เว็บอัพเดท สิงหาคม 2019

ก็ปล่อยทิ้งร้างมาเป็นช่วง ๆ เพราะชีวิตประจำวันมีภารกิจที่ต้องทำค่อนข้างมาก เช้า สาย บ่าย เย็น เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องนาน ๆ พอหลายเดือน มันก็ลืม ๆ เรื่องอัพเดทเว็บไป

ส่วนมากพอไปใช้ใน facebook ก็ลืมการเข้ามาบันทึกในบล็อกแห่งนี้ ซึ่งจริง ๆ มันก็สำคัญ เพราะอย่างน้อยมันก็เป็นอีกแหล่ง 1 ฐานข้อมูล ที่จะทำให้ค้นเจอเรื่องราวและเนื้อหาที่ผมได้พิมพ์เผยแพร่

สำหรับผู้ที่สนใจแวะเวียนมาติดตาม สามารถติดตาม account ที่มีการขยับอัพเดทมากที่สุดของผม นั่นก็คือ facebook  https://www.facebook.com/dinh.writer อันนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของบทความ ความคิดเห็น สำหรับการติดต่อสอบถาม ในบัญชีนี้ก็เป็นบัญชีที่ผมใช้บ่อยที่สุด สามารถที่จะติดต่อมาได้ในช่องทางนี้ครับ

อีกส่วนจะเป็นเรื่องราวในชีวิตประจำวัน อาหารการกิน สาระไม่ค่อยมาก นั่นก็คือบัญชี instagram.com/diiinp/ ผู้ที่สนใจก็เข้าไปติดตามกันได้

 

บะหมี่น้ำ! ลดเนื้อสัตว์ มากินผักกันเถอะ

ช่วงหลังๆมานี่ก็ได้เริ่มลดเนื้อสัตว์ กินผักมากขึ้น เพราะได้รับรู้ประโยชน์หลายอย่างในการเน้นผักเป็นหลักของอาหารในชีวิต

ผมไม่ค่อยอยากใช้คำว่า มังสวิรัติ เท่าไหร่ เพราะมันจะกลายเป็นตัวมัดให้เราไปยึดกับรูปแบบบางอย่างเข้า ขอเรียกว่าการลดเนื้อสัตว์ กินผักแทนแล้วกัน ส่วนใครจะลดได้ในอัตราเท่าไหร่ แบบไหนก็ตามสะดวกเลย ส่วนผมก็ลดเรื่อยๆเท่าที่จะทำได้

กินผักลดเนื้อ-บะหมี่น้ำ

ทีนี้ความยากในการเลิกกินเนื้อสัตว์ แล้วหันมากินผักแทน อาจจะไม่ได้ยากตรงการกิน สำหรับคนในเมืองกรุง มันจะยากตรงการหากินนี่แหละ (ส่วนต่างจังหวัดมีที่ก็ปลูกผักสวนครัวไปนะ)

คนกรุง…

คนกรุง อยู่คู่กับความรีบเร่ง และความวุ่นวายมานาน ไม่ค่อยมีใครให้ความสำคัญกับอาหารเท่าเรากินเข้าไปเท่าตัวเลข หรือรายได้ที่เราจะได้ต่อเดือนต่อปี ซึ่งเขาเหล่านั้นอาจจะไม่เคยคิดเลยว่าผลเสียจากอาหารที่เรากินนั่นแหละจะเป็นตัวทำให้ชีวิตเราติดลบ ขาดโอกาสต่างๆ จากการป่วยและตายนั่นเอง ( การลงทุนในชีวิตจะมองข้ามสุขภาพไม่ได้เพราะเป็นหนึ่งในความเสี่ยง (ที่จะไม่ได้ใช้เงินที่หามา) )

กลับมาที่การหากินอาหารที่ลดเนื้อ เพิ่มผัก ในชีวิตประจำวัน ร้านอาหารต่างๆ ก็มักจะมีเนื้อสัตว์เป็นเมนูหลักเสมอ ส่วนผักมักจะเป็นตัวเสริม เป็นพระรองเสมอ แต่ในเมื่อเราจะดันผักขึ้นมาเป็นพระเอก เราก็ต้องหาทางปั้นหนทางสู่การกินผักกันหน่อย

เริ่มแรกเราอาจจะไม่ชินในการปรับเปลี่ยนเมนู อาจจะเจอภาวะติดใจกับอาหารโปรดเก่าๆ อาจจะคิดไม่ออก แต่ถ้าได้ลองค้นหาข้อมูลดูจะมีวิธีการเลือกกินผักลดเนื้ออย่างมากมาย เรียกได้ว่าใช้ในชีวิตประจำวันได้ถ้าคิดจะเปลี่ยนจริงๆ เพราะคนดังๆมากมายในโลกเขาก็กินผักเป็นหลักกันนะ…

บะหมี่น้ำ…

ตัวอย่างเช่น การเข้าร้านสั่งบะหมี่น้ำของผม แน่นอนว่าแต่ก่อนก็ไม่เคยรู้สึกลำบากขนาดนี้หรอก ต้องมาสั่งอะไรที่มันไม่เคยก็เขินๆอยู่เหมือนกัน พอเดินเข้าร้านบะหมี่ปูก็เข้าไปสั่ง บะหมี่น้ำพิเศษ ไม่ใส่หมู/เนื้อสัตว์ เอาแต่บะหมี่กับผัก แม่ค้าแกก็ดูทำให้อย่างคุ้นเคย สงสัยจะมีคนกินแบบนี้เยอะ

เมื่อเขามาเสริฟ เราก็จะได้บะหมี่ และผักมากมาย (รึเปล่า?) แต่จะใส่อะไร จะคิดเงินเท่าไหร่ก็เป็นเรื่องของแม่ค้าละนะ เราแค่กินแล้วก็จ่ายเงินก็พอ ส่วนจะถูกใจถูกคอกับร้านไหนก็แล้วแต่เลย แต่ถ้าได้ร้านที่คุยกันรู้เรื่องก็จะสามารถกินผัก ลดเนื้อได้อย่างสะดวกทุกวันเชียวละ

การกินผักลดเนื้อนั้น เกิดประโยชน์ต่อเราทั้งร่างกายและจิตใจ เกิดประโยชน์ต่อสัตว์ที่เราละเว้นไว้ เกิดประโยชน์ต่อโลกมากมาย ถ้ามีโอกาสก็ ลด ละ เลิกกันไปแล้วกันนะ

สวัสดี

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับการลดเนื้อสัตว์ มากินผักได้ที่ Veggie kitchen , facebook (Veggie Kitchen)

เดินทางและเรียนรู้

ช่วงหลังๆ มานี้ ไม่ค่อยอยู่บ้านครบเดือนสักที มีภาระกิจ ต้องเดินทางตลอด ไปครึ่งเดือนบ้าง สัปดาห์บ้าง ไปพบเจอเรื่องราวมากมายที่มากกว่าชีวิตประจำวัน

ชีวิตรับงานอิสระแบบผมนี่จะมาจะไปไหนมันก็สะดวก ไม่ต้องมีห่วงอะไรมากมายนัก เพียงแค่จัดการงานที่รับมาให้จบตามเวลาแล้วก็ออกเดินทางไปเรียนรู้ได้ก็เป็นกำไรของชีวิตแล้ว เพราะไม่รู้วันไหนเมื่อไหร่ที่จะต้องจากโลกนี้ไปจึงไม่อยากมีชีวิตอยู่เพื่อเงิน ตามหาเงิน ใช้เงิน อยู่กับเงินๆๆๆ ให้เงินพลักดันชีวิต ดังนั้นจึงพยายามหาเงินให้พอดี และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเรียนรู้

Continue reading เดินทางและเรียนรู้

Welcome to DUCK BLOG

เปลี่ยนแปลงกันอีกครั้ง ของบล็อกแห่งนี้ เมื่อหลายปีก่อนก็มีหลายชื่อแต่ในปัจจุบันก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น DUCK BLOG บล็อกเป็ด อะไร อย่างไร ทำไม เดี๋ยวเล่ากันต่อเลย

ความเปลี่ยนแปลง

เดิมทีบล็อกแห่งนี้เคยเป็นช่องทางการเผยแพร่ข่าวสารของ MonkiezGrove ในเวลาต่อมาก็ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็น Dinh Blog ซึ่งจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน ประสบการณ์ต่างๆของ Dinh เมื่อเวลาผ่านไปมีเรื่องราวมากมายค่อยๆถูกแยกออกไปเป็นบล็อกอื่นเรื่อยๆ เช่น cactus , caladium ฯลฯ และในครั้งนี้ก็เช่นกันเป็นความเปลี่ยนแปลงของเนื้อหาในบล็อกแห่งนี้อีกครั้ง

ในครั้งนี้เป็นการแยกเนื้อหาที่มีความจริงจังเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตของ Dinh ออกไปอีกบล็อกหนึ่ง ซึ่งจะเน้นไปทางการดำเนินชีวิต การแบ่งปันประสบการณ์ชีวิต และนั่นหมายถึงการหั่นความหมายของ Dinh Blog ออกไปจนเหลือเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น ดังนั้นจึงกลายมาเป็น DUCK BLOG อย่างที่เห็นกันอยู่นี่ บล็อกเป็ดๆ อะไรแบบเป็ดๆ หลายอย่างไม่จริงจัง ขำๆกันไป

สิ่งที่เหลืออยู่

ในปัจจุบันบล็อกแห่งนี้ก็ถูกแบ่งภาคออกไปจนความสำคัญ หรือสาระเริ่มจะไม่มีแล้ว คล้ายๆว่าเหลือแต่บ่นๆ ดินฟ้าอากาศ เล่านู่น กล่าวนี่ อะไรแค่ประมาณนี้ สิ่งที่เหลืออยู่ในตอนนี้อาจจะจับประเด็นไม่ได้นักว่าเหลืออะไร แต่บล็อกเป็ดก็จะดำเนินต่อไปแบบเป็ดๆ เมื่อมีอะไรสำคัญๆก็อาจจะแยกร่างออกไปอีกก็เป็นได้ ดังนั้นสิ่งที่เหลืออยู่ก็คือความเป็นเป็ดนั่นแหละ

ทำไมต้อง DUCK BLOG

ผมชอบเป็ดนะ เป็ดทำอะไรได้หลายอย่าง แน่นอนว่าดูเหมือนจะไม่เก่งสักอย่าง แต่นั่นมันมองจากสายตาของคน คำตัดสินของคนเป็นอย่างไรก็รู้กันอย่างนั้น แต่ถ้ามองในมุมเป็ด มันคงจะมีความสุขมากๆที่ทำอะไรได้หลายๆอย่าง เพราะความหลากหลายนี่เองจะทำให้เกิดการเรียนรู้ในภาพกว้าง

ผมเองเป็นคนไม่ชอบลงรายละเอียดในสิ่งไหนลึกๆ พอเข้าไปพบ ไปสัมผัส ก็มักจะถอนตัวออกมาในเวลาไม่นานนัก จะไม่จมอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนาน ชอบเรียนรู้ไปเรื่อยๆมากกว่า เอาแค่พอรู้แล้วก็ถอยมาดูอีกที เพราะศาสตร์ต่างๆในโลกนี้ดูเหมือนจะไม่มีแก่นสารใดๆ ดังนั้นผมเองยังค้นหาต่อไปว่าสิ่งไหนหรือสิ่งใดที่ควรจะให้เวลากับมันจริงๆ หรือควรจะจริงจังกับสิ่งนั้นจริงๆสักที

ชีวิตหลังจากกลับมาจากค่ายสุขภาพ แพทย์วิถีธรรม (ค่ายหมอเขียว)

แทบจะไม่เชื่อตัวเองเลยว่า จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ถึงขนาดนี้ กับเวลาเพียงแค่อาทิตย์เดียวซึ่งจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงทั้งชีวิตอย่างแน่นอน

เมื่อปลายเดือนมกราคม 2556 ที่ผ่านมา ผมได้ไปศึกษาวิธีดูแลสุขภาพ กับค่ายสุขภาพ แพทย์วิถีธรรม (ค่ายหมอเขียว) ซึ่งเนื้อหาเกี่ยวกับที่ได้รับมาจากค่ายสุขภาพก็จะนำมาพิมพ์กันให้อ่านในภายหลัง พอดีว่ายังไม่มีเวลาเรียบเรียง เอาเป็นว่ามารู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงกันก่อนดีกว่า

การเปลี่ยนแปลงด้านอาหารการกิน

เชื่อไหมว่าความรู้สึกต้องการกินเนื้อสัตว์ ปลา หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ นอกจากพืช มันเบาบางและเหมือนจะจางหายไป มันไม่ต้องการเหมือนเคย แม้ว่าจะกินไปแล้วก็ไม่รู้สึกว่าอร่อยติดใจ อาจจะเพราะผมเองให้ความหมายของการกินเพียงแค่หนึ่งอิ่มเท่านั้นเอง แต่ลึกๆในใจนั้นกลับติดใจอาหารในค่ายสุขภาพ อาหารที่หลายคนเบือนหน้าหนี เพราะว่ามันจืดและกินยากมากๆ แต่เชื่อไหมว่า ผมอยากกินอีก…

อาหารประจำวันในค่ายสุขภาพ
อาหารประจำวันในค่ายสุขภาพ

ในวันหลังๆในค่าย (1 สัปดาห์) ผมสามารถกินอาหารจืดๆในค่ายสุขภาพได้อย่างปกติ แทบจะไม่มีการปรุงรส สำหรับเนื้อสัตว์นี่ไม่มีแน่นอน มีแต่ผัก ผลไม้ ข้าว และถั่ว เป็นอาหารที่สามารถให้พลังงานที่เพียงพอได้ในแต่ละวันทีเดียวล่ะ จบเรื่องอาหารไว้เท่านี้ก่อนเพราะประโยชน์มันเยอะเดี๋ยวค่อยไว้ต่อตอนหน้า

ระบบขับถ่าย

ระบบขับถ่ายเป็นอะไรที่เกิดขึ้นทุกวัน ใครที่ระบบดำเนินไปไม่ปกติย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพและอารมณ์อย่างแน่นอน สำหรับช่วงเวลาที่อยู่ในค่ายหมอเขียวนั้น กินแต่ข้าว ผัก ถั่ว ผลไม้ บอกได้เลยว่าสบายท้องมาก กินไปก็ไม่ร้อนท้อง ทุกอย่างสบายหมด กลับมาบ้านกินเหมือนเดิมๆ ที่กินมาเกือบทั้งชีวิต รู้สึกอย่างชัดเจนว่าของกินในชีวิตประจำวันนี่เอง ทำให้ชีวิตและสุขภาพของเราลำบาก

นี่เป็นเพียงประโยชน์เล็กน้อยที่หยิบยกนำมากล่าว จากประสบการณ์และความรู้มากมายที่ผมได้รับมาจากค่ายสุขภาพ แำพทย์วิถีธรรม หรือค่ายหมอเขียว เพียงแค่สองเรื่องนี้ก็เพียงพอจะทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนแปลงไปได้แล้ว ปรับหางเสือเพียงเล็กน้อย  ปลายทางของเป้าหมายในชีวิตที่แสนจะห่างไกล ก็คงจะเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างแน่นอน

สวัสดี

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับการลดเนื้อสัตว์ มากินผักได้ที่ Veggie kitchen , facebook (Veggie Kitchen)

เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง

ณ วันนี้ดูเหมือนจะมีกิจกรรมที่หลายอย่าง ดูจะสับสนในชีวิตพิกล การมีกิจกรรมและงานที่หลากหลายดูจะเป็นข้อดีในชีวิต

แต่ในปัจจุบันนั้นความหลากหลายเหล่านั้นกลับมาเล่นงานผม ในวันหนึ่งผมมีสมาธิอยู่ปริมาณหนึ่ง แน่นอนมันสามารถเพิ่มเป็นอนันต์ได้ถ้าหากผมฝึกบ่อยๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วกิจกรรมหลายๆอย่างนั้น ทำให้ผมกลายเป็นคนสมาธิสั้นไป

การรับข้อมูลข่าวสาร จากทุกๆมุมของเรื่องที่สนใจ มีผลทำให้เราไขว้เขวไปจากเรื่องที่กำลังจดจ่อหรือมุ่งมั่นอยู่ ครั้นไอ้การจะไม่สนใจก็ดูจะเป็นการยากไปหน่อยเพราะส่วนใหญ่กิจกรรมเหล่านั้นก็มักจะอยู่รอบๆ หรือปนอยู่ในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว ก็คล้ายๆกับกินกาแฟตอนเช้า แปรงฟันก่อนนอนอะไรอย่างนั้น

แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป…

แน่นอนว่าถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ ผมเองสามารถควบคุมความหลากหลายของตัวเองได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับมัน จนกระทั่งมาถึงตอนนี้ ณ จุดนี้ที่กำลังพิมพ์อยู่นั้นเป็นเวลาของเทอมสุดท้ายในการเรียนปริญญาโท ของผม ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมไม่ค่อยจะถนัดนัก นั่นคือการวิจัยเชิงสถิติและบรรยายในรูปแบบวิชาการ

ผมเองเรียนศิลปะมา ผมคิดว่าศิลปะเหมือนจักรวาล ไม่มีขอบ ไม่มีสูงสุด ไม่มีต่ำสุด ความคิดผมจึงไม่เคยมารูปแบบหรือกรอบใดๆทั้งนั้น มันกลายเป็นทัศนคติ กลายเป็นนิสัย และกลายเป็นอนาคตของผมไปในเวลาเดียวกัน แต่ในปัจจุบันนี้ผมจำเป็นต้องทำตามกฏเกณ หรือรูปแบบ หรือ แบบทดสอบใดๆก็ตามที่จำเป็นต้องผ่านไปให้ได้ การเปลี่ยนมุมมองที่เคยมีนั้น ไม่ยากเท่ากับการเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำกิจกรรมอย่างหลากหลายในแต่ละวัน

สถานการณ์เปลี่ยนคนก็ต้องเปลี่ยน

เมื่อสถานการณ์บีบคั้นกว่าที่คิด ผมจึงจำเป็นต้องตัดสินใจ และเข้าใจสภาพที่ตัวเองเป็นอยู่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะจำได้ ผมนึกถึงประโยคหนึ่งได้ในขณะที่ตั้งสมาธิ “เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง” ประโยคนี้พุ่งเข้ามาในหัวผมทันที โชคดีที่ผมเคยได้ยินและได้รับประสบการณ์เกี่ยวกับความหมายของประโยคนี้ ผมเองชินกับความหลากหลาย จนขาดความสามารถในการจดจ่อในสถานการณ์ที่จำเป็นเช่นนี้ เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง เป็นประโยคที่สามารถนำมาใช้ในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างดี

เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง ทำให้ผมรู้ว่าผมควรจะเรียงลำดับความสำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดในสิ่งที่สำคัญมากมายนั้น ถ้าไม่ใช้สติคิดก็คงจะลำบาก เพราะผมเองมีสิ่งสำคัญหลายสิ่งที่ต้องทำไม่ทำก็อาจจะทำให้ชีวิตแย่ก็ได้ แต่สิ่งนี้ การทำวิจัยในครั้งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้ ผมพิมพ์บทความนี้เพื่อบอกกับตัวเอง ทุกคำที่พิมพ์ลงไปได้ตอกย้ำข้อความเหล่านี้ในสมองของผม และเป็นสิ่งยืนยันแนวทางของผมเองด้วย ซึ่งเรื่องนี้คงไม่ต้องการ การพิสูจน์หรือการทดลอง แต่จำเป็นต้องทำอย่างจริงจัง เวลาที่เหลือไม่มากในช่วง 1-2 เดือนนี้ผมจะขอใช้เพื่อการทำวิจัยนี้เท่านั้น

สวัสดี