ชีวิตที่ผ่านเลยมาถึงต้นปี 2556

และแล้วก็ผ่านต้นปีมาจนถึงช่วงกลางเดือนมกราคม ผ่านวันเด็ก ผ่านวันอะไรๆที่ดูจะสำคัญในช่วงปีใหม่มาแล้ว คงจะเป็นช่วงที่ผ่อนคลายและสงบนิ่งมากขึ้น

ก่อนปีใหม่ก็ไม่มีเวลาได้ทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาในปี 2555 และวางแผนในปี 2556 เลย มันดูเหมือนจะว่าง แต่พอนึกไปมันก็ไม่ว่าง มีอะไรยุ่งๆ นิดๆ หน่อยๆ เต็มไปหมด มีอะไรให้ทำตลอดเวลาจนลืมนึกไปว่าในปีนี้ยังไม่มีแผนเป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไรนัก มีแต่แผนรวมๆระยะยาวเท่านั้นเอง

MonkiezGrove , Cartoon Postcard Animation

ในปีนี้ เท่าที่คิดได้ก็จะกลับมาพัฒนามังกีซ์โกรฟ (www.monkiezgrove.com) อีกครั้ง หลังจากปล่อยให้ร้างไปเกือบสองปี ซึ่งการปัดฝุ่นครั้งนี้ได้ใช้ประสบการณ์และความรู้ที่เก็บเกี่ยวมาในช่วงที่เรียนโทมาใช้ด้วย ทำให้เป็นการวางแผนการสร้างในทุกระยะเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งแน่นอนว่าจะต่อเนื่อง มั่นคง และยั่งยืนกว่าเคย อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในบทบาทบ้าง ตามความเหมาะสม แต่สุดท้ายสิ่งที่ยังเป็นงานหลักของมังกีซ์โกรฟ คือ การ์ตูนน่ารัก คำนี้จะฝังลงไปในทุกๆกิจกรรมของมังกีซ์โกรฟ

ดอกทานตะวัน

อีกอย่างก็คงจะเป็นการทำอัลบั้มภาพออนไลน์ที่ DINPhoto ( photo.dinp.org ) ภาพที่ถ่ายเก็บไว้เยอะมากๆ ภาพที่ไปเที่ยวถ่ายวิว ถ่ายนู่นถ่ายนี่ ตามประสาคนบ้าถือกล้่องไปที่ไหนก็ถ่ายที่นั่น จะได้นำมาลงแบ่งปันกันให้ชมเสียที เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราอยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปดูโลกบ้าง ก็ค่อยๆติดตามกันเป็นระยะๆ นะครับ จะทยอยๆ ลงไปเรื่อยๆ

ส่วนงานอื่นๆ ก็คงกลับมารับทำเหมือนเดิมหลังจากงดรับงานมาเกือบสองปี เพื่อมุ่งเน้นไปในการเรียนรู้ให้คุ้มค่าที่สุด ณ ตอนนี้เหมือนจุดที่ทุกอย่างคลี่คลาย ค่อยๆกลับมาเป็นเหมือนปกติอย่างช้าๆ สำหรับปีนี้คงได้แค่ทำตามแผนที่วางไว้ สำหรับแผนใหม่คงยังไม่คิด เอาไว้คิดปีหน้าดีกว่า ตอนนี้สะสมทุนอีกครั้งก่อนจะเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในโอกาสหน้า

สำหรับใครที่ยังไม่ได้วางแผนชีวิต ก็ลองใช้เวลานั่งคิด นั่งทบทวน นั่งคุยกับตัวเองดูก็ได้ ว่าชีวิตต้องการอะไร อะไรคือเป้าหมาย ได้มาแล้วยังไงต่อ คิดล่วงหน้าไว้ก่อน สุดท้ายค่อยสกัดด้วยคำว่า “อะไรที่จำเป็น

สวัสดี

ทำบัญชีซื้อต้นไม้

หลังจากที่ซื้อต้นไม้มานานก็ไม่เคยนึกถึง เมื่อวานอากาศดี พาให้คิดไปไกลว่า…เราซื้อต้นไม้มาเท่่าไหร่กันนะ

หลายคนที่ปลูกเลี้ยงต้นไม้ผมเชื่อว่าไม่ค่อยได้จำกันหรอกครับ เพราะคงจะซื้อบ่อยเหมือนผมนั่นแหละ แต่ใครจะจดไว้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งนะ สำหรับผม มีการจดบันทึกไว้โดยการพิมพ์บล็อกครับ เป็นอีกข้อดีของการเขียนบล็อกคือสามารถตามค้นหาอดีตของตัวเองได้ง่ายครับ สุดท้ายเราก็จะมาทำบัญชีย้อนหลังในการซื้อต้นไม้ และอุปกรณ์ต่างๆที่เีกี่ยวข้องกับการปลูกต้นไม้ของผมกันครับ

แต่อย่างน้อยการทำบัญชีย้อนหลังก็ทำให้เราเรียนรู้ได้ว่าเราทำอะไรไปบ้างในช่วงเวลาเหล่านั้นการลงบัญชีย้อนหลัง ที่ไม่มีหลักฐานครบถ้วนนั้น เป็นเรื่องยากมากๆ หลายรายการต้องนั่งนึกกันเอาเอง หลายรายการต้องลงไปดูว่ามีอะไรอยู่บ้างที่เคยซื้อมา เราควรทำบัญชีตั้งแต่แรกครับ เพราะการทำบัญชีย้อนหลังไม่ใช่เรื่องสนุกและไม่ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนอีกต่างหาก แต่อย่างน้อยการทำบัญชีย้อนหลังก็ทำให้เราเรียนรู้ได้ว่าเราทำอะไรไปบ้างในช่วงเวลาเหล่านั้น

หลังจากทำบัญชีเสร็จผลที่ออกมาทำให้ ผมได้รับความรู้สึกว่า “นี่เราซื้อเยอะขนาดนี้เลยหรอ” แน่นอนครับ การซื้อไปเรื่อย ทีละน้อยๆนั้นให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย แต่การซื้ออะไรหนักๆทีเดียวด้วยเงินก้อนใหญ่นี่มันน่าหนักใจจริงๆ จะเปรียบก็เหมือนซื้อเงินสดกับซื้อเงินผ่อนนั่นแหละครับ เมื่อเห็นผลดังนั้นผมเองก็คงจะต้องคิดประหยัด หรือคิดก่อนซื้อเสียบ้าง เพราะรายการซื้อในบัญชีจะแสดงจำนวนเงินที่เราจ่ายไปแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นว่าเราได้ซื้ออะไรที่มันไม่น่าซื้อมาด้วยเหมือนกัน…

สวัสดี

พักหายใจ

กับเหตุการณ์ช่วงนี้ที่เกี่ยวกับตัวผมคงจะไม่มีอะไรมาก แต่ที่จะมาเล่ากันวันนี้ เป็นอารมณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น ณ เวลาหนึ่ง ในวัน วันหนึ่ง เท่านั้นเอง

ตัวผมนั้นปกติจะตื่นเช้าขึ้นมาก็เปิดคอมพิวเตอร์ เปิดกาน้ำร้อน ชงชา แล้วดูอะไรๆที่เปลี่ยนแปลงในอินเตอร์เนท แล้วก็ค่อยทำงานกัน หลังจากทำงานนั้นผมจะค่อนข้างมีสมาธิพอสมควร แต่การมีสมาธินั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียในเวลาของมันเอง

เพราะบางทีผมจดจ่ออยู่กับมันมากเกินเวลาที่สมควรทำให้มีการเมื่อยล้าปวดกล้ามเนื้อจนต้องลงมานอนบิดขี้เกียจกันทีเดียว ดังนั้นการจดจ่อมากเกินไปคงไม่เรียกว่าสมาธิสักทีเดียว คงจะเรียกว่าความหมกมุ่นมากว่า ถ้าใช้คำว่ามีสมาธินั่นหมายถึงผมคงต้องไปกินข้าวอาบน้ำ เดินเล่น แล้วกลับมาทำงานได้อย่างปกติเหมือนเดิม

แต่ปกติแล้วมันจะไม่เป็นเช่นนั้น เวลาที่ผมเดินไปที่อื่นผมก็จะคิดเรื่องอื่นๆ ในหัวมีอะไรตลอดเวลา ผมจำไม่ได้ว่าเวลาไหนผมไม่ได้คิด พอว่างสักหน่อยก็จะเอาอะไรออกมาคิด หรือไม่มีเรื่องคิดก็เปิดอินเตอร์เนทหาเรื่องใส่สมองมาคิดจนได้

เรื่องที่คิดมีทั้งมีสาระและไม่มีสาระบ้างปะปนกันไป แต่สำหรับผมมันมีประโยชน์มาก ความคิดหนึ่งๆเมื่อคิดไว้แล้ว ผ่านวันนานไปเราอาจจับมาต่อยอดกับความคิดปัจจุบันได้เรื่อย อาจเพราะเหตุนี้ผมเลยไม่ค่อยมีปัญหากับการคิดงานสักเท่าไร

วันนี้ตอนเย็นแม่กลับบ้านเร็วหน่อย ประมาณห้าโมงเย็นได้ ผมเปิดหน้าต่างไปทักทายแม่ และมองออกไปนอกหน้าต่าง อากาศเย็นกว่าให้ห้องมาก ปลอดโปร่ง โล่งสบาย ผมอยู่ในห้องที่อากาศไม่ค่อยหมุนเวียนตลอด แม้ตอนนี้จะเอาพัดลมดูดอากาศข้างนอกเข้ามาบ้าง แต่มันก็ไม่เท่ากับเปิดหน้าต่างออกไปสูดอากาศแม้แต่น้อย

การเปิดหน้าต่างออกไปนั้นผมเพียงแค่ลุกและเอื้อมตัวไป มันใช้พลังงานและเวลาน้อยกว่าเดินไปห้องน้ำมากมาย แต่ผมกลับไม่ค่อยได้ทำมันเลย ผมเข้าห้องน้ำประมาณวันละ 20-30 ครั้งเพราะปริมาณน้ำชาที่กินเข้าไป และอาบน้ำบ่อย แต่ผมเปิดหน้าต่างวันละไม่ถึงหนึ่งครั้ง…

evening_outside

…หลังจากนี้คงต้องเปิดหน้าต่างเอาหัวออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง
…เพื่อ
…พักหายใจ

สวัสดี