[7] วิวข้างทาง ระหว่างไปตลาด

diary-0007-วิวข้างทางระหว่างไปตลาด

7. วิวข้างทาง ระหว่างไปตลาด

ผมเห็นหลายคนเขาไปเที่ยว ไปหาประสบการณ์กันต่างถิ่นต่างแดน แต่ผมกลับรู้สึกว่าไม่ต้องไปไหนอีกแล้ว มันพอใจเท่าที่อยู่กันนี่แหละ

เพราะแค่ที่เห็นนี่มันก็ดีอยู่แล้ว มันลงตัวอยู่แล้ว เอาแค่วิวข้างทาง มองไปไกล ๆ ได้ มันก็สบายใจแล้ว ไม่อึดอัด

ส่วนที่เป็นธรรมชาติในบ้านเราก็สร้างของเราขึ้นมาเอง อยากให้สวย ให้ดี ให้มีประโยชน์แบบไหน เราก็สร้างมันขึ้นมาเอง ให้มันใช้งานได้ เป็นประโยชน์ ….วันหนึ่งคนเขาอาจจะคิดว่าที่เราอยู่เป็นสถานทีท่องเที่ยวก็ได้นะ …

มันเทศ

มันเทศ

มันเทศ

วันก่อนไปตลาดมา ได้มันเทศมาในราคา 20 บาท ถุงในรูปนี้สองกิโลครึ่ง

เขามีทั้งแบบหัวเล็กและหัวใหญ่นะ แต่ผมเลือกหัวเล็กเพราะมันต้มสุกไวดี หัวใหญ่ต้องรอนานกว่า

เห็นมีบางหัว มีหน่อกำลังจะขึ้น คิดว่าเอามาปลูกก็ดีเหมือนกัน คิดไปคิดมาเดี๋ยวไปซื้อแบบหัวใหญ่มาน่าจะดีกว่านะ ถ้าเราจะเอามาปลูก…คิดไปงั้นแหละ ค่อยว่ากันอีกทีตอนไปตลาด เดี๋ยวค่อยซื้อปน ๆ กันมาทั้งเล็กและใหญ่

ก่อนหน้านี้เห็นข่าวมันราคาถูก ก็ถูกจริง ๆ นั่นแหละ สองโลครึ่ง ยี่สิบบาทก็ถูกแล้ว กินได้หลายวันแล้ว ก่อนหน้านี้ซื้อโลละ 15 บาท ก็มี 20 บาท ก็มี

[6] ถางหญ้า ในหน้าฝน

diary-0006-ถางหญ้าในหน้าฝน

6. ถางหญ้า ในหน้าฝน

กิจกรรมถางหญ้านั้น เป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างจะเพลิน กินแรงน้อย ทำได้นาน ถึงแดดจะร้อน แต่ก็ไม่รู้สึกว่าเหนื่อยนัก ยิ่งทำตอนแดดร่มลมพัดนี่ยิ่งถางได้เร็ว

แต่เมื่อฝนตกแล้ว ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นอีก เพราะนอกจากจะชื้นแฉะแล้วยังมีโอกาสเจอกับแมลงมีพิษหรือสัตว์อื่น ๆ ด้วยก็ได้

หลังฝนตกผมจึงไม่ค่อยเสี่ยงไปถางหญ้าสักเท่าไรนัก แต่จะเปลี่ยนงานไปทำอย่างอื่นดีกว่า รอวันอากาศดี ความชื้นน้อย ๆ ดูแห้ง ๆ แล้วค่อยออกไปถางหญ้าจะปลอดภัยกว่า

ข้าวต้ม

ข้าวต้ม

ข้าวต้ม

วันก่อนรู้สึกอยากกินอะไรที่มันนิ่ม ๆ เคี้ยวง่าย ก็เลยคิดจะทำข้าวต้ม

แต่วัตถุดิบก็เหลือน้อย ยังมีขาเห็ดหอมแห้ง กับไชยาอยู่ก็เลยเอามาหั่นใส่ พร้อมทั้งใส่น้ำพริกสมุนไพรที่เหลือลงไปด้วย คงจะได้อารมณ์แบบข้าวต้มทรงเครื่อง

ลองผสมกันไปดู ออกมาก็สมดังใจ แต่ข้าวไม่นิ่มเท่าไหร่เพราะต้มไม่นานนัก แถมยังเป็นข้าวซ้อมมือด้วย ซึ่งถ้ารอให้นิ่มหรือเละอาจจะนาน หรือคงต้องหุงแล้วเอามายีให้มันเละก่อนคงจะได้ข้าวต้มเละ ๆ

แต่ก็ไม่เป็นไร แบบนี้มันมันก็พอได้ ได้กินข้าว ได้ซดน้ำอุ่น ๆ ให้คล่องคอ สบายไปอีกมื้อ

[5] จุดไฟด้วยวัสดุต่าง ๆ

diary-0005-จุดไฟด้วยวัสดุต่างๆ

5. จุดไฟด้วยวัสดุต่าง ๆ

หลังจากที่มาเรียนรู้การประกอบอาหารด้วยฟืนหรือถ่าน ผมก็เรียนรู้การจุดไฟมาเรื่อย ๆ

ความเข้าใจเดิม ๆ ก็คือต้องมีขี้ใต้ มีวัสดุช่วยจุดไฟ ซึ่งถ้าในสถานการณ์ เช่น เดินป่าก็อาจจะเหมาะก็ได้ แต่นี่เราอยู่บ้านมันก็ไม่ต้องมีอะไรยุ่งยาก

ผมเริ่มเรียนรู้การจุดไฟจากเศษกระดาษเหลือใช้ ตั้งแต่การใช้กระดาษเยอะ ๆ จนเหลือเพียงกระดาษไม่กี่แผ่นก็ติดเตาได้

แล้วก็ทดลองใช้กิ่งไม้แทนกระดาษ ใช้เศษหญ้า เศษฟางแทนกระดาษ ลองใช้ไม้ฟืนที่ตัดเตรียมไว้แทน ก็พบว่าแทนกันได้ดี

ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อความยากง่ายในการติดไฟนั้นก็คือความชื้น เราควรเก็บเชื้อเพลิงของเราให้แห้งเข้าไว้จะง่ายต่อการจุดไฟ แต่ถ้าเปียกชื้นมันก็พอได้อยู่ แต่ต้องใช้เวลาและแรงมากหน่อยในการจะก่อไฟแต่ละครั้ง

ผักกับน้ำพริก

ผักกับน้ำพริก

ผักกับน้ำพริก

ผมนี่เป็นคนกินน้ำพริกไม่เป็น เพิ่งจะมาหัดกินน้ำพริกกะปิก็ไม่กี่ปีมานี้ สมัยเริ่มลดเนื้อสัตว์แรก ๆ แต่ปัจจุบันก็ไม่ได้กินแล้ว

ก็เห็นแม่กินข้าวกับน้ำพริกและผักลวก ก็คิดไปว่า เออชีวิตกินแค่นี้ก็ง่ายดีนะ ก็เลยว่าจะลองเรียนรู้บ้าง

ผักที่เอามาลวกก็มีกะหล่ำ ไชยา อ่อมแซ่บป่า ซึ่งอ่อมแซบป่านี่น่าจะกินสด ไม่น่าลวก เพราะมันจะนุ่มนิ่มเกิน ส่วนไชยาชุดนี้นี่ เป็นใบที่เลี้ยงมาแบบขาดน้ำ ดังนั้นมันจึงเหนียว ลองกินใบใหม่ ๆ ดูแล้วไม่เหนียว แต่ถ้าเอาใบแก่ ๆ แนะนำให้หั่นก่อน จะกินง่าย ไม่อย่างนั้นคงจะได้เคี้ยวกันเมื่อยปากแน่ ๆ

ในส่วนน้ำพริกนั้นหยิบมามั่ว ๆ จากร้านขายวัตถุดิบมังฯ เขาก็ว่าเป็นน้ำพริกสมุนไพร ซึ่งจากที่ลองกินดูในมื้อนี้ก็พบว่ามันรสจัด

น้ำพริกนี่แหละคือตัวรวมความจัดของรสชาติ คนก็เลยติดใจไง เพราะมันปรับระดับความจัดได้ อยากให้จัดมากก็ใส่เยอะ ๆ ให้รสอ่อนหน่อยก็ใส่น้อย ๆ ส่วนน้ำพริกแต่ละชนิดก็หลากรสกันไปตามแต่สูตร

ซึ่งผมคิดว่ามันก็ลำบากและสิ้นเปลืองอยู่ดี เพื่อให้ได้มาซึ่งรสจัด ๆ แบบนี้ ถ้าเอาผักในรูปนี้ไปผัดแล้วปรุงในกะทะเลยก็อาจจะง่ายกว่าเอามากินกับน้ำพริก

เพราะแท้จริงแล้วน้ำพริกมีกระบวนการทำที่ค่อนข้างยุ่งยาก ถ้าเราซื้อเอามันจะไม่ชัด ทำเองจะรู้เลยว่ามันยุ่งยากกว่าการหั่นผักแล้วเอาใส่ในกะทะลงไปผัดและปรุงรส

[4] เก็บเศษไม้ ทำเชื้อเพลิง ทดแทนถ่าน

diary-0004-เก็บเศษไม้ทำเชื้อเพลง-*

4. เก็บเศษไม้ ทำเชื้อเพลิง ทดแทนถ่าน

ช่วงแรก ๆ ที่มาอยู่ที่นี่นั้น ผมจะใช้ถ่านเป็นหลักของเชื้อเพลิงในการทำอาหาร

แต่การได้มาซึ่งถ่านนั้นก็ยากเย็น ต้องขับรถออกไปซื้อจากชาวบ้าน แม้จะมีราคาถูกมากเมื่อเทียบกับที่กรุงเทพฯ คือกระสอบละ 130-150 บาท แต่ก็ยังเป็นความไม่สะดวกในการจัดหาอยู่ดี

ต่อมา ผมเริ่มใช้กิ่งไม้เข้ามาเพื่อช่วยลดภาระ จนในที่สุดผมแทบจะไม่ได้ใช้ถ่านที่ซื้อมาเลย เรียกว่าแค่กิ่งไม้ที่มีในพื้นที่ก็ใช้กันไม่ทันเลยทีเดียว

ซึ่งตรงจุดนี้ก็สามารถลดค่าใช้จ่ายและความยุ่งยากจากการซื้อถ่านได้ แต่การมีถ่านสำรองไว้นั้นก็สามารถช่วยได้ในหลาย ๆ กรณีเช่น ไม่มีเวลาจัดหาฟืน ป่วย หรือทำอาหารประเภทเผา ย่าง ปิ้ง ควรจะใช้ถ่านมากกว่า เพราะฟืนจะมีควันค่อนข้างมาก ไม่เหมาะที่จะใช้กับอาหารที่ต้องกระทบกับความร้อนโดยไม่ผ่านเครื่องครัว

ถ้าเราไม่ต้องการซื้อถ่าน เราก็สามารถจะเผาถ่านเก็บไว้เองได้ แต่ในการเผาถ่านนี้ผมยังไม่ได้ทดลอง และหากไม่เผาถ่านก็สามารถจัดหาไม้มาตัดเป็นท่อน ๆ เตรียมสำรองไว้ได้เช่นกัน

เมล็ดข้าวโพด

เมล็ดข้าวโพด

เมล็ดข้าวโพด

ปลูกข้าวโพดไว้ตั้งแต่สามเดือนก่อน แบบว่าปลูกเล่น ๆ ที่เหลือ พอมาถึงคราวนี้ตอนแรกนึกว่าตายหมด เพราะหญ้าโตคลุมสูงกว่าต้นข้าวโพดอีก

แต่พอลองแหวก ๆ หญ้าดูก็เห็นต้นข้าวโพด เห็นฝักข้าวโพดเลยปลิดออกมา

ข้าวโพดที่ปลูกนั้นจำได้ว่ามีสองพันธุ์ ที่แน่ ๆ คือข้าวโพดข้าวเหนียว ส่วนอีกพันธุ์น่าจะเป็นข้าวโพดป๊อปคอน แต่มันก็จำได้ไม่แน่ว่าอาจจะมีพันธุ์อื่นมาผสม ๆ ตอนปลูกก็ได้ เพราะถ้าต้นไหนตาย เราก็ลงเมล็ดไปเสริม

ทีนี้เท่าที่เห็นมันได้เมล็ดมาสามแบบ ฝักล่างนี่ข้าวโพดข้าวเหนียวแน่ ๆ กลางนี่ไม่แน่ใจ เหมือนข้าวโพดบ้าน ๆ ทั่วไป แต่บนสุดนี่ไม่คุ้นเลย ฝักก็สีม่วง ก้านก็สีม่วง ถ้าเมล็ดม่วงก็คงจะพอเดาได้ แต่เมล็ดดันเหลือง เดี๋ยวจะลองปลูกในรอบหน้า ตอนนี้แยกถุงและจดลักษณะไว้แล้ว

[3] ถางหญ้า ได้ออกกำลัง ได้หญ้าคลุมดิน

diary-0003-ถางหญ้าได้ออกกำลัง

3. ถางหญ้า ได้ออกกำลัง ได้หญ้าคลุมดิน

หลังจากที่มาได้ไม่กี่วัน งานแรกที่ทำก็คือถางหญ้า เพื่อที่จะปลูกผัก

ในวันวันหนึ่งผมถางหญ้าได้ค่อนข้างเยอะ แต่จะไปเสียเวลากับการเตรียมแปลงผักมากกว่า เพราะต้องทำให้ดี ปลูกทีหนึ่งใช้ไปเป็นเดือน ไม่ก็หลายเดือน

ถางหญ้านี่ใช้เคียว จะไวมาก แต่ต้องระวัง ต้องมีสติ ไม่รีบ ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ทำไป เพราะถ้าโดนเคียวเกี่ยวทีก็คงจะเย็บกันหลายเข็มและหยุดงานไปอีกหลายวัน

หญ้าที่เกี่ยวมาได้ก็เอาไว้ยัดข้างแปลงผัก ทำเป็นร่องไว้ ตรงกลางเป็นดินพูน ๆ รอบ ๆ ก็เป็นร่องไว้ยัดหญ้า ฟาง ฯลฯ

จากที่ทดสอบมาก็ได้ผลดี คือเป็นอาณาเขตป้องกันหญ้าขึ้น ทั้งยังย่อยเป็นปุ๋ยให้ดินด้วย ที่สำคัญคือได้ใช้หญ้าให้เป็นประโยชน์ไม่มีอะไรเหลือทิ้งเลย

เกี่ยวหญ้านี่เป็นงานที่ทำได้ทั้งวัน ทำได้ไม่หยุด เพราะกินแรงไม่มาก แต่กินเรื่อย ๆ ต้องขยันดื่มน้ำหน่อย เพราะจะเสียน้ำไปโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะตอนทำงานกลางแดด

กระถินคลุมดิน

กระถินคลุมดิน

กระถินคลุมดิน

กระถินเป็นพืชที่โตเร็วมาก ตอนผมมาอยู่ที่นี่แรก ๆ ไม่รู้จะทำยังไงกับมันดี เลยได้แต่ตัดไปทิ้ง

ต่อมารู้ว่าใบมันก็เอามาปรุงดินได้ดีก็เอามาวางกอง ๆ ไว้บนแปลงผัก รอให้มันแห้ง แล้วค่อยสบัด ๆ ให้ใบมันร่วงลงบนแปลงผัก

ล่าสุดใช้วิธีหักกิ่งกระถินมาแล้วรูดก้านลงไปเลย ถ้าสด ๆ จะรูดได้ง่าย ถือเป็นงานที่เอาไว้พักจากงานหนัก ๆ เช่นงานขุด งานตัด ฯลฯ

แถวบ้านจะมีชาวบ้านมาตัดกระถินไปให้แพะกิน แสดงว่ามันมีคุณค่าทางอาหารมาก ถ้าเอามาใส่ดินไปเรื่อย ๆ ผักที่ปลูกคงจะงาม