ผึ้ง

ผึ้ง

ผึ้ง

เมื่อเดือนก่อนระหว่างที่ผมกำลังทำงานกลางทุ่งอยู่นั้น ก็มีเสียงหึ่ง ๆ ดังขึ้นมา ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนเสียงโดรนที่บินอยู่ใกล้ ๆ

มีฝูงผึ้งจำนวนมาก ไม่รู้กี่ตัว น่าจะหลักพันถึงหลักหมื่นได้ มาบินวนอยู่บนต้นไม้ที่ไม่ไกลจากจุดที่ผมยืนนัก

เมื่อผมเห็นมันเยอะขนาดนั้น ก็เลยหนีห่างออกมาในจุดที่ปลอดภัย นั่งดูมัน ไม่นานนักเสียงก็เงียบไป แต่มันไม่ได้ไปไหน มันมาเกาะรวมกันอย่างในรูปนี้

เอาแล้วไง กิ่งที่มันเกาะนี่สูงจากพื้นราว ๆ 5 เมตร หนำซ้ำยังอยู่ปากทางเข้าบ้านอีก

แต่ก็ไม่มีอะไร ไม่กี่วันต่อมามันก็บินจากไป ไม่ได้ทำอันตรายอะไร อาจจะเพราะผมหลีกเลี่ยงที่จะไปใกล้แถวนั้น

ตอนแรกก็คิดเหมือนกันว่า ถ้ามันไม่ไปจะทำอย่างไร รถก็จอดอยู่ใต้รังมัน แถมยังต้องไปตลาด ถ้าโดนต่อยด้วยปริมาณขนาดนี้คงแย่แน่ ๆ แต่ดีที่มันชิงอพยพก่อนวันที่จะไปตลาด เลยรอดไป

วอเตอร์เครสใบใหญ่

วอเตอร์เครสใบใหญ่

วอเตอร์เครสใบใหญ่

หรืออีกที่เขาเรียกกันว่าวอเตอร์เครสฮาวายนี่แหละ เอามากินสดก็ดี เอาไปใส่แกงจืดก็ดี ใส่สลัดก็ดี ก็แล้วแต่ใครจะกินแบบไหน

พอดีวันก่อนทำใบของมันตกไปในถังน้ำที่มีฝาปิด ก็เปิดฝามาใช้น้ำทุกวัน ก็เห็นมันลอยและสีเขียวสดอยู่หลายวัน ลองหยิบขึ้นมาดูก็พบว่ามันยังสดและดูเหมือนจะมีพลังชีวิตอยู่

ก็เลยลองเด็ดใบต้นที่เพิ่งจะขุดย้ายที่ปลูกมา ใบของมันไม่ตึงมาก ออกไปทางเหี่ยว ๆ ด้วยซ้ำ แต่ผมเอาไปแช่น้ำไว้หนึ่งคืน ปรากฎว่ามันเต่งตึง แข็ง กรอบ เหมือนผักที่ได้รับการดูแลอย่างดี

ตอนแรกก็คิดไปว่าเอาผักไปแช่น้ำไว้ข้ามคืน มันจะเน่า ที่ไหนได้ มันสดขึ้น แถมแช่ได้หลายวันด้วยสิ ก็คงแล้วแต่ชนิดผัก อันนี้เป็นความรู้ที่ได้มาแบบบังเอิญ ถ้าใบมันไม่ตกในถังน้ำก็คงไม่รู้แบบนี้

ตะปาด

ตะปาด
ตะปาด

ก็ตะปาดบ้าน ๆ นั่นแหละนะ ไม่ได้แปลกอะไร แต่มันมานอนในที่ที่แบบว่า สูงสำหรับตัวมันเหลือเกิน

ผมตั้งไม้ถูพื้นไว้ในห้องเก็บของ ซึ่งมันก็สูงพอประมาณ เจ้าตะปาดนี่ก็กระโดดขึ้นมานอนบนนี้ ในห้องเก็บของนี้ไม่ได้มีความชื้นมากนัก ไม่ได้มีทางเข้าออกหลายทาง มันก็คงเข้ามาทางประตูที่เปิดไว้ทางเดียวนั่นแหละ

ปกติจะเจอตะปาดในห้องน้ำ ก็ไม่มีพิษภัยอะไรสำหรับตะปาด มันก็อยู่ของมันไป แต่สงสัยว่าตัวนี้มันจะออกยังไง ก็มีสัตว์หลายตัวเหมือนกันที่หลงเข้ามาแล้วก็ออกไม่ได้ เน่าตายบ้าง แห้งตายบ้าง…

*เพิ่มเติม แต่ก่อนเข้าใจว่าตัวนี้เรียกว่ากบ แต่เขาเรียกมันว่าตะปาด แถมยังมีจุดเด่นที่กระโดดได้ไกล ดังนั้นมันคงจะหาวิธีออกจากห้องได้ทางเพดานนั่นแหละนะ (ไม่มีฝ้า)

[29] ฝน และ แมลงเม่า

diary-0029-ฝนและแมลงเม่า

29. ฝน และ แมลงเม่า

หลังจากหนาวมาหลายวัน อากาศก็เปลี่ยนเป็นร้อน เพียงแค่ลมพัดผ่านวันเดียว ฤดูกาลก็เปลี่ยนได้

หลังจากร้อนมาสักพักจนอบอ้าว ฝนก็ตกลงมา ตกมาไม่เยอะหรอก แต่เม็ดใหญ่ ตกได้ไม่นานก็หยุด พอให้ชุ่มฉ่ำ เย็นสบาย อุณหภูมิก็ลดลงมาเป็นสบาย ๆ อีกครั้ง

หลังจากร้อนแล้วมาฝน สิ่งที่มักจะเจอคือแมลงเม่า หลังจากพระอาทิตย์ตก ตอนเปิดไฟเข้าห้องน้ำก็เห็นแมลงเม่า และรู้ทันทีว่าคงต้องปิดไฟนอนเลย เพราะแมลงเม่านี่มันมุดมุ้งได้ เปิดไฟนิดหน่อย เพียงแค่แสงหน้าจอมือถือมันก็มาแล้ว

ก็เลยวางงานสรุปในวันนั้นทังหมดแล้วนอน ก็นอนคิดอะไรเพลิน ๆ ไปเรื่อย ๆ แล้วก็หลับ ตื่นมาอีกทีดึก ๆ ค่อยมาสรุปงาน วางแผนงานวันต่อไป เพราะแมลงเม่านี่มันมีเวลาของมัน มันจะมาเยอะช่วงหัวค่ำ และลดลงไปเรื่อย ๆ หลังจากนั้น

วันต่อมาฝนก็ตกเหมือนเดิม แต่ไม่มีแมลงเม่าเหมือนวันแรก ก็ดีเหมือนกัน…

มะเขือเทศที่ไม่เป็นสีแดง

มะเขือเทศที่ไม่เป็นสีแดง

มะเขือเทศที่ไม่เป็นสีแดง

อาจจะเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่หลายคนก็คงรู้อยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ผมเพิ่งรู้ คือ “มะเขือเทศไม่จำเป็นต้องสุกเป็นสีแดง”

ผมก็เคยเห็นบ้างที่เขาเอามะเขือเทศมาขาย ลูกสีส้มบ้าง สีเขียวบ้าง ก็เข้าใจว่าเขาเก็บตอนที่มันยังไม่สุก ถ้าสุกมันก็คงเป็นสีแดงเหมือนกันหมด

จนกระทั่งผมลองปลูกมะเขือเทศเอง ก็ได้ผลสุกเป็นสีแดงทั้งหมด จนกระทั่งมาเจอกับมะเขือเทศต้นนี้ เป็นต้นที่ให้ลูกมาก ลูกใหญ่ ตอนที่ผมไปเจอมันอยู่ในพงหญ้าก็มี 8 ลูกโต ๆ แล้ว ทุกลูกเป็นสีเขียว

ต่อมาผมก็ถางหญ้า รดน้ำดูแลมัน หวังว่ามันจะสุก สุดท้ายแม้จะรอนานแค่ไหน มันก็ไม่สุกเสียที ก็อย่างที่เห็น มันก็สีเหลืองจนเหี่ยวไปนั่นแหละ ผมก็ลองเอาผลสีเหลืองมากินแล้ว มันก็รสเหมือนมะเขือเทศสุกทั่วไป

คือมันสุก แต่มันไม่เป็นสีแดง ผมไม่เคยซื้อมะเขือเทศสีอื่นมาเลย เลือกแต่ลูกแดง ๆ และมะเขือเทศต้นนี้ก็เป็นต้นที่เพาะเมล็ดมาจากผลสีแดงที่ซื้อจากตลาดนั่นแหละ

เหมือนกับที่เราคาดหวังว่าใครสักคนจะพัฒนา เราเฝ้าดูแล เอาใจใส่ สุดท้ายพบว่าเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ วันเวลาเปลี่ยนแปลง ร่างกายของเขาแก่ก็จริง แต่ความคิดเขาไม่เปลี่ยน สุดท้ายเขาก็อาจจะตายไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่เข้าใจความผาสุกที่แท้จริงเลยก็ได้

แน่นอนว่าการดูแลของเราก็เป็นกรรมดีที่เราสมควรทำ แต่ความคาดหวังนั้นเป็นสิ่งที่จะทำร้ายตัวเรา เหมือนกับมะเขือเทศ เราไม่รู้หรอกว่ามันจะสุกเป็นสีแดงหรือไม่ เป็นเพราะเราดูแลไม่ดีหรือเป็นเพราะพันธุ์มัน หรือเพราะเรายึดมั่นว่าผลสุกที่ดีต้องสีแดง ถ้ามันเป็นพันธุ์ที่ไม่มีวันจะเป็นสีแดงได้ เราไปพยายามให้มันเป็นมันก็ทุกข์เปล่า ๆ

คนก็เช่นกัน พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ว่า คนนั้นมีทั้งคนที่สอนได้ คนที่สอนไม่ได้ แม้คนที่สอนได้ยังมีระดับง่ายไปจนถึงสอนลำบาก ในช่วงเวลาที่มีอยู่จำกัด เราจะเลือกทำสิ่งใด ถ้ามะเขือเทศที่ตลาดต้องการต้องมีผลสดใหญ่สีแดง เรายังจะปลูกมะเขือเทศที่ไม่มีวันเป็นสีแดงนี้อยู่ไหม เหมือนกับที่โลกต้องการคนดีแท้ เราจะให้เวลากับการสร้างคนดีแท้ที่พอจะเป็นไปได้ หรือเป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้เลย

นี่คือเรื่องที่ผมได้จากมะเขือเทศต้นนี้ …แต่ผมอาจจะดูแลมันไม่ดีก็ได้นะ เดี๋ยวจะลองใส่ปุ๋ยแล้วมาดูผลชุดใหม่กันอีกที

[28] คั่วเมล็ดมะม่วงหิมพานต์

diary-0028-คั่วเมล็ดมะม่วงหิมพาน

28.คั่วเมล็ดมะม่วงหิมพานต์

ด้วยความที่ว่าอยากจะปลูกมะม่วงหิมพานต์ไว้สัก 4-6 ต้น เพราะเป็นพืชที่ให้ทั้งโปรตีน ให้ทั้งน้ำมัน ทั้งเป็นที่นิยมอีกต่างหาก เอาเป็นว่ากินเองก็ได้ ทำขายก็คงพอมีคนสนใจ

ทีนี้ก่อนจะปลูก มันก็ต้องศึกษากันก่อนว่ากระบวนการที่จะทำให้ได้กินเนี่ย เขาทำอย่างไร ไม่ใช่ว่าปลูกแล้วแปรรูปยาก ขั้นตอนเยอะ อะไรแบบนี้มันก็ไม่ไหว

พอดีว่ามีคนเขาให้เมล็ดมะม่วงหิมพานต์มาให้ปลูก เราก็เลยแบ่งส่วนหนึ่งมาทดลองคั่วดู ก่อนจะคั่วก็เปิดหาความรู้กันในอินเตอร์เน็ตนั่นแหละ ตามที่่เขาทำให้ดูกัน เราก็เรียนรู้ไป

พอมาถึงคราวทำจริงนี่ก็ระวังเหมือนกัน เพราะที่เขาทำให้ดูนี่มันติดไฟง่าย เราก็ลองเอาหม้อเก่านี่มาคั่ว ก็คั่วไป ใช้ไม้เขี่ย วน ๆ ไปให้มันร้อนหลาย ๆ ด้าน ไม่นานนักก็ไฟลุก เราก็ตายใจ เห็นเปลือกมันหนาเลยปล่อยให้ไฟลุกไปสักพัก รอบแรกได้แบบรูปขวาบน น้ำตาลมาเชียว สรุปว่าเสีย

รอบสองพอจะกะเวลาได้ คือถ้าไฟติด ก็ดับแล้วเลิกเลย ก็ออกมาดูดี แต่เมล็ดมันไม่เต่งเหมือนที่เราซื้อกินกัน ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน แต่ก็กินได้

สรุปลองกินทั้งแบบยั่งไม่คั่ว คั่วแล้วไหม้ คั่วแล้วยังไม่ไหม้ ก็โอเค สรุปความคิดว่าจะปลูกมะม่วงหิมพานต์ไว้กินก็ผ่าน ไว้ปลูกโตให้ผลแล้วค่อยมาว่ากันอีกที

เก็บเมล็ดพันธุ์ถั่วพุ่ม

เก็บเมล็ดพันธุ์ถั่วพุ่ม

เก็บเมล็ดพันธุ์ถั่วพุ่ม

ผมเคยปลูกถั่วพุ่มไว้หนึ่งแปลงเล็ก ๆ ขนาด 4*1 เมตร ผลที่ได้ก็ดีเชียวล่ะ แต่ก็มาเสียตรงที่ปล่อยมันไว้กับฟ้ากับฝนนานไปหน่อย ก็ประมาณ 3 เดือน

แต่กลับมามันก็ยังไม่ถึงกับตาย แค่พิการไปบ้าง ใบไม่มี เหลือแต่ต้นที่ยังมีสีเขียว ๆ พอรดน้ำดูแลไปสักพัก ใบก็เริ่มผลิออกมาใหม่ ไม่นานนักก็ให้ผล คือมีฝักถั่ว แต่ไม่งามหรอก ต้นหนึ่งได้หนึ่งฝักก็ถือว่าเก่งแล้ว กับสภาพของต้นที่มันเป็น

เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ชุดนี้ซื้อมา แล้วก็ไม่อยากจะต้องเสียเงินไปซื้ออีก ก็เลยยังไม่เด็ดไปกิน ถึงจะเด็ดไปกินก็ได้ไม่กี่ฝัก เลยคิดจะเก็บเมล็ดไว้ปลูกชุดใหม่น่าจะดีกว่า

แต่การจะไปปล่อยไปตามธรรมชาติ บางทีฝักก็ไม่สมบูรณ์ มักจะมีแมลงมากินตรงกลางฝัก ก็เหมือนจะได้เมล็ดที่ไม่สมบูรณ์ตามไปด้วย

สุดท้ายนึกได้ ไปเจอห่อผ้าที่เขาไว้ห่อของชำร่วย ก็เลยเอามาห่อฝักเลย หนึ่งฝักนี่ก็คงได้ไม่ต่ำกว่า 5 เมล็ด ก็จะลองปลูกต่อดู ขึ้นไม่ขึ้นอย่างไรค่อยว่ากันอีกที ถ้าขึ้นก็ดี จะได้มีปลูกมีกินไปเรื่อย ๆ ไม่ขึ้นก็ลองศึกษากันต่อไป

ตั๊กแตน

ตั๊กแตน

ตั๊กแตน

ที่นี่มีตั๊กแตนหลายพันธุ์ ซึ่งก็มีให้เห็นอยู่หลายสีหลายแบบ เช่นสีเขียวบ้าง สีขาวบ้าง สีน้ำตาลบ้าง หรือจะเป็นตั๊กแตนกิ่งไม้ก็มีให้เห็นบ่อย ๆ

ตั๊กแตนที่นี่จะอยู่ในพงหญ้า หรือไม่ก็แปลงผัก ส่วนใหญ่ก็บนแปลงผัก ถ้ารดน้ำไปบนต้นถั่วที่ปลูกไว้ ตั๊กแตนก็จะกระโดดออกกันหลายตัวเลย

ซึ่งใบถั่วก็มีขาด ๆ แหว่ง ๆ ไปบ้าง แต่ก็ไม่รู้เพราะตั๊กแตนนี่รึเปล่า แต่ใบที่หายไปก็ไม่ถึงกับทำให้ต้นตาย ก็รดน้ำใส่ปุ๋ยสู้กันไป

ต้มจืดฟัก

ต้มจืดฟัก

ต้มจืดฟัก

ผมเคยทำต้มจืดฟักมาครั้งหนึ่ง จุดประสงค์คืออยากจะลองใช้ฟักทำอาหาร คราวก่อนก็ไม่มีอะไรมาก มีฟัก เกลือ น้ำตาล ใบวอเตอร์เครส แค่นี้

แต่พอลองทำไปก็สงสัยว่ารสแบบที่เขาทำกันนี่เป็นยังไง ใส่สามสหาย คือ กระเทียม พริกไทย รากผักชีแล้วมันเป็นยังไง ผมไม่ค่อยได้ทำต้มจืดเลยไม่รู้ รู้แต่ปกติเขาใส่กัน สุดท้ายก็เลยซื้อมาลองให้หายสงสัย

สรุปกินไปแล้วเหมือนไม่ดีเท่าตอนแรก รสจัดกว่าก็จริง แต่กลายเป็นว่าหิวเร็วกว่าเดิม รู้สึกไม่อยู่ท้อง ทั้ง ๆ ที่ปริมาณอาหารก็เยอะกว่าครั้งก่อนที่ลอง

ต้มฟักหม้อหนึ่ง ผมจะกินได้สองวัน วันหนึ่งกินเป็นกับข้าว อีกวันก็ใส่ข้าวลงไปต้มพร้อมอุ่นเลย กลายเป็นข้าวต้มฟักนั่นแหละ

ทุนฟักลูกหนึ่งก็ตก 10-15 บาท แบ่งกินได้สองวันแบบนี้ ก็ตกค่าผักเพียงแค่ 5 – 8 บาทต่อวันเท่านั้น ส่วนจะเติมจะเสริมอะไรก็แล้วแต่เหมาะสม ถ้าเสริมแล้วมันดีก็เสริม แต่ถ้าไปซื้อกระเทียม ผักชี (พริกไทย มีอยู่แล้ว) มาเติมแบบคราวนี้ ก็ดูจะกลายเป็นสิ่งเปลืองเงิน และเสียสุขภาพไปในตัว มันอาจจะเหมาะกับช่วงที่หนาวมากกว่านี้ก็ได้ ถ้าอากาศแบบตอนนี้เติมฤทธิ์ร้อนมากไปก็คงจะเกิน

มดแดง

มดแดง

มดแดง

มาอยู่กับป่ากับต้นไม้นี่ ยังไงก็ต้องเจอกับมดแดงบ้างสักวัน แน่นอนว่าถ้าเจอแล้ว จะระวังไม่ให้โดนกัดก็คงยาก

หากเราไม่อยู่ในอาณาเขตของมดแดง ไม่อยู่ในพื้นที่ของรังมัน ผมสังเกตว่ามันจะไม่ค่อยดุ ไม่ค่อยสนใจเรา แต่ถ้าเราไปขวางทางเดินมัน ไปใกล้รังมัน มดแดงก็พุ่งเข้ามากัดเราแบบถวายชีวิตเลย

การกัดของมดแดงนั้น เจ็บแต่ไม่คัน และกัดไม่ปล่อยง่าย ๆ เป่าก็ไม่ออก เรียกว่ากัดแบบยอมตายถวายชีวิต ขอแค่ได้จัดการกับผู้รุกราน

ผมรู้สึกว่ามดแดงนั้นน่าสงสาร และคนที่มีความเห็นอย่างมดแดงนั้นก็น่าสงสารเช่นกัน ที่ต่อสู้ปกป้องสิ่งที่ตนเองยึดมั่นถือมั่น โดยมุ่งทำลายผู้อื่นเป็นหลัก …มดแดงมันก็มีปัญญาของมันเท่านั้นแหละนะ มันก็ช่วยไม่ได้ แต่คนบางคนนี่พอจะเปลี่ยนแปลงได้ ก็อย่าเอาอย่างมดแดงก็แล้วกัน