ช่วงนี้มีข่าวลวงคนไปเที่ยวต่างประเทศแล้วปล่อยเกาะ อันนี้คนก็พอเห็นความจริงได้ง่ายว่าคนที่เราเชื่อใจ ยอมโอนเงินให้ ยอมลำบากจัดกระเป๋าเดินทางมารอเพื่อจะไปกับเขานั้น เป็นคนดีจริงหรือคนชั่ว
แต่มันก็ไม่ง่ายที่จะรู้ มันต้องทุกข์ก่อนมันถึงจะเห็นธรรม แต่ที่ทุกข์แล้วไม่เห็นธรรมมันก็มี คือโง่ซ้ำโง่ซ้อน จะไปว่าเขาไม่เห็นก็ไม่ใช่ เขาก็เห็น แต่มันเป็นระดับ 0.00000000….1% อะไรแบบนี้ ก็เก็บรอบปัญญากันไป วันไหนเต็ม 100% ก็เห็นธรรมเอง
ที่แบบรู้ง่ายนี่มันก็ชั่วประมาณหนึ่ง แต่มีที่ยิ่งกว่าตัวอย่างที่ยกมาอีก เช่น ลัทธิหนึ่งขายบุญขายสวรรค์ คนก็ยังหลงไปซื้อ นี่หลักการเดียวกับขายทัวร์ปล่อยเกาะเลย แต่มันรู้ได้ยากกว่า ซับซ้อนกว่า คนก็เลยหลงไปเยอะเหมือนกัน จากข่าวที่เขาลวงคนแล้วข่าวเขาประมาณมาว่าได้เงินไปหลายสิบล้าน เมื่อเทียบกับลัทธินี้แล้วกระจอกไปเลย เขาลวงคนได้เยอะกว่านั้น เป็นพันเป็นหมื่นล้านนู่น หรืออาจจะมากกว่านั้นก็ได้
แต่กระนั้นมันก็รู้ได้ไม่ยาก มันก็พอดูออกได้ แต่ไอ้ที่ชั่วแบบที่ล้ำลึกสุด ๆ เรียกว่ามีโอกาสได้เจอกันเกือบทุกคน คือ คู่รัก นี่แหละ ร้ายกว่าทัวร์ปล่อยเกาะ ร้ายกว่าลัทธิขายบุญ เขาหลอกคนได้เนียนมาก หลอกให้ทุ่มเทเวลา แรงกายแรงใจไปให้ เกิดมาชาติหนึ่งแทนที่จะมีอิสระทำความเจริญให้ชีวิตมาก ๆ กลับเอาเวลามาเสียให้กับตรงนี้ แล้วหลงไปมองว่ามันเป็นความเจริญเสียอีก เอาเข้าไป
หลายคนเกิดมาก็รอดจากความโลภในระดับที่เขาเอาของมาล่อได้ หรือไม่ก็รอดจากความหลงที่เขาเอามิจฉาธรรมมาล่อได้ แต่ไอ้ที่จะรอดจากคู่รักนี่มันยาก หลายคนมาดี ๆ เลยนะ กำลังเข้าทางธรรม กำลังเจริญ ไป ๆ มา ๆ เดี๋ยวก็โดนตัวเวรตัวกรรมฉุดลงนรกเหมือนเดิม(อีกชาติ) เหมือนตัวเงินตัวทองลากไก่ลงไปกินในน้ำประมาณนั้น ไก่โดนลากไปกินนี่มันตกใจ มันทุกข์นะ แต่คนโดนฉุดลงนรก ไปมีคู่ ส่วนมากเขาไม่ทุกข์นะ เขามีความสุขด้วย คิดดูสิ ไก่โดนตัวเงินตัวทองลากไปกินในนี้แล้วมีความสุข ดีใจ สงบร่มเย็น มันมีที่ไหน มันไม่มีหรอก มันเพี้ยน
ก็หลงกันไปแบบนี้ จึงทำชั่วโดยไม่รู้ว่าชั่ว คนที่เขาเชื่อว่าจะไม่ถูกลวงเที่ยวแล้วปล่อยเกาะ เขาก็ไม่รู้ของเขา คนที่เขาเชื่อว่าซื้อบุญได้จริง เขาก็ไม่รู้ของเขา คนที่เขาเชื่อว่ามีคู่เป็นสุขจริง เขาก็ไม่รู้ของเขา
สามตัวอย่างที่ยกมา หลงเหมือนกันหมดเลยครับ แต่มีความหยาบความละเอียดต่างกันเท่านั้นเอง