[23] การเลือกวัสดุอุปกรณ์ (ลวด)

diary-0023-การเลือกวัสดุอุปกรณ์-ลวด

23. การเลือกวัสดุอุปกรณ์ (ลวด)

วันนี้จะมาเล่าเรื่องลวด ในรูปนี้มีลวดสองเส้น เส้นหนึ่งเป็นของเก่า อีกเส้นพึ่งซื้อมาใหม่…

เส้นที่เป็นของเก่าซื้อติดบ้านไว้นานแล้ว อยู่ด้านขวา แขวนไม้ไว้เป็นปีก็ไม่มีสนิมกิน แต่ลวดด้านซ้ายซื้อมาไม่นาน เอามาผูกไม้ก็ไม่นาน สนิมกินในเวลาไม่นาน

บางครั้งการเริ่มทำอะไรหลายสิ่งหลายอย่าง เราก็ต้องเสียเวลาให้กับความไม่รู้ อย่างเช่นเราไม่มีความรู้ในเรื่องวัสดุอุปกรณ์ เห็นหน้าตามันเหมือนจะกันสนิมได้ก็ซื้อมา แต่จริง ๆ แล้วก็เป็นสนิมเหมือนกับลวดผูกเหล็กทั่วไปได้

ของแต่ละอย่างมีวิธีใช้ของมัน ลวดด้านซ้าย ถ้าใช้ในร่มในที่แห้งก็คงไม่มีปัญหาอะไร

เหมือนกับของหลายอย่างที่ผมใช้แล้วใช้ผิดวิธีเพราะไม่มีความรู้ บุ้งกี๋มันยกของหนักมากไม่ได้ แรงเรามีจริง แต่มันตามแรงเราไม่ไหว มันก็หัก มันก็พัง หรือมีดที่ดูเหมือนจะแข็งแรง แต่พอฟันผิดเหลี่ยมนิดหน่อย กลับงอไปทั้งเล่ม

เราก็ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดนี่แหละครับ พวกนี้เป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่ได้มีชุดความรู้เผยแพร่อยู่ทั่วไป อาจจะมีก็เช่นพวกในกลุ่มของคนที่ทำอาชีพหรือคนที่เผชิญกับปัญหาเดียวกันเอามาแบ่งปัน แต่ส่วนใหญ่เราก็พลาดก่อนทั้งนั้น เพราะไม่รู้ยังไงล่ะครับ มันก็เลยประมาณผิดไป

ผัดกะเพราฟักทอง

ผัดกะเพราฟักทอง

ผัดกะเพราฟักทอง

หลัก ๆ ก็มีแค่กะเพรากับฟักทองนั่นแหละ เครื่องปรุงก็มี เกลือ พริกแห้ง น้ำตาล สามอย่าง วิธีที่ทำก็เอาฟักทองไปต้มหรือนึ่งก่อน จะได้สุกทั่วกัน แล้วก็เอามาผัด ถ้าไม่ต้มหรือนึ่งฟักทองก่อน ก็ต้องหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ จะได้สุกง่ายขึ้น

เมนูนี้ทำในวันที่อากาศเย็น เลือกเอาแต่วัตถุดิบฤทธิ์ร้อน เช่นพริก กะเพรา ฯลฯ ถ้าอากาศร้อน กินแบบนี้จะไม่ค่อยสบาย แต่ถ้าหนาว ๆ ก็กินแล้วสบาย

ฟักทองนี่สรุปไปค้นมาแล้ว ว่าเก็บได้นานเท่าไหร่ โดยเฉลี่ยก็เดือนสองเดือน แต่มีบางคนให้ข้อมูลกันว่าคนที่ปลูกฟักทองเขาเก็บกันกว่าครึ่งปี ซึ่งก็มีวิธีเก็บผลผลิต คือปล่อยให้สุกคาต้น ต้นแห้งตายไปเลย แล้วก็เก็บไว้ในที่อากาศถ่ายเท ไม่อับ จะเก็บได้นาน

พอได้ข้อมูลแล้ว ก็เอาเมล็ดฟักทองที่ได้ส่วนหนึ่ง ลงเพาะกันเลย จะได้มีฟักทองไว้กิน ฟักทองนี่ปลูกแล้วไม่ได้กินง่าย ๆ ต้องรอกันหลายเดือน 4-6 เดือนนู่น กว่าจะได้กิน ก็ปลูกและรอกันไป ดีกว่าซื้อแน่ ๆ แต่ช่วงที่มันยังไม่โตก็ซื้อกินไปก่อน

กล้วยกับปลี

กล้วยกับปลี

กล้วยกับปลี

ตั้งแต่เอากล้วยมาลง มีประมาณ 3 ครั้งที่เห็นมันออกลูก แต่ไม่เคยได้กินลูกมันเลย มันสุกช่วงกลับกรุงเทพฯ ทุกที จะตัดก่อนก็จะอ่อนเกินไป…

แต่ปลีนี่ได้กินทุกรอบ เมนูสิ้นคิดสำหรับปลีกล้วยคือเอาไปชุบแป้งทอด แต่หลัง ๆ เริ่มต้องคิดแล้วเพราะการทอดนั้นค่อนข้างเปลืองน้ำมันและทรัพยากรอื่น ๆ และยิ่งถ้าเอาไปทอด จะกะยากว่าจะได้อาหารปริมาณเท่าไหร่

ถ้าตามประสบการณ์ที่เคยทำมา การเอาหัวปลีไปชุบแป้งทอด จะแบ่งกินได้หัวหนึ่งถึงสองวัน แต่วันหลังจะลองไม่ทอดดู คงจะเอาไปผัด นึ่ง ต้มประกอบอาหารอื่น ๆ อาจจะได้สัดส่วนที่ต่างออกไป

เรื่องหัวปลีก็จบไป มาถึงเรื่องกล้วย ที่ไม่เคยได้กิน ครั้งนี้ตั้งใจว่าจะอยู่รอกินให้ได้ เพราะมันก็ออกผลมาให้เราหลายทีแล้ว เราก็ไม่อยู่กินมันสักที ไม่นกก็ค้างคาวเอาไปกินหมด

ที่เห็นนี่เป็นกล้วยน้ำว้า พันธุ์อะไรไม่รู้ ชาวบ้านให้มา แต่ไปขุดเองนะ ขุดมาเยอะ ขุดกันหลายรอบ รอบละ 10 กว่าต้น แต่รอดจริง ๆ ก็เหลือแค่หลักสิบนั่นแหละ ทดลองปลูกไปเรื่อย หลาย ๆ แบบ สุดท้ายถ้าจะให้อยู่ดี ต้องประคบประหงมมันช่วงหนึ่ง หลังจากนั้นก็ค่อยปล่อยมันตามธรรมชาติ แต่ถ้าปลูกแล้วปล่อยตามธรรมชาติเลย ตายแน่นอน หน้าฝนก็ยังรอดยาก

[22] ฝนตกปลายหนาว

diary-0022-ฝนตกปลายหนาว

22.ฝนตกปลายหนาว

วันนี้มีฝนตกตั้งแต่เช้า หลังจากที่ไม่เห็นมันตกมากว่าครึ่งเดือน

อากาศก่อนหน้านี้ก็ค่อนข้างเย็น ตอนเช้าอุณหภูมิลงไปถึง 19 องศา ซึ่งเย็นแค่นี้ ผมคิดว่าผมก็อยู่ไม่ค่อยสบายแล้ว แต่ปี 58 ที่นี่ก็เคยเย็นกว่านี้ ตกลงไปประมาณ 13-14 องศา เรียกว่าออกมากลางแจ้งลมพัดทีนึงเล่นเอามือชากันเลย

หลังจากอากาศเย็นเมื่อวันสองวันก่อนผ่านไป มันก็เริ่มอุ่นขึ้น เมื่อวานตอนเช้าวัดได้ 24 องศา ก็กำลังดี คิดว่าน่าจะอุ่นขึ้นอีก แต่ฝนกลับตกลงมาก็เลยน่าจะกลายเป็นเย็นลงไปอีก

บ้านที่อยู่นี่ก็ไม่ได้กันร้อนหนาวดีเท่าที่กรุงเทพฯ จะค่อนข้างอ่อนไหวมาก เพราะสร้างด้วยวัสดุที่ไม่กันความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเท่าไรนัก ก็อยู่กันไป…

มอดในข้าวสาร

มอดในข้าวสาร

มอดในข้าวสาร

หลังจากที่ได้เปลี่ยนมากินข้าวไร้สารพิษพักใหญ่ ๆ ก็จะเจอกับปัญหามอดในข้าว ซึ่งปกติก็จะจับออก ตอนล้างข้าวนั่นแหละ ก็มีบ้างที่เอาออกไม่หมด

ซึ่งผมเองก็เคยเห็นเขาเอาข้าวมาใส่กะละมังแล้วตั้งไว้กลางแดดเพื่อไล่มอดมานานแล้ว ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ได้เอากลับมาทำในทันที จนวันหนึ่งเวลาสาย ๆ แดดส่องเข้ามาในตัวอาคาร นึกขึ้นได้จึงลองเอากล่องใส่ข้าวสารนี้ไปวางตากแดด

กลายเป็นว่าวิธีนี้ดีกว่าแบบที่เคยใช้จริง ๆ เพราะใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มอดก็พากันเดินไต่ออกมาจากข้าว มาเดินวน ๆ อยู่บนขอบกล่อง เราก็ค่อยจับมันออก แบบนี้ง่ายกว่าเดิมมาก เพราะแต่ก่อนต้องคอยควานหา แต่นี่มันแสดงตัวออกมากันหมดเลย

ที่ตอนแรกยังไม่ได้ทำตามที่รู้มานั้นเพราะเข้าใจว่าต้องตากแดดนาน ที่ไหนได้ ตากแป๊ปเดียว มอดก็ออกจากข้าวแล้ว

ใบกะเพรา

ใบกะเพรา

ใบกะเพรา

ผมเด็ดใบกะเพรามาก็นึกถึงเมื่อตอนไปสั่งผัดกะเพราในร้านอาหารตามสั่งสมัยก่อน เรามักจะได้ใบกะเพรานิดเดียว

ต่อมาผมลองหัดปลูกกะเพราที่บ้านกรุงเทพฯ ก็ได้ผลดี แต่มันก็อยู่แต่ในกระถาง ไม่โตมาก ทำให้ไม่ทันกิน หรือบางทีลืมดูแลมัน มันก็ตายจากไปก็มี

มาตอนนี้ลงกะเพราไว้ที่สวน ลงดินไว้เลย มันก็ติดดี ตอนนี้อยู่ได้แม้ทิ้งไว้ตามธรรมชาติ แถมยังแพร่พันธุ์ไปในอาณาเขตข้างเคียงอีกด้วย

ผมเคยคิดว่ากะเพราต้องอยู่ในที่ร่มถึงจะงาม แต่พอเอาไปลองปลูกกลางแดด โดยที่แทบจะไม่ได้รดน้ำเลย มันก็ยังโต แตกกิ่งก้านใบให้พอกินได้

สรุปว่าตอนนี้มีกะเพรามากพอกิน เด็ดเท่าไหร่ก็ได้ วันไหนจะกินผัดกะเพราก็เด็ดมากิ่งหนึ่ง ได้ใบมากพอจะมาผัดที่เรียกได้ว่าผัดกะเพราจริง ๆ สักที

[21] ฟักทองจากตลาด

diary-0021-ฟักทองจากตลาด

21.ฟักทองจากตลาด

หลายวันก่อนได้ฟักทองจากตลาด 5 ลูก 30 บาท กิโลกรัมละ 10 บาท เฉลี่ยลูกละ 6 ขีด เขาแถมมาอีกลูกกลายเป็น 6

ก็ถามแม่ค้าว่าลูกเล็กแบบนี้สุกรึยัง เขาก็ว่าสุกแล้ว อายุมันได้แล้ว แค่ผลมันไม่ใหญ่ มันแล้ง ฯลฯ เราก็นึกในใจ เอ้อดีนะ ฟักทองลูกไม่ใหญ่ กินง่ายดี ดีกว่าลูกใหญ่แล้วผ่ามา อันนั้นเราไม่มีที่เก็บ แต่ลูกเล็กนี่ดี กินวันละครึ่งถึงหนึ่งลูกก็ยังได้ ไม่เป็นภาระเท่าลูกใหญ่

ปกติเวลาหาซื้อฟักทองในซูเปอร์มาเก็ตก็จะเลือกลูกเล็ก ๆ อยู่แล้ว ได้เจอเล็กแบบนี้ก็เหมาะเลย และที่สำคัญ กิโลกรัมละ 10 บาท นี่ก็เป็นราคาที่ถูกที่สุดของฟักทองที่เคยเห็นในตลาดด้วย (ถ้าเป็นมันเทศ เคยซื้อโลละ 5 บาท)

จริง ๆ จะซื้อมาเยอะกว่านี้ก็ได้ แต่ไม่รู้ว่ามันจะเก็บได้นานขนาดไหน ก็ไม่เคยลอง แต่เดี๋ยวถามคนขายเอาจะง่ายกว่า เพราะซื้อมาเดี๋ยวก็กินหมดตลอด ไม่เคยเก็บไว้ข้ามเดือนข้ามปีสักที

ฟักทองนี่เป็นอาหารสำรองสำหรับผม ซื้อติดไว้เผื่อไม่มีอะไรกิน ก็กินฟักทองนี่แหละ มันเก็บได้นานโดยไม่ต้องมีตู้เย็น ผักอีกชนิดที่กำลังหัดนำมาประกอบอาหารคือฟัก ฟักนี่ก็เก็บได้นาน เคยลองเอามาทำแต่ฟักอ่อน ฟักแก่นี่ไม่เหมาะ เพราะใหญ่เกินไป กินภายในวันสองวันไม่หมดจะเสียของ

สรุปแล้ว ไม่ว่าจะฟักทอง หรืออะไร ถ้าสามารถเก็บได้นาน และเหมาะกับแบ่งกินเป็นมื้อ ๆ ก็จะดีมาก ดูจะสวนทางกับกระแสการปลูกพืชผักนะ ของเขาต้องให้ได้ลูกใหญ่ ของผมเน้นเล็ก ๆ พอกินไปวัน ๆ ….

เลยคิดว่าถ้าปลูกแล้วแห้งแล้งได้ผลแบบนี้ ก็เอานะ ไม่รู้จะใหญ่ไปทำไม กินลำบาก เดี๋ยวปีนี้จะลองปลูกฟักทองกันอีก หวังว่าคงได้ผลมากกว่าหนึ่งลูกนะ

นึ่งข้าวเหนียว

นึ่งข้าวเหนียว

นึ่งข้าวเหนียว

ได้ข้าวเหนียวมาจากตลาด เขาว่าเป็นข้าวใหม่ เขาขายโลละ 30 บาท จะขอซื้อครึ่งกิโลกรัมเขาก็ไม่ขาย ก็เลยซื้อมากิโลเดียวนั่นแหละ

ที่ซื้อมาก็ไม่ใช่อะไร ก็จะเอามาทำข้าวคั่วใส่ลาบที่ทำวันก่อนนั่นแหละ คือเคยไปซื้อข้าวคั่วแบบสำเร็จ เขาก็คั่วมาดีนะ แต่มันแพงไง 10 บาทได้นิดเดียว ไอ้เราจะกินแพงก็ใช่เรื่อง ออกแรงเองจะดีกว่า

ทีนี้ข้าวคั่วมันก็ใช้นิดเดียว ข้าวเหนียวก็เหลือ แถมไม่มีที่เก็บอีก ก็เลยเอามานึ่งกินกับลาบนั่นแหละ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมนึ่งข้าวเหนียว เรียนรู้ไปตั้งแต่หุงแบบข้าวปกติ เอามานึ่งใส่น้ำน้อยบ้างเยอะบ้าง แช่ข้ามคืนบ้าง ก็ได้ความรู้ดี

ที่นึ่งแบบในรูปนี่ก็จำมาจากที่เขาขายข้าวตามตลาด เรามีแค่ซึ้ง ไม่มีหวด ไม่มีหม้อที่เขาใช้กันทั่วไป เราก็เลยประยุกต์ดูให้มันเหมาะกับของที่มี ก็กินได้นะ จะว่าออกมาดีไหม มันก็ตอบไม่ถูก เพราะสาระมันไม่ได้อยู่ที่ออกมาเหนียวนุ่มหรืออะไร มันอยู่ที่ได้เรียนรู้อะไร แต่ผลที่ออกมาไม่ว่าจะเหนียวนุ่มแข็งแฉะมันก็กินอิ่มได้อยู่ดีนั่นแหละน้า…

ลาบเต้าหู้

ลาบเต้าหู้

ลาบเต้าหู้

อยู่ ๆ ก็นึกอยากลองทำลาบดู แต่ก่อนก็ทำบ่อยแล้ว แต่ทำที่กรุงเทพฯ มันก็หาวัตถุดิบง่ายจัดเก็บสบาย เลยลองมาทำที่นี่บ้าง

สรุปว่าลาบเป็นเมนูที่ยุ่งยากมาก นอกจากจะใช้ผักหลายชนิดแล้ว ยังมีขั้นตอนเยอะด้วย ไหนจะต้องหั่นหอม ไหนจะต้องคั่วข้าว&ตำข้าว ไหนจะต้องเด็ดใบสะระแหน่ ฯลฯ

ไอ้ขั้นตอนการปรุงนี่ก็ไม่เยอะหรอก เยอะตรงเตรียมของนี่แหละ มันอาจจะดูเป็นเมนูธรรมดา แต่ก็เป็นเมนูที่กินแรงพอสมควรเมื่อเทียบกับผัดผักหรือไม่ก็ผักนึ่งที่แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย…

ก็ฝึกไว้เป็นมนูรับแขกได้ดี เอาไว้ทำให้คนอื่นกิน แต่ถ้าส่วนตัวแล้วไม่เอาดีกว่า ลำบากและเปลือง

[20] ฟ้าที่มองเห็นดาว

diary-0020-ฟ้าที่เห็นดาว

20.ฟ้าที่มองเห็นดาว

ปกติแล้ว จะไม่ได้ออกมาข้างนอกตอนกลางคืน เพราะไม่มีอะไรนอกจากความมืดและความเงียบ (ในหน้าหนาวก็ยังหนาวอีกด้วย…)

แต่วันหนึ่งก็มีเหตุให้ออกมาเดินเล่นตอนกลางคืน ก็เดินคิดงานไปเพลิน ๆ มองไปบนฟ้าเห็นดาวเยอะมาก เลยไปหยิบกล้องมาถ่ายไว้

ฟ้าที่กรุงเทพฯ ไม่เห็นแบบนี้หรอก เพราะมันสว่างเกินไป ทั้งยังมีฝุ่นควันเยอะด้วย แต่ที่นี่เห็นแบบนี้ทุกวัน ถ้าไม่มีเมฆบังละนะ

อยู่ต่างจังหวัด ก็เห็นคลองใส ๆ ภูเขา ต้นไม้ ดาวเป็นธรรมดานั่นแหละ