“ศรัทธา ในส่วนดี เมตตา ในส่วนด้อย” หมอเขียว ใจเพชร กล้าจน
ประโยคเต็มๆนั้นยาวกว่านี้ แต่ผมตัดมาเท่านี้ เพราะผมรู้สึกว่าเพียงแค่เข้าใจความเพียงเท่านี้อย่างแจ่มแจ้งก็จะไม่โกรธและไม่เพ่งโทษใครเลย
ตามความเข้าใจของผม ศรัทธาในส่วนดี คือสภาพที่มีจิตเห็นดีในสิ่งที่เข้าทำดีตามจริง ซึ่งตรงข้ามกับกิเลส “มักขะ” หรือการลบหลู่คุณค่าของคน เพราะโดยมากแล้ว เวลาเราไม่ถูกใจใคร เราก็จะตีทิ้งคุณค่าของเขาทั้งหมด ส่วนมากจะหลงไปเพ่งโทษด้วยซ้ำ พระพุทธเจ้าตรัสว่า คนพาลมีการเพ่งโทษเป็นกำลัง ดังนั้นเพ่งโทษเมื่อไหร่ก็เป็นคนพาลเมื่อนั้น ไม่ว่าเราจะเก่งดีเลิศมากจากไหน แต่ถ้าเราไปตีทิ้งความดีของคนอื่นแล้วล่ะก็ เราก็เสี่ยงจะเข้าสู่ความเสื่อมได้เช่นกัน
ผมเคยมีประโยคหนึ่งขึ้นมาในความคิดหลังจากไปงานคนค้นคนอวอร์ดเมื่อปลายปี 58 ว่า “สิ่งที่เขาเป็น กับความดีที่เขาทำ มันคนละเรื่องกัน” มันก็เป็นปํญญาน้อยๆ ที่เกิดขึ้นว่าเราจะไม่เหมาเข่งตีทิ้งความดีของใครๆ
เมตตาในส่วนด้อย อันนี้เข้าใจเผินๆ ก็ไม่ยาก แต่ก็ทำได้ยากยิ่งเช่นกัน เพราะโดยธรรมชาติของกิเลสแล้วเวลาเราเจอคนที่เราเข้าใจว่าเขาด้อยกว่า ก็มักจะมีอาการข่ม ดูหมิ่นเขา ฯลฯ เช่นพอเห็นเขาทำเรื่องชั่ว ที่ไม่ถูกใจเรา เราก็ซัดเขาด้วยมาตรฐานความดีของเราซะเต็มที่เลย พอเขาไม่ดีได้อย่างใจเรา กิเลสมันก็โต เป็นโกรธ อาฆาต ผูกโกรธ ฯลฯ ไปเรื่อย ๆ ได้เหมือนกัน
จริงๆ ที่เมตตามันไม่เกิดเพราะไม่เข้าใจความจริงแหละนะ เพราะยึดติดกับความดีตามมาตราฐานของฉัน มันก็เลยอนุโลมไปเข้าใจคนนั้นคนนี้เขาไม่ได้
อยู่ ๆ ก็นึกได้ เลยบันทึกตามที่นึกถึงไว้เท่านี้..