ไก่ออกไข่

กว่ามันจะออกไข่ได้ ต้องทนทรมานมาก แต่คนก็ไปหยิบแย่งผลผลิตของเขามาเฉย ๆ นั่นแหละ แล้วก็เอามาซื้อขายกัน ก็รับซื้อของโจรกันไป

คนนี่ก็แปลก สัตว์มันก็หากินเองได้ตามธรรมชาติ ก็ไปจับมันมา “เลี้ยง” แล้วก็หาผลประโยชน์จากมัน คำว่าเลี้ยงนี่มันดูเหมือนเป็น”คุณ” แต่จริง ๆ มันเป็น”โทษ“ต่อสัตว์ นอกจากแย่งของเขา กักขังเขา ขายเขา สุดท้ายยังฆ่าเขากินอีก บาปทุกขั้นตอน

…คลิปไก่ออกไข่ที่เคยแนบไว้มันถูกลบไปแล้ว ก็ลองไปค้นหาดูกันเองนะครับ

กรงขังสัตว์ กรรมขังคน

วันนี้เดินผ่านซอยแถวบ้านตั้งแต่เช้ามืด เสียงนกตัวหนึ่งดังขึ้น เป็นนกตัวเดิม ที่ผมมองมันประจำเวลาเดินผ่านซอยนี้ มาตั้งกี่ปีมาแล้วไม่รู้

นกตัวนี้ตัวสีขาว ถูกขังอยู่ในกรงที่แขวนไว้ริมรั้วที่โปร่งพอจะเห็นตัวมันได้ชัดเจน ลักษณะเด่นของมันคือมันพูด(ร้อง)เลียนเสียงคนได้ มันก็พูดไปตามที่มันจำได้นั่นแหละ

ผมเดินผ่านมาก็นานหลายรอบในหลายปี มันก็โดนขังอยู่แบบนั้น ก็จริงอยู่ที่ชีวิตมันจะปลอดภัย มีกรงแข็งแรง มีคนให้อาหาร แต่มันก็โดนขังอยู่ดีนั่นแหละ แทนที่จะออกไปใช้ชีวิตตามประสานกแล้วก็ตายไปอย่างนก

นี่มันต้องอยู่ในกรง บินก็ไม่ได้ ดีไม่ดีอายุยืนอีก คืออยู่ในกรงนี่มันไม่มีศัตรูมาก ไม่เหมือนอยู่ข้างนอก สรุปคืออายุยืนอยู่ในกรง ชีวิตแบบนี้มันน่าได้ไหมนี่…

ด้วยความที่มันเป็นนกพูดได้ มันเลยมีค่าพอให้เขาจับขัง มีค่าพอให้เขาเลี้ยง มีค่าพอให้เขายึดมั่นถือมั่นในตัวมัน คือถ้ามันร้องไม่ได้ หรือเป็นนกธรรมดา เขาก็ไม่ใส่ใจมันขนาดนี้หรอก

แล้วก็มานึกต่อถึงคน คนนี่ก็โดนขังด้วยกรรม ก็กรรมของตัวเองนั่นแหละ เกิดสภาพชีวิตที่เหมือนนก มีความสามารถแต่อยู่ในที่แคบ ๆ ทำดีก็ทำได้แบบแคบ ๆ ติด ๆ ขัด ๆ จะออกก็ออกไม่ได้ ถึงจะออกได้ก็ได้ไม่นาน มีอะไรมาเป็นกรอบ เป็นตัวบีบ มีกรงกรรมที่ขังอยู่ อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของกรรมที่ทำมา อาจจะเป็นเคยขังสัตว์ ขังคน ขัง… หรือจะเป็นชั่วอะไรก็ได้ อย่าไปเดามันเลย

อีกส่วนหนึ่งคือกิเลสนี่เอง พอคนเป็นคนจิตใจดี มีความสามารถ คนอื่นเขาก็รัก เขาก็ใส่ใจ เขาก็จับให้อยู่ในที่ ๆ เขาพอใจให้อยู่ คือคนดีที่เก่งด้วย นี่มีแต่คนอยากได้ ใครได้มาเขาก็อยากกอดเก็บไว้

ทีนี้คนมองกิเลสไม่ออกก็หลงติดกับเลย เจอเขาให้คุณค่า ให้ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกีย์สุข ก็หลงติดอยู่กับเขาเหมือนกัน ก็มันสบายนี่นะ มีคนเลี้ยงไว้ มีความปลอดภัยในชีวิต คนโลก ๆ ใครจะไม่เอา

ส่วนตัวผมก็ว่านี่เป็นสภาพติดสวรรค์รูปแบบหนึ่ง มันเป็น Comfort zone ของฤาษีแบบหนึ่ง ติดสงบ ติดภพแบบหนึ่ง อาการมันจะออกประมาณว่าเหมือนนกติดอยู่ในกรงนั่นแหละ เรียกว่า “นกน้อยในกรงทอง” ก็ว่าได้

คือตัวเองมีความสามารถที่จะทำประโยชน์ต่อผู้อื่น ต่อโลกได้มากกว่านั้น แต่ก็เอาเวลา ความสามารถ เอาชีวิตไปจมอยู่กับที่ใดที่หนึ่ง คนใดคนหนึ่ง เช่น คนรัก ครอบครัว ฯลฯ มากจนเกินไป

ก็เป็นนกน้อยในกรงทอง พอใจกับอาหารที่เขาให้รายวัน พอใจกับความปลอดภัยในกรง มันก็คงดีในแบบของเขา แต่สำหรับผม ผมคิดว่าไม่ สภาพของชีวิตที่มันไม่มีอิสระและมีขอบเขตจำกัดด้วยกรง(สวรรค์ลวง) เหล่านี้มันไม่มีประโยชน์เอาซะเลย