การศึกษาและปฏิบัติธรรม ตลอดจนถึงความรู้ความเข้าใจในทุกวันนี้ มีสภาพที่ลักลั่น กลับหน้าเป็นหลัง กลับเบื้องปลายเป็นต้น กลับหัวกลับหางไปหมดแล้ว
ในมุมความเข้าใจ เช่น การบวช เขาก็เอากามมาใส่ บ้างก็บอกงานบวชต้องครื้นเครง จริง ๆ พระพุทธเจ้าให้ละอบายมุข ให้เว้นจากมหรสพและการบันเทิงที่ไม่เป็นกุศล ที่เพิ่มกิเลส สนองกิเลส นั่นกามในระดับอบายมุขเขายังเอามาใส่ในงานบวชได้หน้าตาเฉย แล้วหลงว่าเป็นของดีด้วย วัดก็เช่นกัน เอางานรื่นเริงงานกิเลสมาใส่ในวัด เป็นส่วนหนึ่งของวัด กลายเป็นกามกับกับการปฏิบัติธรรมเป็นเนื้อเดียวกันจนแยกไม่ออก ความเห็นนี่มันเพี้ยนไปหมดแล้ว
ในมุมการศึกษาและปฏิบัติยิ่งแล้วใหญ่ สมัยนี้เขาไม่พูดถึงกามกันนะ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เขาไม่ลด ละ เลิกกันเลย ทั้ง ๆ ที่เป็นธรรมเบื้องต้นที่ควรละ เขาไปปฏิบัติกันอัตตานู่น จะมาละอัตตา ไม่เป็นตัวกูของกู สิ่งทั้งหลายไม่ควรยึดมั่นถือมั่น นี่มันลักลั่น ไม่เป็นไปตามลำดับ ไม่เป็นไปตามที่พระพุทธเจ้าสอน ก็เลยตีกินเสพกาม คือละอัตตามาเสพกาม หรือจะเรียกว่าฉันจะเสพ แกอย่ามายึดมั่นถือมั่น
กลายเป็นคนกามจัด และศึกษาธรรมไว้ป้องกันตัวเอง เอาไว้กันคนด่า มีเห็นต่างก็สวนด้วยบทอัตตา แต่กลิ่นกามตัวเองนี่เหม็นโฉ่เลย แบบนี้ก็เคยเจอมาแล้ว
ปฏิบัติธรรมในมุมอัตตามันเหมือนจะดูเท่ แต่จริง ๆ ถ้าเอาอัตตามาก่อน มันจะไม่ได้ปฏิบัติอะไรเลย เพราะดันชิงวางไปหมด สิ่งที่ดีสิ่งที่ควรละก็ดันวางหน้าที่ไป เช่น กามควรละก่อน ก็เพิกเฉย ก็ปล่อยผ่านไป ทำเหมือนกามไม่เป็นภัย ฉันไม่มีอัตตาฉันก็จบกิจได้แล้ว อันนี้มันก็ผิดเพี้ยนไป
ในกามก็ยังมีมิติของความเบียดเบียนที่แตกต่างกัน กามที่ยังเบียดเบียนผู้อื่นมาก เช่น การกินเนื้อสัตว์ ที่มีความอยากในรูป รส กลิ่น สัมผัส ถึงขนาดที่จะต้องเอามาบำเรอตน ต้องเอามาเสพ ไม่หยุด ไม่ละ ไม่พราก อันนี้คนเขาก็ไม่ปฏิบัติกัน ไม่ศึกษากัน เขาจึงไม่รู้ว่าความอยากกินนี่แหละกิเลส กามที่หนาขนาดนี้นี่แหละควรจะละ ควรจะกำจัดก่อน เพราะมันเบียดเบียนรุนแรงมาก ถึงขนาดจะต้องเอาชีวิตเขามา
ถ้าคนศึกษาอธิศีลข้อ ๑ จนเจริญขึ้น มีปัญญาขึ้นจะสามารถลดละกามในระดับนี้ได้เอง แต่ก็จะมาติดกามในระดับต่อไปเช่น เนื้อเทียม อาหารมังสวิรัติปรุงอร่อย กามหรือความอยากในระดับนี้ไม่ไม่เบียดเบียนชีวิตอื่นโดยตรง แต่ก็ยังเบียดเบียนทำร้ายชีวิตตัวเองด้วยสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ความเป็นพิษเป็นภัยของอาหารรสจัดและปรุงแต่งมากอยู่ ดังนั้นเมื่อปฏิบัติต่อไปก็ลดกามในระดับนี้ไปตามลำดับ
ดังที่ยกตัวอย่างมา จะสอดคล้องกับสังโยชน์ ๑๐ ในเบื้องต่ำ ๕ ข้อ ก็ต้องละกามราคะให้ได้ก่อน ซึ่งกามมันก็อยู่ในชีวิตประจำวันนี่แหละ มันก็เรื่องกิน แต่งหน้าแต่งตัว ฯลฯ แต่คนเขาไม่ปฏิบัติกันนะ เขาลัดไปปฏิบัติอะไรก็ไม่รู้ตามที่เขาว่าดี แต่มันไม่เป็นไปตามลำดับที่พระพุทธเจ้าตรัสไง คือมันก็ดูเท่ดีอะ ละอัตตา ดูไร้ตัวตน ไร้ความยึดมันถือมั่น แต่ลำดับมันผิด มันก็ผิดหมดแหละ เหมือนเด็กที่ร้อนวิชาอยากบรรลุธรรมไว ๆ เลยไปเอาวิทยานิพนธ์ของ ปริญญาเอกมาอ่าน มันก็เข้าใจนั่นแหละ แต่เข้าใจแบบเด็กอนุบาล แล้วก็เอามาสอนและปฏิบัติกันผิด ๆ มานานแล้ว
บางคนนี่ยิ่งแล้วใหญ่ อ้างว่าศึกษาปฏิบัติธรรม ลดกิเลสนะ อวดใหญ่เลย แต่อบายมุขนี่เต็มบ้องเลย อบายมุขนี่หยาบกว่ากาม เน่ากว่ากาม เขายังลดไม่ได้เลย จะมีปัญญาเห็นว่ากามเป็นโทษนี่เป็นไปไม่ได้หรอก
อบายมุขเช่นอะไร? เช่นเสพของมึนเมา เมาในอะไรก็ตามแต่ วัตถุหยาบ ๆ ก็ยาเสพติด เหล้า บุหรี่ เมาดารา เมาของสะสมก็เมาในระดับอบายมุขเหมือนกัน แต่มันติดรูปติดวัดถุกันคนละอย่าง
๒.ก็เที่ยวกลางคืน คือเร่ร่อนหากามเสพในตอนกลางคืนนั่นแหละ จะกิน เที่ยว ดู ชม ฟัง อะไรก็แล้วแต่ กลางคืนไม่ใช่เวลาที่ควรจะเสพแล้ว แต่ก็ยังวนเวียนอยู่ไม่เลิกรา
๓.ดูการละเล่น ดูหนังดูละครที่มันเพิ่มกิเลส เอาสนุก เอามัน เอาสะใจ ดูกีฬา กายกรรม คอนเสริต ฯลฯ นี่ระดับอบายมุขทั้งนั้น คือมันไม่จำเป็นกับชีวิต ก็ต้องเอามาเสพให้เสียเวลา
๔.เล่นการพนัน ก็พนัน หวย หุ้น พวกนี้เข้าเกณอบายมุขหมด
๕.คบคนชั่วเป็นมิตร มงคลชีวิตคือห่างไกลคนชั่ว คนชั่วพาไปทำชั่วได้สารพัด พาไปผิดศีลเมาอบายมุขข้ออื่น ๆ
๖.ขี้เกียจ ไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ ไม่ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ อ้างนู่นอ้างนี่อยู่นั่น (แต่ขยันในสิ่งที่เป็นโทษ ไม่มีประโยชน์ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดี)
นี่อบายมุข ๖ โดยย่อ นี่กิเลสหยาบ ๆ เลย คนปฏิบัติธรรมสมัยนี้เขาไม่ละไม่ทำให้ลดกันแล้ว ไม่ต้องพูดถึงกามเลย ไม่มีปัญญารู้หรอก มันจะไม่รู้ว่ากามเป็นโทษอย่างไร ไม่มีปัญญารู้ว่าเสพแล้วให้ผลอย่างไร กรรมที่เสพกับกรรมที่ไม่เสพต่างกันอย่างไร ไม่มีปัญหารู้ มันจะทื่อ ๆ งง ๆ ตีทิ้งไปเลย
สุดท้ายพอศึกษาและปฏิบัติธรรมลักลั่น มันก็เลยผิดเพี้ยน ได้ความเท่เฉย ๆ แล้วก็เอากามไปหมกไว้ใต้อัตตา เอาไปซ่อนไว้ใต้คำคมธรรม คือพูดน่ะดูดี แต่กามยังเสพอยู่ เหมือนพูดธรรมชั้นสูง แต่ปากยังเลิกบุหรี่ไม่ได้ อันนี้หลักฐานมันก็คาปากอยู่ ไอ้ที่หยาบ ไอ้ที่ว่าง่ายคุณยังเลิกไม่ได้ ไม่ต้องไปหวังอะไรมากกว่านั้นหรอก เพราะมันจะไม่มีปัญญาเข้าใจแล้ว ถึงเข้าใจไปก็เฉโก ก็ตีกินไปตามกิเลสนั่นแหละ