนิลคนของความสุข ด้วยครับ

ของฝากจากชุมพร

หลังจากกลับมาจากชุมพรได้วันสองวัน ผมก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับของฝากที่ติดตัวมาเพียง 2 อย่างเท่านั้น คือปลาหมึกแห้งกับต้นหญ้าสองต้น เหตุที่ผมติดกลับบ้านมาน้อยก็คงเพราะที่บ้านมีกันอยู่แค่สองคน จะกินก็คงไม่หมด และอีกเหตุนั่นคือ ผมเลือกของฝากไม่เป็น…

สำหรับปลาหมึกแห้ง ตัวผมเคยมีประสบการณ์ ได้กินปลาหมึกแห้งตัวใหญ่ๆแบบที่ซื้อมาแล้วครั้งหนึ่ง ที่บริษัทเก่าเคยจัดงานเลี้ยงจะมีปลาหมึกแห้งตัวใหญ่ๆแบบนี้ด้วย ผมรู้สึกว่ามันกัดแล้วเต็มปากกินแล้วมันเต็มคำกว่าตัวเล็กๆ เลยว่าจะเอามาลองอีกที เผื่อว่าเพื่อนมาสังสรรค์ที่บ้านก็จะได้ไว้แกล้มซะด้วยเลย เห็นเขาบอกว่าเก็บได้นาน แต่คำว่านานสำหรับบ้านผมคือเป็นปีๆไม่รู้มันจะอยู่ถึงรึเปล่า ในเวลานี้มันก็อยู่ในตู้เย็นเรียบร้อยแล้ว และหวังว่าผมจะได้กินในเร็วๆนี้

สำหรับต้นหญ้า ที่เขาเรียกว่าหญ้าเบญจรงค์ ไม่รู้ผมเขียนถูกรึเปล่า แต่เอาไปหาในกูเกิ้ลกลับไม่มีข้อมูลใดๆกล่าวไว้ หรือมันอาจจะมีชื่อเรียกอื่นๆก็เป็นได้ สำหรับใครที่รู้ที่มาที่ไป ของพืชชนิดนี้ก็สามารถบอกผมได้ เพราะผมก็อยากรู้เหมือนกันว่า ไอ้ต้นหญ้าที่ผมหอบติดมาสองต้นนั้นมันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่ผมรู้จากสวนลุงนิลบ้าง แต่ที่สำคัญ คือหญ้าเบญจรงค์สองต้นนี้ผมเอามาฝากแม่ครับ เผื่อว่ามันจะช่วยให้สุขภาพดียิ่งขึ้นได้

01_e0b895e0b989e0b899e0b8abe0b88de0b989e0b8b2
ต้นหญ้าสองต้นที่เป็นของฝากจากสวนลุงนิล จังหวัดชุมพร

Continue reading ของฝากจากชุมพร

เตรียมไปชุมพร กับ ฅนคอเดียวกันสัญจร

เมื่อหลายวันผ่านมา แม่ของผมเดินเข้ามาและบอกว่า จะไปทริปชุมพร ซึ่งเป็นทริปไปร่วมกับรายการทีวีรายการหนึ่ง ผมได้ยินก็ดีใจกับแม่ด้วย ที่จะได้ไปผ่อนคลายจิตใจและเรียนรู้สิ่งที่น่าสนใจ ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แม่ของผมเดินเข้ามาและบอกว่า แม่ติดประชุมวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันระหว่างทริปพอดี ผมได้ยินก็เสียใจกับแม่ด้วย ที่จะพลาดโอกาสไม่ได้ไปผ่อนคลายจิตใจและเรียนรู้สิ่งที่น่าสนใจ แต่มันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีอยู่เหมือนกัน เพราะผมเองก็จะได้สิทธิ์ไปแทนแม่นั่นเอง

เมื่อวานที่ผ่านมา ผมนั่งหาข้อมูลของการเดินทางเชิงสร้างสรรค์ครั้งนี้โดยดูจากข้อมูลต่างๆที่ทางแม่ของผมและเจ้าหน้าที่ให้มา ได้ความว่าเป็นการ่วมเรียนรู้ไปกับ ฅนคอเดียวกันสัญจร ..แน่นอนว่าผมไม่รู้อะไรเลย ผมจึงจำเป็นต้องศึกษาสักเล็กน้อยก่อนที่จะไปร่วมเดินทางเพื่อเรียนรู้กับคนอีก 20 กว่าคนที่ผมไม่รู้จักเลย และเขาก็คงไม่รู้ด้วยว่า ผมไม่ดูทีวี…

แต่ยังไงผมก็ยังสนใจการเดินทางครั้งนี้อยู่ดี เพราะมันน่าสนใจมากๆ น่าสนใจยังไงแบบไหน มีข้อมูลมาให้ดูกัน

กำหนดการในการเดินทางครับ กดเพื่อดูได้เลย
เทปบันทึกรายการย้อนหลัง ตอน: ลุงนิล คนของความสุข

ไว้กลับมาจะมาเขียนเล่าอีกทีครับ

สวัสดี