หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า “หวย” ทั้งหลายนั้น เมื่อมองในหลักคำสอนของศาสนาพุทธ จะถูกจัดอยู่ในหมวดของกิเลสในระดับ “อบายมุข”
หวยมีลักษณะของการ “พนัน” คือมีความเสี่ยงที่จะได้หรือไม่ได้ และที่สำคัญคือ มีการล่อลวงว่าจะได้มากกว่าที่ลงทุน หากผลออกมาเป็นไปตามข้อกำหนด
เวลาเราดูความเจริญของการปฏิบัติธรรม ถ้าจะดูแบบหยาบ ๆ ตัวชี้วัดก็หวยนี่แหละ เขาเลิกเล่นหวยหรือยัง เขายังยินดีในหวยนั้นหรือการถูกหวยหรือไม่ ยังยินดีในลาภเลวเหล่านั้นหรือไม่
เพราะการเล่นหวยนี่มันหยาบมาก มันจัดจ้านมาก ลงทุน 80 บาท อยากได้เป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่นเท่า นี้มันโลภมากสุด ๆ ลงทุน 80 ได้ 100 ก็กำไรมากแล้ว นี่ลง 80 หวังจะได้รางวัลที่ 1 กันหมด ลง 80 อยากได้ หลักล้าน
อย่างตอนนี้รางวัลที่ 1 เขาให้ 6 ล้านบาท ลง 80 บาท จิตมันจะมุ่งไปทางไหน มันก็พุ่งไปรางวัลที่หนึ่งนั่นแหละ เมื่อลองเอาเงินล้านมาหารจะได้ความโลภประมาณ 75,000 เท่า ! โอ้โห นี่มันความโลภที่จัดจ้านมาก เหมือนกินก๋วยเตี๋ยวใส่พริก 100 ช้อน น้ำตาล 100 ช้อน น้ำปลา 1 ขวด น้ำส้มอีกขวด ยังไงอย่างงั้น
จิตมันโลภไม่บันยะบันยัง ไม่มีที่สิ้นสุด มันก็สร้างนรกไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนกัน ถ้าจิตเจริญขึ้น มันจะละหน่ายคลายความโลภได้เป็นลำดับ จะมีปัญญาเห็นโทษของลาภในระดับการพนันได้ชัดเจนขึ้น จนกระทั่งไม่ไปแตะสิ่งเหล่านั้น
ผู้ที่มีความเข้าใจเรื่องกรรม จะเข้าใจการได้มาหรือเสียไปของลาภต่าง ๆ แม้ว่าจะไม่ซื้อหวย คนที่มีวิบากที่จะต้องได้รับลาภเหล่านั้น เขาก็จะต้องได้รับ ผลของกรรม ไม่รับก็ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปิดช่องทางที่กุศลกรรมจะส่งผลในทางที่ไม่สมควรไม่ได้