เปลี่ยนเมนูเนื้อ เป็นเมนูผัก

ตอนก่อนก็ชวนกันมากินผัก มาตอนนี้ก็มาดูกันดีกว่า ว่าเราจะสามารถแทนที่เนื้อสัตว์ด้วยผักอะไรกันได้บ้าง ยิ่งถ้าเป็นคนที่ทำครัวเดินตลาดบ่อยๆละต้องรู้แน่ แต่ครั้งนี้ขอคนชอบกินผักแบบผมแบ่งปันมุมเล็กๆมุมนี้แล้วกันนะ

แกงเขียวหวานเป็นเมนูที่บ้านผมชอบทำมา ในปีนี้ก็ได้กินมาหลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งก็จะเป็นแกงเขียวหวานไก่อยู่แบบนั้น อะไรทำให้คิดว่าแกงเขียวหวานต้องไก่ด้วย เป็นแกงเขียวหวานอย่างอื่นได้ไหม แกงเขียวหวานเห็ด แกงเขียวหวานหน่อไม้ ล้วนได้ไหม แน่นอนว่าจริงๆก็คงจะมีขายอยู่บ้าง แต่เวลาเราทำกับข้าวกินเองที่บ้าน เราก็มักจะสุดๆกับวัตถุดิบจนลืมความสร้างสรรค์ไปเลยก็ได้

แกงเขียวหวานผัก

ย้อนไปในอดีตเมื่อไม่นานมานี้นิดหนึ่ง มีวันหนึ่งที่ผมออกไปซื้อกับข้าวช่วงสายๆที่ร้านที่ซื้อบ่อยๆ เพราะเขาทำรสชาติจัดจ้านทีเดียว แต่วันนั้นไปสายแม่ค้าบอกว่า แกงเขียวหวาน ในหม้อไก่และเนื้อหมด (สมัยนั้นยังกินเนื้อเป็นปกติอยู่นะ) ผมเองมองไปที่หม้อก็เห็นว่าเหลืออยู่บ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นมะเขือลอยเต็มไปหมด ด้วยความที่ไม่อยากเสียเที่ยวก็เลยถามแม่ค้าว่า น้ำแกงเขียวหวานที่เหลือกับมะเขือนี่ยังขายอยู่ไหม เอาถุงนึง

สรุปว่าแม่ค้าก็ขายให้ ถูกกว่าเดิม แต่ก็ยังอร่อยเหมือนเดิม เพราะสิ่งที่เราชอบไม่ใช่ไก่หรือเนื้อวัว แต่เป็นรสชาติของแกงเขียวหวานนั่นเอง ครั้งนั้นเป็นการกินผักลดเนื้ออย่างไม่ได้ตั้งใจจนมาเป็นไอเดียให้กับทุกวันนี้

แกงเขียวหวานยอดมะพร้าวอ่อนและมะเขือ

ที่บ้านของผม แม่ของผมจะเป็นคนทำครัว ซึ่งเราก็มีหน้าที่กินและชม รวมถึงเสนอเมนูต่างๆ ขึ้นมา ในครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมได้ร้องขอให้แม่ช่วยทำแกงเขียวหวานที่ไม่ใส่เนื้อสัตว์ให้หน่อย และเสนอวัตถุดิบ ที่ผมกิน เช่นมะเขือ ข้าวโพดอ่อน เห็ด เต้าหู้ ผมไม่รู้หรอกว่ามันเข้ากันได้รึเปล่า รู้แต่ผมกินได้แน่นอน เพราะเป็นคนกินง่าย

สุดท้ายแม่ก็ทำให้กินดั่งใจหวัง การกินผักลดเนื้อสำเร็จไปอีกขั้นแล้ว การที่ครอบครัวเข้าใจและส่งเสริมนี่มันเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่มากจริงๆ ใครที่สามารถกินผักลดเนื้อกันได้ทั้งบ้าน นอกจากจะสุขภาพดีแล้วน่าจะใจดีกันด้วยนะ เพราะว่าการที่เราลดเนื้อเราก็จะมีความเมตตาให้สัตว์ที่เรากินอยู่แล้ว ซึ่งมักจะเมตตาต่อๆไปถึงคนรอบๆตัวและสังคมด้วย

สวัสดี

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับการลดเนื้อสัตว์ มากินผักได้ที่ Veggie kitchen , facebook (Veggie Kitchen)

บอกเล่าข่าวหนีน้ำท่วม

ตอนนี้เนื่องจากเกิดอุทกภัยโดยทั่วไปในประเทศโดยเฉพาะภาคกลางและกำลังหนักหน่วงอยู่ที่กรุงเทพ ทำให้ผมได้หนีน้ำออกจากบ้านมาพักใหญ่ๆแล้วครับ

ที่หนีออกมาก่อนน้ำมานั้นเพราะได้ประสบการณ์จากคนรอบข้างและครอบครัวที่เผชิญกับน้ำท่วมโดยตรงครับ บ้างก็อยู่ดอนเมือง บ้างก็ลำลูกกา หนีน้ำกันมาตั้งแต่ระยะแค่ข้อเท้า จนกระทั่งน้ำมิดหัวก็มีกันมาให้เห็น ที่บอกนี่ญาติสนิทเลยนะครับ นี่แหละที่ทำให้ผมและครอบครัวออกมากันก่อนที่น้ำจะมา ไม่งั้นคงจะโกลาหลและลำบากอย่างแน่นอน

สุดท้ายก็ออกมาท่องเที่ยวไปในตัวระหกระเหินไปในที่ต่างๆหลายที่ ผมเองแยกกับครอบครัวไปเก็บเรื่องราวและถ่ายรูปตามที่ต่างๆมากมาย จนตอนนี้ก็กลับมารวมกับครอบครัวอีกครั้ง น้ำก็ยังมาไม่ถึงบ้านสักที

สำหรับตอนนี้คงจะไม่สะดวกนะที่ต้องพิมพ์เรื่องราวมากมายที่อยู่ในหัวออกมาเพราะอยู่ในระหว่างหนีน้ำท่องเที่ยว (อีกแล้ว) เอาเป็นว่าหลังน้ำลดคงมีเรื่องให้พิมพ์กันเยอะแน่นอน ขอให้ทุกคนดูแลตนเองและครอบครัวของท่านด้วยนะครับ และถ้าอยากดูแลคนอื่นด้วยตอนนี้ก็สามารถเป็นจิตอาสาไปช่วยตามที่ถนัดได้เลยครับ

ขอให้โชคดี

สวัสดี