ชีวิตที่ผ่านเลยมาถึงต้นปี 2556

และแล้วก็ผ่านต้นปีมาจนถึงช่วงกลางเดือนมกราคม ผ่านวันเด็ก ผ่านวันอะไรๆที่ดูจะสำคัญในช่วงปีใหม่มาแล้ว คงจะเป็นช่วงที่ผ่อนคลายและสงบนิ่งมากขึ้น

ก่อนปีใหม่ก็ไม่มีเวลาได้ทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาในปี 2555 และวางแผนในปี 2556 เลย มันดูเหมือนจะว่าง แต่พอนึกไปมันก็ไม่ว่าง มีอะไรยุ่งๆ นิดๆ หน่อยๆ เต็มไปหมด มีอะไรให้ทำตลอดเวลาจนลืมนึกไปว่าในปีนี้ยังไม่มีแผนเป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไรนัก มีแต่แผนรวมๆระยะยาวเท่านั้นเอง

MonkiezGrove , Cartoon Postcard Animation

ในปีนี้ เท่าที่คิดได้ก็จะกลับมาพัฒนามังกีซ์โกรฟ (www.monkiezgrove.com) อีกครั้ง หลังจากปล่อยให้ร้างไปเกือบสองปี ซึ่งการปัดฝุ่นครั้งนี้ได้ใช้ประสบการณ์และความรู้ที่เก็บเกี่ยวมาในช่วงที่เรียนโทมาใช้ด้วย ทำให้เป็นการวางแผนการสร้างในทุกระยะเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งแน่นอนว่าจะต่อเนื่อง มั่นคง และยั่งยืนกว่าเคย อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในบทบาทบ้าง ตามความเหมาะสม แต่สุดท้ายสิ่งที่ยังเป็นงานหลักของมังกีซ์โกรฟ คือ การ์ตูนน่ารัก คำนี้จะฝังลงไปในทุกๆกิจกรรมของมังกีซ์โกรฟ

ดอกทานตะวัน

อีกอย่างก็คงจะเป็นการทำอัลบั้มภาพออนไลน์ที่ DINPhoto ( photo.dinp.org ) ภาพที่ถ่ายเก็บไว้เยอะมากๆ ภาพที่ไปเที่ยวถ่ายวิว ถ่ายนู่นถ่ายนี่ ตามประสาคนบ้าถือกล้่องไปที่ไหนก็ถ่ายที่นั่น จะได้นำมาลงแบ่งปันกันให้ชมเสียที เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราอยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปดูโลกบ้าง ก็ค่อยๆติดตามกันเป็นระยะๆ นะครับ จะทยอยๆ ลงไปเรื่อยๆ

ส่วนงานอื่นๆ ก็คงกลับมารับทำเหมือนเดิมหลังจากงดรับงานมาเกือบสองปี เพื่อมุ่งเน้นไปในการเรียนรู้ให้คุ้มค่าที่สุด ณ ตอนนี้เหมือนจุดที่ทุกอย่างคลี่คลาย ค่อยๆกลับมาเป็นเหมือนปกติอย่างช้าๆ สำหรับปีนี้คงได้แค่ทำตามแผนที่วางไว้ สำหรับแผนใหม่คงยังไม่คิด เอาไว้คิดปีหน้าดีกว่า ตอนนี้สะสมทุนอีกครั้งก่อนจะเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในโอกาสหน้า

สำหรับใครที่ยังไม่ได้วางแผนชีวิต ก็ลองใช้เวลานั่งคิด นั่งทบทวน นั่งคุยกับตัวเองดูก็ได้ ว่าชีวิตต้องการอะไร อะไรคือเป้าหมาย ได้มาแล้วยังไงต่อ คิดล่วงหน้าไว้ก่อน สุดท้ายค่อยสกัดด้วยคำว่า “อะไรที่จำเป็น

สวัสดี

MonkiezGrove Free stuff : การ์ตูนแจกฟรี กับมังกีซ์โกรฟ

ปี 2013 หลังจากเปิดตัวเว็บไซต์มังกีซ์โกรฟในรูปแบบ MG 2013 ไปแล้ว ซึ่งหลายๆ ท่านก็อาจจะได้เห็นและไม่ได้เห็นไปบ้างแล้ว แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงของมังกีซ์โกรฟ เท่านั้นเอง

ในปี 2013 ยังมีของขวัญ อีกชิ้นที่มังกีซ์โกรฟ จะนำมามอบให้กับทุกท่าน นั่นก็คือการ์ตูนแจกฟรี ซึ่งปกติเราก็จะแจกในช่องทางของ Social network อย่างเฟสบุคในหน้าของ MonkiezGrove Cartoon Book อยู่แล้ว ก็เลยมาทำหน้าแจกกันให้เป็นกิจจะลักษณะไปเลย คนเข้ามาดูเข้าจะได้แยกออกว่า อ่อหน้านี้แจก หน้านี้บ่น หน้านี้แสดงผลงานและแนวคิดอะไรประมาณนี้ ซึ่งก็จะแบ่งเพื่อให้ทุกท่านได้เข้าถึงและใช้งานเว็บไซต์ของเราได้ง่ายยิ่งขึ้น

MonkiezGrove Free stuff : การ์ตูนแจกฟรี กับมังกีซ์โกรฟ

MonkiezGrove Free stuff
MonkiezGrove Free stuff

ชื่อเว็บไซต์ของเราก็ง่ายๆ MonkiezGrove Free stuff หรือ ของฟรีมังกีซ์โกรฟ หรือมังกีซ์โกรฟแจกของฟรี ประมาณนี้ละนะ หน้าปก (รูปไตเติ้ล) ก็เพิ่งจะออกแบบไม่นานให้ออกมาน่ารักสดใสเบาๆ สามารถตามไปเกี่ยวกับแนวคิดในการออกแบบปกได้ที่ “Free stuff : Title image” แล้วจะรู้ว่าแต่ละภาพ ของการ์ตูนมังกีซ์โกรฟนี่ไม่ได้มาจากความว่างเปล่านะเอ้่อ มันมีที่มาที่ไปทั้งนั้น

มาถึงที่จะมาแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผลงานต้นปีนี้ หลังจากปีใหม่ก็ปล่อยผลงาน ฟรีการ์ดปีใหม่ กันไปแล้ว มาคราวนี้ก็มาปล่อยผลงาน ฟรีการ์ดวาเลนไทน์ หรือ การ์ดความรัก กันบ้าง ซึ่งก็จะเป็นชุดผลงานในแนวคิด Love & Heart ความรักกับหัวใจ เกี่ยวกับความรัก ความหวาน หัวใจ เรื่องราวของความรัก ผสมปนเป ออกแบบมาสู่ผลงานทั้งหมด 8 แบบ ดังนี้

 Love & Heart : ความรักและหัวใจ ฟรีวาเลนไทน์การ์ด

Love & Heart : ความรักและหัวใจ
Love & Heart : ความรักและหัวใจ

สำหรับในตอนนี้ก็มีมาแนะนำเพียงเท่านี้ หากว่ามีผลงานเพิ่มก็อาจจะนำมาแนะนำอีกก็ได้ เพราะเห็นว่ายังเป็นของใหม่อยู่ หลายๆท่านอาจจะยังไม่คุ้นเคยนัก ถ้าสนใจก็สามารถติดตามไปอ่านได้ที่

Link : MonkiezGrove Free stuff

Link : Love & Heart : ความรักและหัวใจ ฟรีวาเลนไทน์การ์ด

สวัสดี

MonkiezGrove before 5th

ใกล้จะปีใหม่ ใกล้จะปีหน้า ใกล้จะครบรอบ 5 ปี มังกีซ์โกรฟกันอีกครั้ง ช่วงปีที่ 4 ถึงปีที่ 5 มานี้นั้น แทบจะเรียกได้ว่าไร้กิจกรรมใดๆกันเลยทีเดียว

เนื่องจากช่วงต้นปี 2555 ผมติดเรียน ค่อนข้างยุ่งมากจนกระทั่งกลางปีก็ยังไม่ลงตัวเท่าไรนัก พอปลายปีก็มีโปรเจคของ AIRA Garden เข้ามาอีก กว่าจะออกแบบกว่าจะทำเสร็จก็กินเวลากันเกือบ 3 เดือน ยังดีที่มีเวลาให้พอจินตนาการวาดรูปลงที่ MonkiezGrove Cartoon Book (facebook) กันบ้าง ทำให้ผู้สนใจหรือแฟนๆของมังกีซ์โกรฟพอหายคิดถึงกันได้บ้าง

MonkiezGrove ก่อนจะเข้าสู่ปีที่ 5

ก่อนจะเข้าสู่ปีที่ 5 นี้ก็ต้องยอมรับกันก่อนเลยว่าช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมานั้นแทบจะว่างเปล่า แต่ก่อนจะสิ้นปีนี้ ผมจะปรับปรุงเว็บไซต์มังกีซ์โกรฟอีกครั้ง เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ที่ปรับปรุงเพราะว่าจะทำให้มันใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิมอีก ง่ายขึ้นกว่าเดิมมากๆ ง่ายทั้งคนดูและคนเขียน เพราะก่อนหน้านี้บอกตรงๆ เลยว่าทักษะเขียนเว็บไซต์นั้นค่อนข้างจะน้อย แต่ตอนนี้ก็พัฒนามาอยู่ในขั้นที่พอจะใช้งานได้นานและไม่ปรับเปลี่ยนกันบ่อยๆ และคิดว่าในปี 5 นี่แหละ ที่จะเป็นปีที่ได้มีโอกาสสร้างผลงานมากมายออกมาให้ทุกท่านชม ติดตามกันต่อไปนะครับ

MonkiezGroveMonkiezGrove Cartoon Book

Social network ที่เข้ามาช่วยให้หลายๆท่านสร้างเครือข่ายโดยไม่ต้องมีเว็บไซต์ให้ยุ่งยาก มังกีซ์โกรฟเองก็เช่นกัน หากเป็นช่องทางหนึ่งที่เราจะได้พบกับผู้ที่สนใจงานของเรา เราก็จะสร้างมันขึ้นมา

MonkiezGrove Cartoon Book

ปัจจุบันมังกีซ์โกรฟ มีแฟนเพจอยู่ประมาณ 700 ท่าน แม้จะเพิ่มขึ้นไม่มากมายจนผิดหูผิดตา แต่เราก็ยังดีใจทุกครั้งที่ผลงานของเราที่สร้างนั้น ได้ทำให้แฟนเพจหลายๆท่านมีความสุขที่ได้พบเห็นงานน่ารักๆของเรา ซึ่งผลงานของมังกีซ์โกรฟนั้นก็จะเน้นไปในทางน่ารักสดใส และเชิงสร้างสรรค์ เพราะต้องการจะแบ่งปันภาพสวยๆ อารมณ์ดีๆ แก่ผู้รับชม

สำหรับผู้สนใจที่ยังไม่เคยเข้าไปดู MonkiezGrove Cartoon Book ก็เข้าไปแวะชมได้ใน MonkiezGrove Cartoon Book (https://www.facebook.com/monkiezgrovecartoon) ถ้าท่านใดมีบัญชีของเฟสบุคก็สามารถติดตาม like&share ได้ตามอัธยาสัย

ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนถึงทุกวันนี้

สวัสดี

Let’s plant tree ปลูกต้นไม้กันเถอะ :)

วันก่อนนั่งๆนึกว่าวันนี้จะวาดรูปอะไรดี สิ่งที่เข้ามาในหัวก็คือการปลูกป่า ประสบการณ์ที่กำลังจะฝังรากลึกลงไปในสมองของผมนั่นเอง

หลังจากที่ได้ไปร่วมกิจกรรม ปลูกป่า เมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก็คิดอยู่ตลอดว่าจะเอามาใช้ในชีิวิตประจำวันอย่างไรดีในเมื่อชีวิตในเมืองนั้นต่างกันกับชีวิตที่ได้ไปเจอมาก จนล่าสุดพบได้พบคำตอบหนึ่ง..

จินตนาการและทักษะการวาดรูปของผมเองสามารถสร้างสื่อที่กระัตุ้นให้เกิดความรู้สึกบางอย่างออกมาได้ แต่ก่อนจะสร้างได้นั้นมันก็ต้องมาจากความรู้สึกภายใน ผ่านการผสมของจินตนาการ ผ่านปลายปากกา จนมาสู่ผลงานที่เห็นกันได้ด้านล่าง ซึ่งก็เป็นคำตอบได้ว่าแม้ผมจะไม่ได้ปลูกป่าทุกวัน แต่ก็สามารถสร้างสรรค์สื่อดีๆได้ทุกเวลาเท่าที่ใจต้องการ

Let’s plant tree ปลูกต้นไม้กันเถอะ :)

Let's plant tree ปลูกต้นไม้กันเถอะ :)

สำหรับรูปนนี้อาจจะเล็กไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับขนาดจริงของงาน ซึ่งผู้สนใจก็สามารถรับชมรูปใหญ่กว่านี้กันได้ที่ หมูเด็กปลูกต้นไม้ : MonkiezGrove Cartoon Book นะครับ ก็เป็นเพจเฟสบุคของมังกีซ์โกรฟนั่นเอง

ตอนนี้ยังไม่ได้กลับไปอัพเดทเว็บไซต์มังกีซ์โกรฟเท่าไรนักเพราะกำลังจะเปลี่ยนรูปแบบใหม่นิดหน่อยก็เลยใช้ช่องทางเฟสบุคเสียมากกว่า ถ้าเว็บไซต์ปรับปรุงเสร็จอย่างไรแล้วก็คงจะได้อ่านบทความที่เกี่ยวกับรูปนี้ในแบบลึกซึ้งกันมากกว่าเดิมแน่นอน

MonkiezGrove Cartoon Book

ยังมีรูปอีกมากมายในช่วงนี้ที่ผมได้เริ่มกลับมาวาดอีกครั้งก็จะอยู่ใน Facebook Page : MonkiezGrove Cartoon Book (http://www.facebook.com/monkiezgrovecartoon)

สวัสดี

MonkiezGrove 4th Anniversary

ครบรอบกันอีกแล้วสำหรับ มังกีซ์โกรฟ ปีนี้ก็ครบรอบ 4 ปีแล้ว แม้ว่าหลายสิ่งที่มังกีซ์โกรฟสร้างสรรค์ในปีนี้จะไม่มากเท่าปีก่อนๆ แต่เราก็จะเดินต่อไป!!

วันครบรอบของมังกีซ์โกรฟก็จะเป็นวันที่ 9 กุมภาพันธ์ (9 February) ของทุกปีนะครับ สำหรับปีนี้ก็เป็นวันครบรอบ 4 ปีนั่นเอง

MonkiezGrove 4th Anniversary

MonkiezGrove 4th Anniversary
MonkiezGrove 4th Anniversary

สำหรับครบรอบปีที่ 4 นี้ มังกีซ์โกรฟก็คงจะไม่มีกิจกรรมอะไร เพราะผู้วาดติดสารพัดงาน ซึ่งช่วงกลางปี – สิ้นปีก็คงจะมีผลงานใหม่ๆออกมาให้เห็นกัน

ทำไมถึงต้อง MonkiezGrove ?

หลายคนที่เคยดูหรืออ่านผ่านตา ผ่านไปผ่านมาหลายครั้ง คงเคยสงสัยว่าทำไมถึงตั้งชื่อ MonkiezGrove วันนี้จะมาเล่าที่มาที่ไปให้อ่านกันครับ

แรกเริ่มเดิมที…

เดิมทีตอนแรกเริ่มนั้นคิดชื่อไว้โดยมีตีมเล็กๆน้อยๆ คือ สัตว์ป่า และธรรมชาติ เพราะงานการ์ตูนส่วนใหญ่ของผมจะออกไปทางแนวนั้น และตอนนั้นตัวละครเด่นๆของผมเลยก็คือ ไข่ลิง ( ตัวละครลิง สีน้ำตาล ) และไข่ลิงก็ถือเป็นแรงบัลดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ผมได้เริ่มวาดการ์ตูนกันเลยทีเดียว

เริ่มแรกในตอนนี้จะต้องตั้งชื่อกลุ่ม ก้อน องค์กรขึ้นมาแล้วนั้น มันก็ต้องมีสักชื่อ ผมเองคิดอยู่นานมากๆ คิดแล้วคิดอีก กรองแล้วกรองอีก จนได้คำมาสองคำ นั่นคือ Monkey(ลิง)  กับ Forest (ป่า)  ซึ่งทั้งสองคำนั้น…ผมคิดว่า

Monkey(ลิง) คือตัวแทนของตัวละครที่สนุกสนาน “ลิงมันไม่อยู่นิ่ง มันชอบวิ่งกระโดดไปมา” คือท่อนหนึ่งของเพลงสมัยเด็กๆที่คุ้นเคย มันบ่งบอกว่านอกจากลิงจะเป็นสัตว์ที่ดูสนุกสนานกับกิจกรรมของมันแล้ว มันยังไม่หยุดนิ่ง เคลื่อนไหวตลอดเวลาอีกด้วย ผมจึงจับเอาจุดนี้ของลิงนี่แหละ มาใส่เป็นชื่อ

Forest (ป่า) เมื่อมีลิงก็ต้องมีป่า ป่าอาจจะใหญ่ไปสำหรับลิงน้อยๆของผม และดูเหมือนว่ามันจะออกเสียงยาก ไปนิดหน่อย MonkeyForest มันออกจะเป็นแนวสารคดีเกินไป ก็เลยเปลี่ยนคำว่า Forest (ป่า) มาเป็น Grove ซึ่งแปลว่า หมู่ไม้ กลุ่มไม้เล็กๆ หรือแปลว่าสวนผลไม้ พอเห็นคำนี้ก็ถูกใจเลยครับ เพราะมันไม่ใหญ่จนเกินไป เป็นมุมเล็กๆมุมหนึ่งที่ผมคิดว่ามันน่าจะพอดีเลยแหละ จนมาถึง…

Monkeygrove.com

เป็นเรื่องตลกที่แสนจะธรรมดา เมื่อคำที่เราคิดตั้งนานดันมีคนมาจดโดเมนไปก่อนหน้าเรา จริงๆแล้วมันก็ไม่ใช่ชื่อที่วิเศษอะไรนักหรอกนะครับ แต่ัมันก็ตรงตัวดี และดูแล้วน่าจะเข้าใจง่าย ผมเองซื้อต่อโดเมนไม่เป็นและ คิดว่ายังมีทางออกนั่นคือ เปลี่ยนชื่อของเราสักสองสามตัวมันคงจะไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะ เพราะเราก็เป็นกลุ่มกิจการที่เริ่มต้นใหม่

เมื่อหาและคิดดูแล้วว่าจะเปลี่ยนตัวไหน ก็ลองมามองๆและทดสอบดูจนได้ Monkeygrove มาเป็น MonkiezGrove คำนี้คงจะไม่มีความหมายอะไร แต่สำหรับคนไทยแล้ว จะ monkey หรือ monkiez ก็คงจะคล้ายๆกัน หมายถึงการมองหรือฟังแบบหยาบๆนะครับ แน่นอนว่าอาจจะทำให้ผู้ที่สนใจเกิดความสับสนได้ แต่ผมมองว่ามันเอาไปเล่นอะไรได้อีกเยอะเลย

สุดท้ายด้วยความที่ยอมเปลี่ยนดีกว่ายอมซื้อ ก็เลยจดโดเมน monkiezgrove.com และใช้มาจนถึงทุกวันนี้ครับ และแน่นอนว่าจนวันนี้ก็ยังไม่คิดจะเปลี่ยนชื่อนี้เลยครับ มันชอบและชินไปเสียแล้ว

สวัสดี

กว่าจะวาดได้รูปหนึ่ง ใช้เวลานานไหม?

วันนี้มีเรื่องให้คิดถึงคำถามนี้ขึ้นมา อาจจะเพราะไม่ได้วาดรูปมาก็นานแล้ว ก็เลยนึกย้อนไปถึงวันที่มีคำถามนี้เกิดขึ้น…

กว่าจะวาดได้รูปหนึ่ง ใช้เวลานานไหม?

กว่าจะวาดได้รูปหนึ่ง ใช้เวลานานไหม? เป็นคำถามที่มีลูกค้าถามตอนที่ผมไปเปิดร้านขายโปสการ์ดมังกีซ์โกรฟในงานปล่อยแสง ที่หอศิลป์แถวๆสยาม ตอนนั้นผมจำได้คับคล้ายคับคลาว่าจะตอบไปประมาณว่าวาดรูปหนึ่งไม่นาน แต่คิดนาน

มาถึงวันนี้ดูเหมือนจะมีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมลืมตอบไปด้วย…นั่นคือกว่าจะคิดจะวาดก็นานเหมือนกัน..

วันก่อนมีลูกค้าถามถึงลายใหม่จะมีเมื่อไหร่ แน่นอนว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนถาม แต่ผมเองไม่ค่อยได้นึกถึงคำตอบที่แน่นอนเท่าไหร่ จนกระทั่งนึกไปถึงคำถามที่ว่า กว่าจะวาดได้รูปหนึ่ง ใช้เวลานานไหม? นั่นเอง

เมื่อสองความรู้สึกนี้มาบรรจบกัน “จะมีลายใหม่เมื่อไหร่ + วาดรูปหนึ่งใช้เวลานานไหม” ก็ทำให้มีคำตอบที่เหมาะสมสำหรับคำถามว่ากว่าจะวาดได้รูปหนึ่ง ใช้เวลานานไหม? นั่นคือนานมาก… เพราะกว่าจะมีโปสการ์ดออกมาใบหนึ่ง ต้องใช้เวลาขบคิดจินตนาการไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าคิดแล้วออกมาเลย แต่ต้องคิดต้องวาดรูปในอากาศ ร่างภาพในความคิด ทำอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า กว่าจะออกมาเป็นภาพต้นแบบ และปรับแก้ภาพในหัวอีกนับเดือนกว่าจะออกมาเป็นภาพร่างโดยใช้ดินสอ

กว่าจากภาพดินสอจะถูกวาดเป็นโปสการ์ดอย่างที่เห็นนั้น ไม่ได้มีขั้นตอนต่อเนื่องกันอย่างที่คิด เพราะว่าหลังจากร่างแบบแรกแล้ว ผมจะปล่อยให้่มันตกผลึก “มัน” ในที่นี้คือความคิดและจินตนาการ ซึ่งบางทีก็มีการปรับแก้อีกที และบางทีก็วาดใหม่ยกเลิกรูปเดิมทิ้งไปเลยก็มี

และขั้นตอนที่สำคัญที่สุดนั่นคือการวาด แต่ปัญหาคือเมื่อไหร่จะวาด น่าจะเป็นคำถามที่ชัดเจน มันยากมากที่จะบอกว่าเมื่อไหร่จะวาด เหมือนการวาดงานครั้งหนึ่งนั้นต้องใช้สมาธิและความตั้งใจสูงมากๆ ผมมักจะล็อควันเวลาไว้ก่อนจะวาดจริง จะไม่ไปไหนหรือไม่ทำธุระอะไรทั้งนั้น ทั้งๆที่เป็นงานวาดโปสการ์ดการ์ตูน แต่ก็จำเป็นต้องใช้สมาธิและอารมณ์ในการสร้างสรรค์รูปออกมา เพราะว่าโปสการ์ดรูปหนึ่งผมจะวาดครั้งเดียว หมายถึงให้งานจบ ณ ตรงนั้นเลย จะไม่มีแก้นั่นแก้นี่เยอะนัก เพราะทุกอย่างต้องพร้อมก่อนจะวาดแล้ว ทั้งภาพในหัว ทั้งสมาธิ ซึ่งตรงนี้แหละที่จะทำให้มันมาบรรจบกันได้ยาก ความพอดี ที่จะเกิดโปสการ์ดได้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ไม่ใช่เรื่องที่ว่าอยากทำก็จะทำได้ (ซึ่งจริงๆก็อาจจะทำได้ แต่คงไม่ได้ดีเท่าที่ใจคิด)

เพราะฉะนั้น การที่มีโปสการ์ดมังกีซ์โกรฟใบใหม่ออกมานั่นหมายถึงผมว่างพอที่จะมีสมาธิและความสร้างสรรค์ ที่มากพอที่จะสร้างผลงานดีๆออกมาได้

ผลงานของผมในมังกีซ์โกรฟ ติดตามชมได้ที่ monkiezgrove.com

สวัสดี

ความสุขจากการขายของ

หลายวันก่อนในห้องเรียนวิชาเกี่ยวกับ SME ได้มีอาจารย์พิเศษมาสอนให้หัวข้อเกี่ยวกับกฏหมายครับ ซึ่งน่าสนใจมากๆ

แต่สิ่งที่น่าสนใจนั้นไม่ใช่ข้อกฏหมาย แต่เป็นประสบการณ์ที่อาจารย์ได้มาเล่าให้ฟังครับ ซึ่งปกติเขาก็ไม่ได้เป็นอาจารย์ประจำครับ แต่มีความรู้ด้านกฏหมายรวมกับประสบการณ์ทางธุรกิจที่มากมาย จึงเป็นโอกาสที่เราได้มาเจอกัน

บทเรียนในห้องที่น่าสนใจ

เนื้่อหาที่เล่านั้นมีมากมายหลายหลาก การแบ่งปันประสบการณ์ในการเผชิญปัญหา ทางแก้ สิ่งที่ได้รับ มีอยู่ช่วงหนึ่งแกพูดถึงความรู้สึกถึงการประสบความสำเร็จ และมีความสุขเมื่อได้ทำธุรกิจ ซึ่งแต่ก่อนจะมาทำธุรกิจแกได้ทำงานเกี่ยวกับกฏหมาย ซึ่งก็มีรายได้มากอยู่แล้ว แต่มีเหตุการณ์ทำให้ตัดสินใจเปลี่ยนไปทำธุรกิจครับ

โดยแกได้เล่าว่า การทำธุรกิจนั้นทั้งผู้ขายและผู้ซื้อก็มีความสุข คนขาย ขายของได้เงินก็มีความสุข คนซื้อได้ของตามที่หวังก็มีความสุข ผมฟังเนื้อหาเหล่านี้แล้วก็กลับมานึกถึงตัวเองว่าผมเคยมีความรู้สึกเหล่านี้บ้างไหม แล้วมันผ่านมานานแล้วแค่ไหน

เรื่องราวที่ย้อนไปถึงอดีต

ความรู้สึกยินดีและความสุขของผมเริ่มที่มังกีซ์โกรฟ มันเป็นวันที่แดดตอนบ่ายไม่ร้อนจนเกินไป ผมลองไปขายโปสการ์ดที่จตุจักรโดยตั้งแผงง่ายๆ ที่กางออกแล้วขายได้ทันที ซึ่งผมจำได้เลยว่าลูกค้าคนแรกของผมเป็นผู้หญิงวัยกลางคนหน่อยๆ ซื้อโปสการ์ดของผมไปสองใบ สมัยนั้นยังไม่มีชุดการ์ดและแบบการ์ดให้เลือกมากมายเหมือนตอนนี้ แต่ผมเองก็ยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้ มันมีความสุขมากๆ

การขายงานศิลปะหรืองานฝีมือนั้น ต่างจากงานรับจ้างต่างๆที่ผมเคยทำมา งานที่มาจ้างผมทำ คือเขาต้องการในแบบของเขาจึงมาจ้างผมทำ แต่การขายงานศิลปะคือผมทำขึ้นมาก่อนแล้วเขาสนใจ เขาจึงซื้อ ความรู้สึกที่มีคนซื้อผลงานของเราโดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อน..สำหรับศิลปินด้อยประสบการณ์อย่างผม ถือว่าเป็นความรู้สึกปลาบปลื้มจนยากจะลืม

ปัจจุบันผมไม่ค่อยมีเวลาหรือมีความคิดไปขายตามสถานที่ต่างๆแล้วเพราะเวลาและโอกาสนั้นไม่ค่อยจะอำนวยเท่าไหร่ จึงขายเฉพาะสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ซึ่งผมก็ยังมีความสุขทุกครั้งที่มีรายการสั่งซื้อเข้ามา จำนวนการสั่งหรือรายได้คงไม่สำคัญเท่า การที่ผลงานของผมนั้นได้อยู่ในมือของคนที่ชอบและเห็นคุณค่าของมัน..

สวัสดี