[26] ถังน้ำหยด

diary-0026-ถังน้ำหยด

26. ถังน้ำหยด

พอดีว่ามีถังเปล่าเหลือ จากที่เคยเอาไว้หมักเศษอาหาร ตอนนี้ชีวิตในปัจจุบันแทบจะไม่มีเศษอาหารเหลือทิ้งเลย ก็เลยไม่มีอะไรให้หมัก สุดท้ายก็เคลียถังเอามาทดลองทำถังน้ำหยด

ที่คิดจะทำถังน้ำหยดนั้น เพราะคิดว่าน่าจะมีอุปกรณ์ช่วยให้น้ำที่ไม่ต้องผูกติดกับท่อประปาและให้น้ำได้นานพอสมควร เหมาะกับการพยุงไม้ลงใหม่ ให้มันไม่เหี่ยวเฉาเกินไป

ก็ทดลองเจาะถัง ใส่ท่อ ต่อหัวน้ำหยด ถังหนึ่งน่าจะเก็บน้ำได้ประมาณ 50 กว่าลิตร จากที่ทดลองดูใช้หัวน้ำหยด 2 ลิตรต่อชั่วโมง ถังอยู่จะอยู่ได้ราว ๆ 3 วัน เพราะวันท้าย ๆ น้ำจะเริ่มหมด แรงดันน้ำจะลด ทำให้น้ำหยดช้าลง

ก็เอาไปตั้งกลางแดด แต่จะไปตั้งเปล่า ๆ มันก็จะพังเร็วก็เลยหาอะไรไปคลุมแดดไว้หน่อย ก็เอาถุงปูนที่ใช้แล้วนั่นแหละ ผ่าตามยาว แล้วเอาไปกันตามทิศทางของดวงอาทิตย์

ผลออกมาก็พอใจระดับหนึ่ง แต่อาจจะประยุกต์เพิ่มอีกหน่อย เพราะน้ำหนึ่งถังได้ 2 วันกว่า ๆ นี่ก็ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ก็พอจะช่วยต้นไม้ต้นสำคัญ ที่อยู่ในระยะห่างที่ดูแลยากให้อยู่รอดได้ดี

ในส่วนถ้าเป็นการลงทุนก็คิดว่าไม่คุ้ม ลากท่อ pe เอาจะดีกว่า เพราะในระยะยาวจะดูแลน้อยกว่า ถังนี้มันเอาไว้ใช้ชั่วคราวจริง ๆ นั่นแหละ

ผลการเพาะมะเขือเทศ

ผลการเพาะมะเขือเทศ

ผลการเพาะมะเขือเทศ

เป็นมะเขือเทศที่เพาะไว้ตั้งแต่ 21 มกราคมที่ผ่านมา ก็ราว ๆ 20 กว่าวัน ได้ต้นกล้ามะเขือเทศที่ดูแข็งแรง จริง ๆ แล้วถ้ามันขึ้นง่ายขนาดนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องเพาะเยอะแบบนี้ก็ได้ เพราะว่าเพาะเยอะไปก็โตช้า แย่งอาหารกัน ต้องจับแยกปลูก

คราวหน้าว่าจะลองเพาะให้มันปราณีตกว่านี้ดู เพื่อเปรียบเทียบกันว่าแบบไหนจะสะดวกต่อการทำงานมากกว่า บางครั้งเน้นคุณภาพก็ดี บางครั้งเน้นปริมาณก็ดี ก็แล้วแต่องค์ประกอบ ณ เวลานั้น ๆ

ผมค่อนข้างประสบความสำเร็จในการเพาะเลี้ยงมะเขือเทศในระดับทดลอง เพราะสามารถทำจนเกิดวงจรแล้ว คือได้ผล>เก็บเมล็ด>เพาะเมล็ด>ดูแลให้เติบโต>ให้ผล

พอได้ผลแบบนี้แล้วก็ค่อยขยายผลต่อไป จากแปลงเล็ก ๆ ก็ค่อยขยายและเพิ่มปริมาณขึ้น ทดลองดูว่าจะจัดการอย่างไรกับต้นมะเขือเทศ อย่างตอนนี้ที่เลี้ยงอยู่นี่ต้นยาวกว่า 2 เมตร เอามาขึ้นเสา ก็สูงกว่า 2 เมตรเลยทีเดียว

ต้นมันจะสูงจะเลื้อยจะยาวก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็อยู่ที่ว่าเราจะจัดการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างไรให้มันได้ผล และดูแลได้ง่าย จะปล่อยให้ยาว หรือจะตัดให้สั้นก็ค่อยทดลองกันไปอีกที

ตุ๊กแก

ตุ๊กแก

ตุ๊กแก

ผมค่อนข้างชินกับภาพของตุ๊กแก เพราะมากี่ทีก็เห็นมันทุกที มันชอบแอบอยู่ในมุมมืด ๆ ตามของที่พิงกำแพงไว้ เช่น โต๊ะพับ แผงโซล่าเซลล์

ตุ๊กแกที่นี่ไม่ได้สร้างปัญหามากนัก อยู่มาสามปี ก็ไม่ส่งเสียงร้องรบกวนอะไร เคยมีครั้งหนึ่งมันพยายามร้อง แต่เหมือนร้องแล้วสำลักเลยหยุดไป จากนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงมันอีกเลย เห็นแต่ตัว

มีครั้งหนึ่งมันโดนงูกัด ก็น่าจะตายละนะ ตัวแข็งเลย งูก็พยายามกินซากตุ๊กแก แต่มันกินไม่ได้ไง ตุ๊กแกมันตัวใหญ่แถมยังงับขาตัวเองไว้อีก ก็เลยจับแยกเพราะจะปล่อยให้มันกินก็ใช่เรื่อง เพราะสถานที่กินมันคือหน้าห้องนอนเรานั่นเอง

ตอนนี้จากสองตัวในรูปก็น่าจะเหลือหนึ่งตัว ยังไม่เห็นมีเพิ่มมานะ หรืออาจจะมีมากกว่าหนึ่งก็ได้ แต่จำหน้าตามันไม่ได้เท่านั้นเอง

ยามเย็น

diary-0025-ยามเย็น

ยามเย็น

พอมองบรรยากาศตอนเย็นแล้วก็คิดถึงความแตกต่างจากบ้านที่กรุงเทพฯ ที่นี่ไม่มีอะไรเลย มีแต่ทุ่งหญ้า ไร่นา ภูเขา ต้นไม้… แสงยามเย็นจึงไม่มีอะไรบังมากนัก เต็มที่ก็ภูเขาบัง แต่กรุงเทพฯ นี่ตึกบัง บ้านบัง ป้ายบัง ก็เป็นความแตกต่างของเมืองกับชนบท มันก็เป็นของมันอย่างนั้น

ในตอนที่แสงแดดอ่อน ๆ ยามเย็นกำลังจะหมดไป ลมหนาวก็พัดมา ช่วงก่อนหน้านี้จะหนาวแค่ตอนเช้ากับตอนหัวค่ำ แต่ตอนนี้เหมือนจะมีลมหนาวพัดมาทั้งวัน แต่ยังไม่ถึงกับหนาวมาก แค่ยืนขุดดินตากแดดตอนเช้า 8.00 น ก็ยังหนาวจนอยากใส่ชุดกันหนาวทั้งตัวทีเดียว

ถ้าเป็นสมัยก่อนผมก็คงจะอยากไปเที่ยวประเทศที่เขาหนาวสุด ๆ มีหิมะ มีธารน้ำแข็ง แต่ตอนนี้ไม่เอาแล้ว อยู่ที่นี่ แค่หนาวเท่านี้บางทีก็ลำบากร่างกายแล้ว เลยไม่รู้จะไปหาหนาวกว่านี้ทำไม

หน้าหนาวนี่ก็ดีอย่าง ทำงานเหงื่อแห้งไว ไม่เลอะเทอะนัก ส่วนหน้าฝนนี่ลำบากสุด คือเหงื่อออกมาก ยุงเยอะ เลอะเทอะ แต่ให้ผลผลิตดีสุด ผักโตไวดี ส่วนหน้าร้อนนี่เสียน้ำเยอะ คนก็ต้องกินน้ำบ่อย ต้นไม้ก็เช่นกัน

ยุง

ยุง

ยุง

อยู่ที่ต่างจังหวัดนี่โดนยุงกัดน้อยกว่าที่บ้านกรุงเทพฯ อีก แม้บ้านนี้จะมีต้นไม้มาก แถมยังติดคลอง แต่ก็ไม่ได้มียุงมากมายเท่าไหร่

แต่ถ้าเราเผลอไม่จัดการให้ดี ๆ ปล่อยภาชนะหรือปล่อยให้มีแหล่งน้ำนิ่ง ยุงจะมาไข่ไว้ สุดท้ายก็จะโดนยุงกัดเพิ่มขึ้น เพราะยุงที่โตมามันก็ไม่ได้ไปหากินที่ไหนหรอก มันก็หากินแถวบ้านเรานั่นแหละ

ที่นี่ผมไม่เลี้ยงสัตว์ แม้ยุงก็ไม่เลี้ยงเหมือนกัน แต่บางคนก็ชอบเลี้ยงยุง กัดทั้งตนเอง กัดทั้งคนในบ้าน กัดทั้งเพื่อนบ้าน ไม่รู้จะเลี้ยงยุงกันไปทำไม แต่เขาอาจจะชอบก็ได้เจ็บ ๆ คัน ๆ ดี

แมว

แมว

แมว

มาอยู่ที่นี่ แม้จะมีหนู แต่ผมก็ไม่ได้เลี้ยงแมว เพราะเลิกเลี้ยงสัตว์แล้ว แต่ก็ยังมีแมวของชาวบ้านแวะเวียนมาเป็นบางครั้ง

ผมเคยเห็นข้อมูลที่คนเขาเอามาแชร์ ว่าด้วยเรื่องวัน ๆ หนึ่งแมวของคุณไปที่ไหนมาบ้าง ทำให้ผมเข้าใจใหม่ว่าขอบเขตของมันกว้างมาก

ถ้าหนูหากินได้ในระยะมากกว่า 100 เมตร (เท่าที่รู้) แต่แมวไปได้ไกลกว่านั้นมาก และนี่ก็เป็นแมวตัวหนึ่งที่แวะมาที่บ้านผม ในรัศมีประมาณ 500 เมตรรอบบ้าน ไม่มีใครเลี้ยงแมวเลย

ดังนั้นถึงจะมีหนูก็ไม่ต้องเลี้ยงแมว เดี๋ยวแมวมันก็หาหนูได้เอง และถึงจะไม่มีแมว ก็ยังมีงูที่คอยมากินหนูอยู่ดี

ยอดไชยา

ยอดไชยา

ยอดไชยา

ไชยานี่เป็นเหมือนไพ่ตายของผมเลย ไม่มีอะไรกินก็กินไชยา เขาว่ามันคล้าย ๆ คะน้า

วันก่อนผมลองกินยอดดู ทั้งยอดอ่อนและก้านแก่ ยอดอ่อนนั้นกินสดได้เลย หวาน กรอบ ส่วนยอดแก่ต้องลอกเปลือกออกก่อน มันจะแยกเป็นชั้นชัดเจน ถ้ากิ่งไม่แก่มาก จะกินได้ทั้งกิ่งเลย

ทีนี้เราก็เลี้ยงแบบปล่อยตามธรรมชาติ แบบที่เห็นในรูปคือถ้าไม่ได้อยู่รดน้ำเป็นประจำ ยอดมันก็ไม่เติบโต แต่ถ้าได้รดน้ำติดต่อกันสักระยะหนึ่ง ยอดก็จะเขียว

ไชยาเติบโตได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ผมยังไม่เคยเทียบชัด ๆ ว่าแบบไหนมันโตดีกว่า แต่จากที่ลองสังเกตดูมันก็ผลิตใบได้ทั้งสองสภาพ โดยหลัก ๆ น่าจะเป็นน้ำมากกว่าแสง ถ้าน้ำเพียงพอมันก็โตไว ถ้าแดดดีแต่น้ำไม่พอ มันก็เตี้ยตันอยู่แบบนั้น

ตอนนี้ผมมีไชยาต้นที่ค่อนข้างโตอยู่ 3 ต้น ก็เด็ดกิน ตัดกินมากิน ปกติจะไม่ได้กินกิ่ง เพราะจะเอาไปปักชำต่อ เป้าหมายคือสัก 100 ต้น จะได้มีกินตลอดปี 3 ต้นที่มีนี่กินติดต่อกันสักสัปดาห์หนึ่งก็หมดต้นแล้ว พอหมดแล้วพักฟื้นอีกนานเลย กว่าจะโตให้ได้กินใหม่ ดังนั้นจึงต้องขยายพันธุ์ไชยาเพิ่มนั่นเอง

[24] ขี้เถ้า

diary-0024-ขี้เถ้า

24. ขี้เถ้า

ช่วงหลังมานี่ขี้เถ้าชักจะเยอะขึ้นมาก เป็นขี้เถ้าที่เก็บสะสมไว้ตั้งแต่มาที่นี่แรก ๆ เก็บจนได้เป็นถัง ก็เลยต้องหาวิธีใช้มัน

มีครั้งหนึ่งที่เคยก่อกองไฟกันบนพื้นดิน ก็ก่อกันหลายชั่วโมง ใช้ฟืนไปพอประมาณ พอฤดูกาลผ่านไป กลายเป็นว่าวัชพืชที่ขึ้นอยู่ในพื้นที่กองไฟนั้น เจริญเติบโตได้ดีกว่าวัชพืชในพื้นที่อื่น ๆ

ผมเคยคิดว่าขี้เถ้านี้มีความเป็นด่างมาก ใช้แล้วเป็นอันตรายต่อต้นไม้ แต่จากสิ่งที่ได้เห็น จึงเข้าใจใหม่ว่ามันขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ จริง ๆ แล้วมันดี มันมีธาตุอาหารอยู่ แต่ก็ต้องใช้มันให้พอเหมาะไม่มากจนเกินไป

มีความรู้เกี่ยวกับการใช้ขี้เถ้าแบ่งปันอยู่ในอินเตอร์เน็ต ผมก็ได้ประโยชน์จากการค้นหาข้อมูลเหล่านั้นนั่นแหละ สุดท้ายเลยได้วิธีการกำจัดขี้เถ้าที่เต็มถังได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด นั่นคือเอามันไปใส่พืชผักที่เราปลูกนั่นเอง

ลูกหนู

ลูกหนู

ลูกหนู

นี่คือลูกหนูที่แตกรัง โดนแม่ทิ้ง คือผมไปเก็บกวาดห้องเก็บของ แม่หนูก็วิ่งพรวดออกมา ลูกมันก็กระเด็นไปตามทาง มีตัวหนึ่งมาซุกอยู่มุมบ้าน ผมก็ดูมันไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่เช้าจรดเย็น นึกว่ามันจะตายแล้ว เพราะมันนั่งอยู่แล้วมันก็นอนแผละ สักพักก็ลุกขึ้นมานั่งใหม่ ไม่นานนักมันก็หายไป มีสองกรณีคืองูคาบไปกินกับแม่มันพากลับไป เพราะลูกหนูมันยังเดินไม่เก่ง ได้แค่คลาน ๆ สุดท้ายมันไม่มีแรงคลาน นอนอยู่กับที่หลายชั่วโมง

นี่เป็นเรื่องเมื่อสองอาทิตย์ก่อน มาวันนี้เหมือนลูกหนูชุดนี้จะโตแล้ว และหนำซ้ำดูเหมือนว่าแม่หนูจะคลอดลูกอีกคอกแล้ว

ที่นี่ก็ไม่มีอาหารอะไรให้มันกินนะ ผมจัดการเก็บอย่างดี แต่ตอนเก็บซากรังมัน เห็นมะขามอยู่ ซึ่งมีต้นมะขามห่างไปจากบ้านผมราว ๆ 150 เมตร นั่นหมายถึงรัศมีการหากินของหนูมันกว้างกว่าที่ผมคิดค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว สรุปคือมันมาอยู่อย่างเดียว แล้วไปหากินที่อื่น

มันเทศ

มันเทศ

มันเทศ

ผมได้ทดลองปลูกมันเทศมาสักพัก โดยการซื้อหัวมันมา และวางไว้ รอให้มันแทงยอดออกมา แล้วค่อยเด็ดยอดนั้นไปปักชำต่อ

วิธีดังกล่าวค่อนข้างให้ผลดี พอปักชำแล้วต้นโต ก็ตัดลำต้นไปปักชำต่ออีก ซึ่งเวลาผมเอาไปปัก ก็เอาไปปักฝากไว้กับกระถางต้นไม้อื่น ๆ ที่ปลูกไว้ อย่างในรูปทางซ้ายบน ก็เอาไปฝากไว้ในกระถางประดูอ่อนที่เพาะเตรียมไว้ ได้ผลเป็นมันหัวเล็ก แต่จริง ๆ มีอีกหัว แต่ดันอยู่ใต้รากประดู่ เอาออกไม่ได้ เดี๋ยวประดู่จะเสียหาย

มันเทศหัวอ้วน ๆ ด้านหลัง เป็นมันที่ได้หัวเดียวจากกระถางที่วางทิ้ง ๆ ไว้หน้าบ้าน เป็นกระถางที่เอาไว้ชำไม้ เน้นวัสดุปลูกที่โปร่ง ไม่เน้นสารอาหาร แต่ก็ได้ผล ได้หัวมันมาอยู่

ผมเคยลองเอายอดมันที่ชำไว้แล้วมาลงแปลงที่นี่ เพราะคิดว่ามันน่าจะโตได้ดีกว่าในกระถาง กลายเป็นว่าตายเรียบ เอามาปัก 10 ก็ตาย 10 นั่นคือมีรากแล้วนะ แต่มันทนร้อนทนแล้งไม่ไหว

ผมเคยดูรูปก็เห็นเขาปลูกกันในไร่เลย แต่จริง ๆ มันเป็นพืชที่ดูเหมือนจะอ่อนไหวต่ออากาศมากอยู่เหมือนกัน ก็ไม่รู้ว่ามันอ่อนแอเพราะผมเลี้ยงให้มันอ่อนแอ หรือมันต้องดูแลมากกว่านี้

เพราะตอนปักชำนั้นจะอยู่ในร่ม บ้านที่กรุงเทพฯ ไม่ค่อยโดนแดดเท่าไหร่ มันอาจจะชินกับสภาพนั้น แต่พอมาเจอแดดเต็มวัน แถมให้น้ำยังไม่พอ หนำซ้ำลมยังแรงอีก ไปกันใหญ่เลย

ซึ่งคราวนี้ก็ลองปลูกลงแปลงใหม่อีกครั้ง เลือกแปลงที่โดนแดดไม่เต็มวัน อยู่ใต้ร่มไม้ เผื่อมันจะรอด จะได้มีมันเทศไว้กินเป็นประจำสักที