ประวัติแมว

วันนี้นั่งนึกถึงสิ่งที่อยากจะทำและค่อยคัดกรองและพยายามจะเรียบเรียงมันออกมาให้ได้ เพราะอาจจะมีหลายสิ่งที่หลุดลอยหายไประหว่างช่วงเวลาที่ไร้สมาธิ

สิ่งหนึ่งที่อยากบันทึกลงบล็อกแห่งนี้ไว้ก็คือประวัติของแมว จริงๆแล้วเรื่องนี้คิดไว้ตั้งแต่ก่อนที่แมวจุ๊บจะหายไปด้วยซ้ำ จนวันนี้ผ่านมากว่าปีครึ่งที่จุ๊บหายไปจากบ้าน ความหวังที่มันจะกลับมาบอกตรงๆว่าไม่มีเลย ซึ่งก็ไม่มีผลกับความตั้งใจในการเขียนประวัติแมวของผมอยู่ดี

แมวมากมาย…

แมวที่เลี้ยงมาก็มีมากมายหลายตัว ซึ่งก็คงจะไล่ไปทีละตัวเท่าที่จำได้ เพราะว่าความทรงจำของบางตัวนั้นเลือนลางมาก จำได้แค่ชื่อ บางตัวจำชื่อไม่ได้ด้วยซ้ำจำได้แต่พฤติกรรมของมัน ซึ่งแน่นอนว่าตัวที่ผมชอบที่สุดก็คือแมวจุ๊บนั่นเอง จุ๊บมีลักษณะของแมวในอุดมคติของผมไว้หลายอย่าง จริงๆอาจจะไม่ใช่อุดมคติก็ได้ เพียงแต่เราชอบสิ่งที่มันทำก็เลยคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเราแค่นั้นเอง

วันนี้คงจะไม่ได้เรียบเรียงประวัติแมวกันอย่างที่คิดเพราะว่า ให้พิมพ์ตอนนี้ก็คงจะออกมาน้อยไปหน่อยเพราะต้่องใช้เวลานั่งนึกเหมือนกันว่าแมวตัวไหนทำอะไรยังไงบ้าง ซึ่งเท่าที่นึกออกก็คงมีไม่กี่ตัว…รอชมกันต่อไป

สวัสดี

กว่าจะวาดได้รูปหนึ่ง ใช้เวลานานไหม?

วันนี้มีเรื่องให้คิดถึงคำถามนี้ขึ้นมา อาจจะเพราะไม่ได้วาดรูปมาก็นานแล้ว ก็เลยนึกย้อนไปถึงวันที่มีคำถามนี้เกิดขึ้น…

กว่าจะวาดได้รูปหนึ่ง ใช้เวลานานไหม?

กว่าจะวาดได้รูปหนึ่ง ใช้เวลานานไหม? เป็นคำถามที่มีลูกค้าถามตอนที่ผมไปเปิดร้านขายโปสการ์ดมังกีซ์โกรฟในงานปล่อยแสง ที่หอศิลป์แถวๆสยาม ตอนนั้นผมจำได้คับคล้ายคับคลาว่าจะตอบไปประมาณว่าวาดรูปหนึ่งไม่นาน แต่คิดนาน

มาถึงวันนี้ดูเหมือนจะมีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมลืมตอบไปด้วย…นั่นคือกว่าจะคิดจะวาดก็นานเหมือนกัน..

วันก่อนมีลูกค้าถามถึงลายใหม่จะมีเมื่อไหร่ แน่นอนว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนถาม แต่ผมเองไม่ค่อยได้นึกถึงคำตอบที่แน่นอนเท่าไหร่ จนกระทั่งนึกไปถึงคำถามที่ว่า กว่าจะวาดได้รูปหนึ่ง ใช้เวลานานไหม? นั่นเอง

เมื่อสองความรู้สึกนี้มาบรรจบกัน “จะมีลายใหม่เมื่อไหร่ + วาดรูปหนึ่งใช้เวลานานไหม” ก็ทำให้มีคำตอบที่เหมาะสมสำหรับคำถามว่ากว่าจะวาดได้รูปหนึ่ง ใช้เวลานานไหม? นั่นคือนานมาก… เพราะกว่าจะมีโปสการ์ดออกมาใบหนึ่ง ต้องใช้เวลาขบคิดจินตนาการไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าคิดแล้วออกมาเลย แต่ต้องคิดต้องวาดรูปในอากาศ ร่างภาพในความคิด ทำอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า กว่าจะออกมาเป็นภาพต้นแบบ และปรับแก้ภาพในหัวอีกนับเดือนกว่าจะออกมาเป็นภาพร่างโดยใช้ดินสอ

กว่าจากภาพดินสอจะถูกวาดเป็นโปสการ์ดอย่างที่เห็นนั้น ไม่ได้มีขั้นตอนต่อเนื่องกันอย่างที่คิด เพราะว่าหลังจากร่างแบบแรกแล้ว ผมจะปล่อยให้่มันตกผลึก “มัน” ในที่นี้คือความคิดและจินตนาการ ซึ่งบางทีก็มีการปรับแก้อีกที และบางทีก็วาดใหม่ยกเลิกรูปเดิมทิ้งไปเลยก็มี

และขั้นตอนที่สำคัญที่สุดนั่นคือการวาด แต่ปัญหาคือเมื่อไหร่จะวาด น่าจะเป็นคำถามที่ชัดเจน มันยากมากที่จะบอกว่าเมื่อไหร่จะวาด เหมือนการวาดงานครั้งหนึ่งนั้นต้องใช้สมาธิและความตั้งใจสูงมากๆ ผมมักจะล็อควันเวลาไว้ก่อนจะวาดจริง จะไม่ไปไหนหรือไม่ทำธุระอะไรทั้งนั้น ทั้งๆที่เป็นงานวาดโปสการ์ดการ์ตูน แต่ก็จำเป็นต้องใช้สมาธิและอารมณ์ในการสร้างสรรค์รูปออกมา เพราะว่าโปสการ์ดรูปหนึ่งผมจะวาดครั้งเดียว หมายถึงให้งานจบ ณ ตรงนั้นเลย จะไม่มีแก้นั่นแก้นี่เยอะนัก เพราะทุกอย่างต้องพร้อมก่อนจะวาดแล้ว ทั้งภาพในหัว ทั้งสมาธิ ซึ่งตรงนี้แหละที่จะทำให้มันมาบรรจบกันได้ยาก ความพอดี ที่จะเกิดโปสการ์ดได้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ไม่ใช่เรื่องที่ว่าอยากทำก็จะทำได้ (ซึ่งจริงๆก็อาจจะทำได้ แต่คงไม่ได้ดีเท่าที่ใจคิด)

เพราะฉะนั้น การที่มีโปสการ์ดมังกีซ์โกรฟใบใหม่ออกมานั่นหมายถึงผมว่างพอที่จะมีสมาธิและความสร้างสรรค์ ที่มากพอที่จะสร้างผลงานดีๆออกมาได้

ผลงานของผมในมังกีซ์โกรฟ ติดตามชมได้ที่ monkiezgrove.com

สวัสดี