ปริมาณงานตามพื้นที่หน้าจอ

เวลาที่ผมมีงานหรือมีโปรเจคเข้ามา ก็มักจะบันทึกงานไว้หน้า Desktop ครับ ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาทำอย่างไรนะ แต่ผมชอบไว้ตรงนี้ มันเห็นง่ายดี

แต่เวลามีหลายๆงานเข้ามารุมล้อมกัน บางทีมันก็จะเคลียไม่ค่อยทัน นั่นคืองานมันซ้อนกันหลายงานนั่นแหละครับ ทีนี้พองานเยอะๆเข้าชักจะกินที่ของหน้าจอไปเรื่อยๆละซิ สิ่งนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าผมจำเป็นต้องรีบเคลียงานนะ!!

เมื่องานชักจะเยอะ หน้าจอก็เริ่มรกไปเรื่อยๆ
เมื่องานชักจะเยอะ หน้าจอก็เริ่มรกไปเรื่อยๆ

จริงๆเรื่องงานถ้ามันง่ายขนาดคิดก็เสร็จนี่มันคงจะไม่ยากลำบากชีวิตอะไรนัก เพราะงานของผมมักจะขึ้นกับลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งหัวหน้าผมก็คือผมเอง ดังนั้นคนที่ตัดสินใจให้งานผ่านก็เหลือแค่ลูกค้าครับ ซึ่งบางทีอาจจะต้องมีรอตรวจงานกันนิดหน่อยก่อนจะส่งมอบงานสุดท้ายไป

ซึ่งบางทีพอชนกันหลายๆงาน มันก็ติดอยู่หน้าจอหลายงานครับ บางทีก็ทำให้สับสนอยู่เหมือนกัน ซึ่งนิสัยผมจะยังไม่เคลียงานที่ยังไม่เสร็จครับ คือจะปล่อยไว้หน้าจออย่างนั้นจนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ซึ่งอย่างทีรู้ๆกัน งานวีดีโอ งานอนิเมชั่น มันไฟด์ Output ค่อนข้างจะเยอะ บางทีถ้าไฟด์มันเยอะนักผมก็จะเอาไปเก็บในแฟ้มครับ ซึ่งก็อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่ตอนเรียกใช้ละนะ…

หลังจากจัดการงานที่สุมอยู่เสร็จ หน้าจอก็โล่ง
หลังจากจัดการงานที่สุมอยู่เสร็จ หน้าจอก็โล่ง

พองานเสร็จทุกอย่างจะโล่งมากๆ ผมมักตั้งหน้าจอไว้ที่สีดำเพื่อเป็นการประหยัดไฟ (คิดว่าอย่างนั้นนะ) ถ้างานเสร็จเร็วเท่าไหร่หน้าจอก็ยิ่งจะโล่ง ไฟก็จะยิ่งประหยัด ปัจจุบันผมยังใช้จอ CRT อยู่เลยครับ เพราะมันสามารถซื้อจอใหญ่ได้ในราคาเล็กๆ แต่ตอนนี้เริ่มไม่มั่นใจแล้วครับ คิดว่าถ้าจอนี้เสียอาจจะซื้อจอใหม่เป็น LCD หรือเทคโนโลยีอื่นที่ดีกว่าแทน เพราะจออันนี้ผมซื้อมาใช้ก็สี่ปีกว่าแล้วครับ (ซื้อจอมือสองมาใช้)

สวัสดี

หนูอยู่ในแมวอยู่นอก

เรื่องในตอนนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับหนูที่จับได้ในบ้าน และดูเหมือนว่าที่อันตรายที่สุดของหนูนั้นคือนอกบ้านไม่ใช่ในบ้าน…

ผมไม่รู้เหมือนกันว่ามีหนูมาอยู่ในบ้าน ตอนไหน เมื่อไหร่ และเท่าไหร่ เท่าที่จับมาจนตอนนี้ก็สามตัวแล้ว ทั้งสามตัวถูกล่อด้วยกล้วย เพราะอาหารอย่างเดียวที่มีวางอยู่นอกตู้เย็นคือกล้วย…

หนูทั้งสามตัวที่ถูกจับได้ ตัวใหญ่ทั้งนั้น ผมค่อนข้างงง ว่ามันมาจากไหน เพราะที่บ้านไม่ค่อยได้เก็บอาหารและไม่มีอาหารแห้งเก็บไว้มากนัก มีก็แต่ที่อยู่ในตู้เย็น ซึ่งหนูคงจะเปิดตู้เย็นไม่ได้แน่ๆ และอีกที่ของอาหารน่าจะเป็นถังขยะ แต่ที่บ้านผมเป็นถังขยะแบบกดโดยใช้เท้า ซึ่งหนูก็คงจะไม่สามารถกดเปิดได้ เพราะต้องใช้สองตัวร่วมมือกัน ตัวหนึ่งกด ตัวนึงคุ้ย แต่ถ้าหนูมันทำอย่างนั้นได้ คนก็คงจะไม่รอดแน่ๆ

กรงดักหนูบ้านๆที่หาซื้อได้ทั่วไป จับหนูมาแล้ว 3 ตัว
กรงดักหนูบ้านๆที่หาซื้อได้ทั่วไป จับหนูมาแล้ว 3 ตัว

เมื่อจับหนูได้ก็เอามา ไว้นอกบ้านจะได้ไม่เลอะในบ้าน วางได้สักพักก็ได้ยินเสียงตัวใหญ่ มาเล่นหนูที่อยู่ในกระ ทำให้หนูกลัวและตกใจ ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวใหญ่จะกินหรือเปล่า ซึ่งแต่ก่อนก็มีแมวที่บ้านกินหนูอยู่เหมือนกัน แต่หนูที่จับได้ผมคิดว่ามันขนาดใหญ่ไปหน่อย ก็เลยเอาไว้ในบ้านเพื่อหลบตัวใหญ่อีกทีหนึ่ง (ปกติตัวใหญ่จะกินอาหารเม็ดอยู่แล้ว)

หนูอยู่ในแมวอยู่นอก

จริงแล้วที่หนูมันอยู่ในบ้านเพราะอาจจะหนีแมวที่อยู่นอกบ้านก็ได้ เพราะผมเลี้ยงแมวไว้นอกบ้าน พอหนูเห็นว่าข้างนอกไม่ปลอดภัยก็ในบ้านนี่แหละ แต่จริงๆก็เคยเอาจุ๊บมานอนในบ้านบ่อยๆ ก็ไม่เห็นจะจับได้ในบ้านนะครับ แต่จุ๊บก็เคยจับหนูมาให้สองตัวนะ แต่เล็กกว่าที่อยู่ในกรงนี้มาก แต่ตอนนี้จุ๊บไม่อยู่แล้ว หนูเลยมาอยู่ในบ้านแทน…

ในรูปนี้เป็นหนูตัวที่สอง ต่อมาก็มีหนูตัวที่สามที่จับไปแล้ว และปัจจุบันก็ยังมีหนูตัวที่สี่อีก ยังไม่ได้จับ แต่มันมาแสดงตัวโดยการมากินกล้วยที่วางไว้ครึ่งลูก

โจทย์ของผมตอนนี้คือหาว่ามันมาจากไหนยังไง เพราะลำพังของที่บ้านคงไม่พอเลี้ยงหนูให้อ้วนได้ถึงสี่ตัวแน่ๆ แค่ผมคนแค่ผมคนเดียวก็ยังลำบากเลย…

สวัสดี

เพิ่งรู้ว่าเขียนบล็อกมาสองปีนิดๆแล้ว

หลังจากที่ผมได้ไปเพิ่มให้มีหมวดหมู่ในบล็อกให้เพิ่มขึ้นมาเพื่อให้สะดวกในการเลือกอ่านเนื้อหาที่ผมพิมพ์ขึ้นมานั้นก็พบว่า ผมเขียนบล็อกมากว่าสองปีแล้ว

17/03/2009

17 มีนาคม 2552 ผมเริ่มสร้างบล็ิอกนี้ขึ้นมาเพราะต้องการเผยแพร่เนื้อหาต่างๆให้กับมังกีซ์โกรฟ และปัจจุบัน ผมได้เลือกให้มันเป็นบล็อกส่วนตัวของผม ซึ่งก็เขียนเรื่องราวที่พบเจอในชีวิตประจำวันมาเรื่อยๆ

04/04/2011

มาถึงวันนี้ครบสองปีมาแล้ว ผมพบว่าบล็อกได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในชีวิตของผมไปแล้ว มันให้ผลดีทั้งเรื่องงาน และเรื่องความจำ รวมถึงเรื่องความคิดสร้างสรรค์ของผม ผมเองไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะมาเป็นนักเขียนบล็อกแบบนี้ แม้ว่าจะดูไม่มืออาชีพนัก แต่ผมก็ให้เวลากับมันค่อนข้างมากทีเดียว และเป็นงานอดิเรกที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของผมอย่างไม่ห่างหาย

มีข้อดีข้อเสียมากมายจากการเขียนบล็อก แต่ผมเห็นว่าข้อดีมันมากกว่าและมันสามารถสร้างสิ่งดีๆให้มากกว่า… และตอนนี้มันกลายเป็นหนึ่งกิจกรรมที่สร้างความบันเทิงให้ผม นั่นทำให้ผมต้องเขียนบล็อกต่อไป~

สวัสดี

จุ๊บกับ 2 เดือนกว่าที่หายไป

ดูเหมือนว่าจะไม่มีท่าที หรือมีสัญญาณใดๆเกี่ยวกับจุ๊บเลยในสองเดือนที่ผ่านมา ผมได้แต่มองไปเรื่อยๆ ตามถนนเวลาที่ขับรถผ่านซอยอื่นๆเผื่อว่าจะเจอมัน

อย่างที่รู้ๆกันว่าแมวชอบออกไปเที่ยวและหายไปเป็นเดือนๆ หรือเป็นปีๆ แต่แน่นอนว่านั่นหมายถึงมันกลับมาเราถึงจะบอกได้ว่ามันชอบออกไปเที่ยวและหายไป แต่ถ้ามันไม่กลับมาเราก็บอกไม่ได้ว่ามันเป็นหรือตาย ข้อมูลล่าสุดไม่มีอะไรเลย ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็น และก็ไม่มีอะไรผิดปกติกับจุ๊บก่อนที่มันจะหายไปแม้แต่นิดเดียว

จุ๊บไปหายก่อนปีใหม่ประมาณหนึ่งอาทิตย์ และไม่มีวี่แววอีกเลย มีเพียงตัวใหญ่ที่วนกลับมากินข้าวตอนเย็นๆบ้างในบางครั้ง ตัวใหญ่เคยหายไปเที่ยวประมาณ ครึ่งปี และผมพบมันอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งคาดว่าน่าจะมีบ้านหลังอื่นคอยให้อาหารมันอยู่ ซึ่งผมหวังว่าจุ๊บจะเป็นเช่นนั้นบ้าง

สวัสดี

นกพิราบกับอาหารแมว

หลังจากที่จุ๊บหายไปเกือบจะสองเดือนแล้ว ตอนนี้อาหารแมวที่มีก็ยังคงจะเต็มถุงเหมือนเดิม เพราะตัวใหญ่ก็ไม่ได้แวะกลับมาบ้านทุกวันจะมานานๆที

แต่ขาประจำที่มารอกินอาหารแมวก็ยังไม่หายไปไหน นั่นคือ นกพิราบนั่นเอง มันเกาะสายไฟรอตั้งแต่เช้า แต่ช่วงนี้ก็อดๆอยากๆหน่อยเพราะพอไม่มีแมวก็ไม่ได้เทอาหารทิ้งไว้ นกพิราบก็เลยอดไปด้วย

นกพิราบกับอาหารแมว

ตอนนี้ไม่ได้มีแค่นกพิราบแต่มีนกกระจอกมาด้วย ผมสังเกตุหลายครั้งแล้ว ดูเหมือนมันจะคุยกันรู้เรื่อง มาด้วยกันตลอดเลย นกพิราบนกกระจอกกับอาหารแมวที่ไม่ค่อยได้เท

นกพิราบยังจำตำแหน่งอาหารได้แม่นยำแม้ว่าจะไม่ได้เทมาหลายวันแล้วก็ตามที ทุกวันๆผมจะเห็นมันมานั่งรอตามสายไฟ ในจุดที่ตรงข้ามกับบ้านผมพอดี และเป็นจุดที่มองเห็นจานอาหารแมวได้ชัดเจนพอดิบพอดี…

สวัสดี

กระเพราเห็ดไข่ดาว

วันนี้มากับเมนูใหม่กระเพราเห็ดไข่ดาว เมนูที่ผ่านเข้ามาในหัวเมื่อหลายวันก่อน วันนี้มีโอกาสได้ออกไปกินรู้สึกประหลาดอย่างไม่น่าเชื่อ

ที่มาที่ไปของกระเพราเห็ดไข่ดาว

มันสืบเนื่องมาจากที่วันหนึ่ง ผมไปซื้อไก่กินที่มหาลัย ซึ่งซื้อมาเยอะหน่อยเพราะว่าหิว กินไปกินมามันก็เริ่มไม่อร่อยเพราะเยอะ+เลี่ยนไป (ไก่ทอด) ก็มานั่งนึกๆว่าทำไมต้องกินไก่ด้วย ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบได้ที่ทำให้ผมซื้อไก่กิน ก็รู้สึกว่าถ้าจริงๆเราไม่กินไก่กินอย่างอื่นก็ได้นะ ก็มานั่งคิดไปว่าไม่กินเนื้อสัตว์ก็อยู่ได้นี่นะ เป็นการลดน้ำหนักไปในตัวด้วยเพราะบางทีอะไรที่มันอร่อยเกินไปก็จะกินเยอะเกิน

ต่อเนื่องจนเป็นกระเพราเห็ดไข่ดาว

วันก่อนได้ไปกินสเต๊ก เนื่องจากไม่ได้กินมานาน แต่ความรู้สึกไม่เหมือนก่อน ไม่ใช่ว่ามันไม่อร่อย แต่ก็ไม่รู้จะไปกินทำไมให้มันลำบาก กินให้อิ่มก็พอ เหมือนว่าความคิดของผมก่อนหน้านี้มันมากเกินไปหน่อย รู้สึกเหมือนอยากปรับตัวเองให้พอดีกับความเป็นจริงเสียหน่อย ทำไมผมต้องลำบากออกเดินทางไปหาสเต๊กกินด้วยนะนี่…

วันนี้ก็ได้กินกระเพราเห็ดไข่ดาว

วันนี้ตอนสายๆออกไปกินข้าวที่สี่แยกแถวบ้าน ซึ่งมีร้านอาหารตามสั่งอยู่ ถ้าปกติสำหรับผมแล้วก็คงจะสั่งกระเพราหมูกรอบพิเศษไข่ดาว แต่วันนี้เริ่มลังเล มาถึงที่ร้านมองไปไม่เห็นหมูกรอบก็เป็นโอกาสที่ดี เพราะร้านนี้จะทอดหมูกรอบประมาณสายๆ ถึงเที่ยง แต่วันนี้เขายังไม่ได้ทอดก็เป็นโอกาสที่ดีในการเปลี่ยนเมนูเสียเลย

ผมมองไปที่ตู้ใส่ผักว่ามีอะไรบ้าง ตอนแรกคิดว่าจะใส่เห็ดกับข้าวโพด แต่เห็นว่ามีเห็ดเยอะก็เลยสั่งแต่กระเพราเห็ด ใส่ไข่ดาวเพิ่มไปอีกหน่อย แม้ค้าถึงกับต้องถามซ้ำอีกครั้งว่ากระเพราใส่เห็ดอย่างเดียวหรอ ปกติคงจะไม่ค่อยมีคนสั่งเมนูนี้เท่าไหร่ หรือไม่ก็สั่งแล้วใส่ควบกับอย่างอื่น ก็ตกลงเอาเมนูนี้แหละ วันนี้มั่นใจและพร้อมที่จะกินกระเพราเห็ดเต็มที่แล้ว แม้มันจะแปลกๆในใจก็ตาม

หลังจากนั่งรอไม่นานนักกระเพราเห็ดไข่ดาวก็ถูกนำมาวางไว้หน้าผม รสชาติของกระเพราก็เหมือนเดิมต่างไปแค่เป็นเห็ดแทนเนื้อสัตว์ ผมคิดว่าที่มันอร่อยจริงๆก็ตรงกระเพราไข่ดาวนี่แหละ พวกเนื้อหมูกรอบหรืออะไรก็ตามดูเหมือนจะเป็นเครื่องเคียง เพราะฉะนั้นเปลี่ยนเนื้อสัตว์เป็นเห็ดก็เลยไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่ กินไปก็อร่อยดี ในใจก็คิดว่านี่แหละเมนูยอดฮิตในปีนี้ของผม อย่างมาก็ใส่เต้าหู้เพิ่มเข้าไปด้วยอีกหน่อย

สักพักก็มีคนเดินมาสั่งกระเพราหมูกรอบ แต่ที่ร้านยังทอดไม่เสร็จบอกว่าอีกครึ่งชั่วโมงได้ คนที่เขาสั่งกระเพราหมูกรอบแทนที่จะเปลี่ยนเป็นกระเพราอย่างอื่นก็ยังยืนยันที่จะรอกระเพราหมูกรอบ เพราะร้านนี้หมูกรอบเด็ดจริงๆครับ แต่ในระหว่างที่ผมกินอยู่นั้น กลับไม่รู้สึกอยากเปลี่ยนใจกลับไปกินหมูกรอบเลย หรือเพราะได้กินเข้าไปบ้างแล้วอาการหิวเลยไม่มีทำให้ไม่อยากและไม่สนใจเมนูอื่นแล้ว

สรุปแล้วกระเพราเห็ดก็อร่อยดีครับ วันหลังว่าจะให้ใส่อย่างอื่นไปด้วย เช่นข้าวโพดอ่อน เห็ดหูหนู ฯลฯ ประมาณว่าอยากกินผักแทนแล้วครับ อะไรก็ได้จะพยายามเปลี่ยนตัวเองให้ได้สักวัน

สวัสดี

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับการลดเนื้อสัตว์ มากินผักได้ที่ Veggie kitchen , facebook (Veggie Kitchen)

มองย้อนไปเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา (2553)

เมื่อกี้ผมลองค้นดูรูปเก่าๆเมื่อถ่ายเมื่อปีที่ผ่านมา พบว่าหลายๆเหตุการณ์ดูเหมือนเพิ่งจะเกิดไปเมื่อไม่นาน แต่พอดูวันที่แล้วมันผ่านไปเมื่อปีที่แล้วทั้งนั้น

เขาว่าคนเราเมื่อมีความสุขเวลาจะผ่านไปเร็ว จริงรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่รู้แน่ๆคือเวลาที่เรามองย้อนกลับไปข้างหลัง มันดูเหมือนจะใกล้กว่าที่คิด ทั้งๆที่มันห่างไปตั้งหนึ่งปี ความทรงจำต่างๆที่เก็บรวบรวมมาไว้ในหนึ่งปีนั้น ถ้าไม่ได้รูปถ่ายช่วยจำไว้ ชีวิตผมก็คงต้องหลงลืมอะไรหลายๆอย่างไปตามทางที่มันควรจะเป็น

การจำหรือระลึกอะไรได้เยอะๆมันก็ดีอย่างตรงได้ทบทวนว่าได้ทำอะไรลงไปบ้างในเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา บางอย่างก็มีความสุข บางช่วงก็ทุกข์บ้าง แต่ไม่มีช่วงไหนเลยที่ไม่ดี เพราะทุกเหตุการณ์นั้นสอนผมอยู่เสมอว่าได้ทำอะไรลงไปแล้วได้ผลอะไรกลับมา

มีอย่างหนึ่งที่มองไปแล้วคิดถึงมากๆ นั่นคือจุ๊บ ผมไล่ดูรูปจุ๊บในปีที่ผ่านๆมา ผมถ่ายรูปมันไว้เยอะมากๆ เพราะมันน่ารัก และเป็นแมวตัวโปรด มันมีนิสัยที่เป็นตัวของตัวเองสูงมาก เดาใจยากสุดๆแต่ก็มีรูปแบบให้พอจะจับทางได้บ้าง และที่สำคัญมันนุ่มมาก ตอนนี้มันหายไปจากบ้านเกือบสองอาทิตย์แล้ว ผมอยากรู้ว่ามันไปไหน อยู่หรือตายไปแล้ว มันอาจจะถูกรถชนก็เป็นได้ ถ้ามันจะไปติดสาวบ้านอื่นก็คงจะยากเพราะมันโดนทำหมันตั้งแต่เด็ก อาการกระหายประจำปีของแมวหนุ่มจึงไม่เคยเกิดขึ้นกับมัน

จุ๊บเป็นแมวที่แทบจะไม่ส่งเสียงร้องเลยแม้แต่นิดเดียว เหมือนวิลลี่แม่ของมัน ผมชอบแมวแบบนี้ เงียบๆ ไม่สงเสียง นอน เดิน ตามใจของมัน แมวที่มายุ่งวุ่นวายมากๆกับร้องมากๆ นั้นส่วนใหญ่ผมจะไม่ค่อยได้ให้ความสนใจกับมันสักเท่าไรนัก

จริงๆคงจะเป็นผมเองก็ได้ที่แปลก จึงอยู่กับแมวแปลก หรือไม่ก็แมวได้ซึมซับสิ่งแปลกๆจากผมมาก็เป็นได้ จนถึงตอนนี้จุ๊บก็ยังไม่กลับบ้าน ได้แต่หวังว่าวันหนึ่งมันจะกลับมา…

สวัสดี

ผ่านข้ามปี กับหนึ่งอาทิตย์ที่ไม่มีจุ๊บ

หลังจากที่จุ๊บหายไปตั้งแต่ช่วงวันคริสต์มาสหรือ ประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ตอนนี้ผ่านข้ามปีเก่ามาถึงปีใหม่แล้วก็ยังไม่มีวี่แววของมันโผล่มาเลย

ใครยังไม่ได้อ่านก็ตามไปอ่านตอนที่แล้วก่อนได้นะครับ > ” จุ๊บไปไหน?

หลายวันก่อนผมพยายามเดินหามัน หาร่องรอย หากลิ่นที่ไม่อยากดม เผื่อจะเจออะไรบ้าง เพราะแม่กับผมเองเข้าใจดีว่าจุ๊บเป็นแมวที่ติดบ้านมากๆ ตลอดชีวิตของมันไม่เคยห่างบ้านเลย เป็นแมวที่ติดบ้านมากที่สุดในหมู่แมวจำนวนมากที่ผมเลี้ยงมา

การที่มันหายไปแบบนี้ย่อมเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเอาเสียเลย แต่มันหายไปแบบไร้ร่องรอย ไม่มีวี่แววอะไร ก็คงจะเป็นอย่างนั้นเพราะมันคือแมว จะหายไปไหนก็คงไม่ได้บอกเราก่อนหรอกนะ

ช่วงนี้ผมเจอแต่ตัวใหญ่ และมักจะเจอในที่ ที่จุ๊บเคยอยู่เสมอๆ ตัวใหญ่มันจะนั่งตรงที่จุ๊บเคยนั่ง รอคนเข้าบ้านเพื่อมาให้อาหารมันตรงที่จุ๊บเคยรอ ตัวใหญ่ก็ไม่เคยมาอยู่แถวบ้านบ่อยๆแบบนี้เช่นกัน ผมเองภาวนาให้มันสลับกันมากกว่าที่จะไปอย่างถาวร ตัวใหญ่กลับบ้าน จุ๊บออกไปท่องเที่ยวตามหาตัวเอง ถ้าเป็นแบบนี้สักวันมันคงจะกลับมา

ผมมองจุ๊บ มองแมวตัวนี้ เหมือนสมาชิกในบ้าน แม่ของผมเป็นห่วงมันเอาเสียมากๆ เพราะมันชอบอ้อนแม่ ขอให้แม่เปิดประตูให้มันเข้ามานอนในบ้านเป็นประจำ ไม่ก็มานอนดูทีวีกับแม่ แม่กังวลเกี่ยวกับจุ๊บมากๆเลยครับ ผมเองก็เช่นกัน แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็คงต้องถามเพื่อนบ้าน ถามยามแถวบ้านเอาว่าเห็นแมวหน้าตาแบบนี้บ้างไหม…

ตอนนี้เป็นช่วงปีใหม่ หลายบ้านไม่ค่อยอยู่บ้าน หมู่บ้านดูจะเงียบเหงาไปนิดหน่อย ผมมองออกไปตอนเช้า ตอนสาย บ่าย เย็น ค่ำ ในตำแหน่งที่ควรจะมีจุ๊บอยู่ แต่ทั้งหมดนั้นว่างเปล่า บางครั้งตำแหน่งเหล่านั้นถูกแทนที่ด้วยตัวใหญ่อย่างที่บอกไว้ตอนแรก ถ้าปีนี้ถามว่าผมอยากได้ของขวัญปีใหม่เป็นอะไร ก็คงอยากให้แมวของผมกลับมาอยู่ที่บ้านแหละครับ หรืออย่างน้่อยก็อยากรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน พอไม่เจอมันแล้วเหงาๆพิกล

สวัสดี

จุ๊บไปไหน?

เมื่อตอนเย็นที่ผ่านมา แม่เดินเข้ามาและถามว่า “เห็นจุ๊บบ้างไหม” พอนึกๆไป ผมก็รู้สึกเหมือนกันว่าช่วงนี้ไม่ได้เห็นจุ๊บมาสองสามวันแล้ว…

ปกติถ้าเป็นตัวใหญ่ละก็ ไม่เห็นเป็นเดือนก็ยังเฉยๆเพราะเป็นเรื่องปกติของตัวใหญ่ไปแล้ว แต่สำหรับจุ๊บนั้นต่างออกไป จุ๊บเป็นแมวที่ค่อนข้างติดบ้านพอสมควร ผมกับแม่มักจะเจอจุ๊บในเวลาเดิมๆหรือที่เดิมๆเป็นประจำ อย่างสองวันก่อนผมกลับบ้านดึกทุกวัน ซึ่งปกติจะเห็นจุ๊บนั่งอยู่แถวๆหน้าบ้านไม่ก็ริมถนน แต่ช่วงสองวันนี้กลับไม่เห็นอะไร

และก็ยังไม่เห็นจุ๊บมากินข้าวเสียด้วย ซึ่งปกติแล้วมันก็ไม่น่าจะหายไปขนาดนี้เพราะมันเป็นแมวที่ติดบ้านมากๆ เป็นผลทำให้มันอ้วน ซึ่งถ้าการออกไปท่องเที่ยวไกลๆ ทำให้มันหิวล่ะก็ อย่างน้อยก็น่่าจะกลับมากินข้าวที่บ้านบ้างนะ

วันนี้ตอนค่ำๆผมเดินไปดูตามซอยหมู่บ้านเผื่อจะเจอมันยืน นั่ง เดิน หรือนอนอยู่ตามถนนบ้าง เพราะเคยเห็นมันอยู่ซอยอื่นเหมือนกันนะ หวังว่ามันคงจะกลับมาบ้านเร็วๆนี้ แม่กับผมเป็นห่วงมันจริงๆเลยนะนี่

สวัสดี

จุ๊บข้างถนน

หลายวันก่อน ขณะที่กำลังเดินทางเข้าหมู่บ้าน เจอแมวหนึ่งตัวเดินเล่นอยู่ข้างทาง… ตอนแรกเห็นไกลๆก็คิดว่า แมวที่หมู่บ้านเรานี่ก็เยอะดีนะ แต่ดูไปดูมา..นั่นมันแมวบ้านผม..!!

จุ๊บข้างถนน
หันมามองทำหน้าแมวสงสัยนิดหน่อย เหมือนว่าไม่เคยเห็นแมวรึไง ตำแหน่งนี้อยู่ห่างจากบ้านประมาณร้อยเมตรครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่าอาณาเขตของแมวมันกว้างใหญ่เท่าไหร่เหมือนกัน แต่รู้ว่านี่ก็ไกลจากบ้านพอสมควร

แมวข้างถนน
จุ๊บนี่เวลาเข้าไปใกล้ๆมันจะเดินหนีครับ เป็นปกติสำหรับมันและผมไปแล้ว จริงๆมันก็กลัว+เกรงคนอื่นๆด้วยเหมือนกัน จะเชื่องกับแม่ผมคนเดียวเท่านั้นเอง

แมวหลบหลังเสา
เดินไปสักพักก็มาหลบหลังเสาไฟฟ้านี่แหละ รู้สึกปลอดภัยดีตอนกลางวันหรือเมื่อเวลาแมวอยู่กลางแจ้ง รูม่านตาของมันจะปิดให้รับแสงน้อยลงครับ ดูๆแล้วก็ไม่ค่อยได้เห็นจุ๊บในมุมนี้เท่าไหร่ เพราะปกติที่เห็นจะกลับมานอนอยู่บ้านก็ตอนเย็นๆแล้ว ส่วนตอนบ่ายๆไม่รู้มันไปเที่ยวที่ไหนเหมือนกัน

เห็นแมวตัวเองไปเที่ยวไกลๆแล้วก็แอบห่วงอยู่นิดหน่อยว่ากลัวจะไป ทะเลาะกับแมวที่อื่นแล้วได้แผลมาครับ…

สวัสดี