ข้าวออกรวง

ข้าวออกรวง

ข้าวออกรวง

ข้าวที่ปลูกไว้ ออกรวงแล้ว มีเมล็ดข้างในด้วย ลองแกะกินแล้วอีกต่างหาก ที่เหลือก็คงรอแค่ให้ข้าวแก่พร้อมเกี่ยวเท่านั้นเอง

ที่เห็นอยู่นี้เป็น “ข้าวพอเพียง” ที่ได้รับแจกหลังจากเข้าสักการะพระบรมศพในหลวง ร.๙ ก็ปลูกพลาดไปรอบหนึ่ง รอบแรกนั้นข้าวจมน้ำตายหมด

พอมารอบสองก็เรียนรู้ อย่างน้อยเราก็จะไม่ไปพลาดแบบเดิม ก็ปลูกไป ได้ต้นกล้า แล้วก็เอาไปแช่น้ำ ต่อมาก็เอาไปวางกลางแดด ใส่พวกกะละมังจากร้าน 20 บาท มันใหญ่ดี ต่อมาไม่นานเจอปัญหาน้ำแห้งไว สุดท้ายก็เอาใส่อ่างผสมปูนซะเลย เพราะใหญ่และใส่น้ำได้เยอะกว่าเดิม

ที่เล่านี่ปลูกไม่เยอะ แค่ 12 กอเท่านั้นเอง ปลูกเพื่อเรียนรู้เป็นหลัก ตอนนี้ก็คิดว่าได้ผลแน่ ๆ แล้ว ข้าวไม่ลีบ เพราะจากที่แกะมากินหลายเมล็ดก็สมบูรณ์ดีอยู่ เดี๋ยวจะรอดูว่าผลสุดท้ายจะออกมาอย่างไร แล้วจะมาเล่ากันอีกทีหลังข้าวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง

มอดในข้าวสาร

มอดในข้าวสาร

มอดในข้าวสาร

หลังจากที่ได้เปลี่ยนมากินข้าวไร้สารพิษพักใหญ่ ๆ ก็จะเจอกับปัญหามอดในข้าว ซึ่งปกติก็จะจับออก ตอนล้างข้าวนั่นแหละ ก็มีบ้างที่เอาออกไม่หมด

ซึ่งผมเองก็เคยเห็นเขาเอาข้าวมาใส่กะละมังแล้วตั้งไว้กลางแดดเพื่อไล่มอดมานานแล้ว ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ได้เอากลับมาทำในทันที จนวันหนึ่งเวลาสาย ๆ แดดส่องเข้ามาในตัวอาคาร นึกขึ้นได้จึงลองเอากล่องใส่ข้าวสารนี้ไปวางตากแดด

กลายเป็นว่าวิธีนี้ดีกว่าแบบที่เคยใช้จริง ๆ เพราะใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มอดก็พากันเดินไต่ออกมาจากข้าว มาเดินวน ๆ อยู่บนขอบกล่อง เราก็ค่อยจับมันออก แบบนี้ง่ายกว่าเดิมมาก เพราะแต่ก่อนต้องคอยควานหา แต่นี่มันแสดงตัวออกมากันหมดเลย

ที่ตอนแรกยังไม่ได้ทำตามที่รู้มานั้นเพราะเข้าใจว่าต้องตากแดดนาน ที่ไหนได้ ตากแป๊ปเดียว มอดก็ออกจากข้าวแล้ว

ข้าวสารที่กินต่อวัน

ข้าวสารต่อวัน

ข้าวสารที่กินต่อวัน

วันก่อนผมนั่งอ่านบันทึกเก่า สมัยที่มาอยู่ที่นี่ใหม่ ๆ การทำอาหารเองนั้นต่างจากการกินอาหารที่คนอื่นทำให้มากนัก ซึ่งก็มีข้อดีข้อเสียและข้อจำกัดต่างกันไป

ในกรณีของผมคือต้องทำอาหารเป็นบนข้อจำกัดของทรัพยากร เพราะผมไม่มีตู้เย็น ดังนั้นการซื้อผักและวัตถุดิบอื่น ๆ จึงต้องวางแผนมากกว่าการซื้อมาเก็บตุนไว้

ข้าวก็เช่นกัน ผมซื้อข้าวมาจากกรุงเทพฯ เป็นข้าวไร้สารพิษที่ราคาไม่แพง ข้าวที่สีต่างกันนั้นให้พลังงานต่างกัน ข้าวกล้องก็อยู่ได้นานหน่อย แต่ต้องเคี้ยวละเอียดมากกว่า หุงแล้วแข็งที่สุด ข้าวซ้อมมือก็กลางๆ ส่วนข้าวขัดขาวผมไม่ได้กินเพราะให้พลังงานต่ำมาก กินไปแล้วหิวไว ไม่อยู่ท้อง

เมื่ออ่านบันทุึกไปก็พบว่า ผมเริ่มจากการหัดกินข้าวด้วยการตวง 2 กระป๋อง ทดลองว่าจะมีพลังงานพอไหม จนลดมาเรื่อย ๆ มาถึง 1 กระป๋องแบบไม่ต้องพูน เอาแค่ปริ่ม ๆ ก็มีพลังงานพอจะทำงานทั้งวันแล้ว

พลังงานทั้งวันนี้หมายถึงข้าวเท่านี้สำหรับหนึ่งวัน ไม่ใช่หนึ่งมื้อ(1/3 มื้อ) คือกินมื้อเดียวจบไปเลย สะดวกดี ยิ่งกินหลายมื้อชีวิตยิ่งจะยุ่งยาก กินมื้อเดียวชีวิตจะเรียบง่ายเป็นสุข

ผมเคยวัดตวงดูว่าข้าวที่กินนั้นวันหนึ่งกินเท่าไหร่ ลองแล้วก็ประมาณ 1 ขีด หมายความว่าเดือนหนึ่ง 31 วันผมจะกินข้าว 31 ขีด หรือ 3.กิโลกรัมกับอีกหนึ่งขีด

ข้าวซ้อมมื้อไร้สารพิษที่ซื้อกินอยู่นั้นเขาขายกันกิโลกรัมละประมาณ 35 บาท ดังนั้นหากผมกินข้าวในอัตราดังที่กล่าวมานี้ ถ้าคิดแบบเผื่อ ๆ ผมจะใช้ข้าวไม่เกิน 4 กิโลกรัมต่อเดือน คิดเป็นเงินประมาณ 140 บาท นั่นคือค่าข้าวสารต่อเดือนของผม

ปัดให้กลม ๆ ก็ 150 บาท อันนี้คือ ค่าข้าวสารต่อเดือนที่ที่คำนวณได้ ณ ข้อมูลขนาดนี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามากไปหรือน้อยไป เพราะยังไม่ได้เทียบกับใคร แต่ถ้าเทียบกับตัวเองเมื่อก่อนก็ถือว่าน้อยลงนะ

ของฝากจากยโสธร

หลังจากไปร่วมกิจกรรม “หว่านข้าวสู่ผืนนา หว่านศรัทธาสู่หัวใจ” โดยทีวีบูรพา ที่จังหวัดยโสธร ก็ได้ของฝากมาด้วยมากมายครับ

มีทั้งของที่ทางมูลนิธิธรรมะร่วมใจให้มา ของที่พ่อๆแม่ๆ ร่วมกันให้มา และของที่ซื้อมาด้วยครับ สำหรับของส่วนใหญ่ก็จะเป็นของกินของใช้ละนะ ส่วนของที่ระลึกนั้นไม่มี

ของฝากจากยโสธร

หอม กระเทียม และข้าวอินทรีย์ ของฝากจากมูลนิธิธรรมะร่วมใจ
หอม กระเทียม และข้าวอินทรีย์ ของฝากจากมูลนิธิธรรมะร่วมใจ

อันนี้เป็นของฝากที่มูลนิธิธรรมะร่วมใจ ร่วมกันให้นะครับ มีหอมกระเทียม และข้าวด้วยครับ เยอะทีเดียว กินกันไปอีกนานเลยงานนี้

น้ำหมักชีวภาพ ซื้อมาจากห้างดินของมูลนิธิฯ
น้ำหมักชีวภาพ ซื้อมาจากห้างดินของมูลนิธิฯ

อันนี้เป็นน้ำหมักชีวภาพ ที่เป็นอาหารพืชครับ จริงๆแล้วหาซื้อที่ไหนก็ได้ครับ แต่ได้จังหวะเหมาะแถมราคาไม่แพงด้วยก็เลยซื้อกลับมาทีเดียวเลย เพราะยังไงก็คิดว่าต้องลองซื้อใช้อยู่แล้ว และคิดว่าในกรุงเทพฯ คงไม่ขายถูกกว่าราคาป้ายแน่นอน ซื้อมาสองแบบ แบบบำรุงต้นใบและบำรุงดอกผล

สารพัดเมล็ดผัก ถูกและได้เยอะกว่าที่ขายเป็นซองๆทั่วไป
สารพัดเมล็ดผัก ถูกและได้เยอะกว่าที่ขายเป็นซองๆทั่วไป

เมล็ดพันธุ์ผักครับ ปกติก็หาซื้อได้ทั่วไปเหมือนกัน แต่ถึงจะมีทั่วไปผมก็ไม่ซื้อครับ มาซื้อเอาที่นี่แหละ อยากลองเพาะผักอยู่พอดีก็เลยซื้อไปเลย ที่ซื้อไปก็มี พริกขี้หนู สลัดม่วง ผักกาดขาว คะน้ายอด ชีลาวครับ เมล็ดพันธุ์เยอะทีเดียว คิดว่าคงต้องทยอยปลูกนะครับ พื้นที่ที่บ้านไม่ค่อยจะพอ

สิบเซียนสมุนไพร ซื้อจากห้างดินเหมือนกัน
สิบเซียนสมุนไพร ซื้อจากห้างดินเหมือนกัน

สิบเซียนสมุนไพร น้ำหมักสมุนไพรหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ เห็นน้องตากล้องเขาซื้อก็เลยซื้อบ้าง เห็นเขาลองแล้วคงจะดีเป็นแน่แท้ ไม่งั้นคงไม่เอามาขาย ส่วนดีจริงไม่จริง ชอบไม่ชอบ อย่างไร ลองแล้วค่อยมาว่ากันอีกทีแล้วกัน แต่ตอนนี้ขอซื้อติดมาก่อนไม่งั้นไม่ได้ลอง

จริงๆมีของฝากจากแม่หม่อน ที่มูลนิธิธรรมะร่วมใจฝากให้คุณแม่ของผมด้วย แต่ก็ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะ โดนเอาไปจัดเก็บหมดแล้วเลยไม่อยากหยิบมาถ่าย ( แอบขี้เกียจ ) เลยเอาประมาณนี้แล้วกันนะ

สวัสดี

น้ำท่วม ปัญหาน้ำท่วมและสาเหตุน้ำท่วม

ก่อนอื่นก็ต้่องบอกกันเลยว่าสิ่งที่เห็นในตอนนี้ กับเหตุการณ์น้ำท่วมนั้นมีหลายความรู้สึกมากมายเหลือเกิน ซึ่งจะบอกว่ามันแย่มากก็คงจะใช่ แต่ชีวิตไม่ได้มีไว้ให้ล้ม ดังนั้นเราจึงต้องสู้กันต่อไป

ขอเอาใจช่วยพี่น้องชาวไทยทุกท่านที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้ให้เอาตัวรอดปลอดภัยไปได้ สำหรับทรัพสินนั้นก็ขอให้เสียน้อยที่สุดเท่าที่จะเสียได้ โดยมุ่งรักษาชีวิตและความมั่นคงในอนาคตเป็นสำคัญ

ปัญหาน้ำท่วม

ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายภาคส่วน หลายจังหวัดในประเทศไทยตอนนี้เป็นปัญหาที่รุนแรงและจำเป็นต้องหาทางแก้ไขกันอย่างรวดเร็ว แต่แน่นอนว่าปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นในจุดใดจุดหนึ่งหรือทีละจุด แต่มันเกิดพร้อมๆกัน ดังนั้นการคาดหวังความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รัฐนั้นควรจะคิดเป็นอย่างหลัง ซึ่งในสถานะการณ์ที่จำเป็นต้องแก้ปัญหา เราจำเป็นต้องมุ่งไปที่ตัวปัญหา นั่นคือน้ำท่วม

น้ำท่วมแล้วจะแก้อย่างไร เช่นบ้านจมไปหมดแล้ว ณ จุดนี้ขอให้ทำใจให้สบาย นึกว่าต่อไปจะทำอย่างไรดี ดีกว่าที่จะคิดว่าจะเสียอะไรให้นึกว่าต่อไปแล้วเราเหลืออะไร แล้วจะได้อะไรได้บ้าง เพราะน้ำท่วมฝนแล้งนี่ต่อให้เป็นเทวดาผู้วิเศษมาจากไหน เป็นใครก็คงจะช่วยแก้ทันทีไม่ได้ ดังนั้นควรจะคิดต่อไปว่า หลังจากน้ำลดจะวางแผนอย่างไรดี เพราะน้ำท่วมครั้งนี้เป็นสัญญาณให้คนไทยเรารู้สึกตัวเสียทีว่าเรากำลังจะเผชิญกับอะไร เราควรป้องกันอย่างไร

ป้องกันน้ำท่วม

ผมเคยได้ยินว่าชาวไทยนั้นมี รูปแบบการป้องกันน้ำท่วมที่ดีอยู่แล้ว นั่นคือบ้านที่มีใต้ถุน แน่นอนว่าบ้านในสมัยนี้นั้นแทบจะไม่หลงเหลือเค้าโครงไทยอยู่แม้แต่น้อย เราใช้แบบบ้านสมัยใหม่ ซึ่งถ้าน้ำมันท่วม ก็โดนแน่นอนอย่างบ้านผมเองก็คงจะไม่รอดเหมือนกัน ปัญหาน้ำท่วมนั้นสร้างความเสียหายได้มากมายนัก ซึ่งขอบเขตความเสียหายนั้นก็จะใหญ่ และเกินจะควบคุมได้ เพราะปริมาณน้ำนั้นไม่ได้มาจากน้ำมือมนุษย์แต่มาจากธรรมชาติ

สำหรับการเกษตร ผมเคยได้ยินว่ามีข้าวที่ต้นยืดยาวได้ตามระดับน้ำ นั่นหมายถึงว่า มันจะเจอน้ำท่วมแค่ไหนมันก็จะรอดได้ แน่นอนว่าข้าวพันธุ์นี้ไม่ได้ถูกปลูกเท่าไรนักเพราะผมได้ยินว่ามันเป็นข้าวนาปี ปลูกได้ปีละครั้ง แต่จากประสบการณ์และความรู้ในการพัฒนาพันธุ์ทำให้ผมรู้ว่า มันสามารถเอามาผสมกับข้าวที่มีลักษณะเด่นอื่นๆให้มันดีขึ้นได้ ซึ่งเหมาะกับยุคแห่งหายนะนี้แน่นอน

ส่วนการใช้กระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมนั้นเป็นวิธีที่ดี แต่ผมเองก็ยังคิดว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แน่นอนว่ามันต้องใช้ แต่ถ้าหากเราไม่คิดนวัตกรรมเพื่อป้องกันน้ำท่วมใหม่ เราอาจจะลำบากตอนน้ำมาอีกทีก็ได้ เพราะกระสอบทรายเนี่ยมันก็ไม่ใช่ของที่จะหากันได้ง่ายๆ ตอนน้ำท่วมหรอกนะครับ เพราะใครๆก็ต้องการ ดังนั้น การป้องกันน่าจะมีทางอื่นที่เข้ามาเสริมด้วย

สาเหตุที่น้ำท่วม

เราอาจจะเห็นว่าฝนตกหนัก พายุพัดเข้าตลอดทำให้มีปริมาณน้ำฝนและน้ำในดินมากทำให้น้ำท่วม แต่นั่นเป็นแค่ผลกระทบปลายเหตุ ทำไมฝนจึงตก ทำไมจึงมีพายุ ทั้งๆที่เมื่อก่อนในภูมิภาคเราไม่ได้มีพายุบ่อยขนาดนี้

สิ่งที่ผมคิดอยู่ตอนนี้คือปัญหาโลกร้อน การตัดไม้ทำลายป่าทำลายสมดุลที่เคยมี แต่นั่นหมายถึงการเปลี่ยนแปลงสู่สมดุลใหม่ ที่ผมหมายถึงคือ สิ่งที่เราเจอกันอยู่ทุกวันนี้ พอถึงจุดหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่เกิดทุกปี ทุกเดือน หรือทุกวันก็เป็นได้ ซึ่งใครที่สามารถปรับตัวและปรับวิถีชีิวิตตามสภาพที่เปลี่ยนแปลงไปได้นี้ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าคนปรับเปลี่ยนไม่ได้ก็ลำบากหน่อย

ส่วนจะไปเรียกร้องให้ทุกคนรักโลก ดูแลโลก ผมว่าตอนนี้ไม่ทันแล้วแหละครับ ดอกผลแห่งเทคโนโลยีและความเจริญในอุตสาหกรรมกำลังย้อนกลับมาเล่นงานเรา ซึ่งมันก็รวดเร็วและถี่ขึ้นเรื่อยๆ ผมเองไม่สนใจว่าชาติไหนจะปล่อยสาร หรือก๊าซมากกว่ากันเพราะจริงๆแล้วเราก็ใช้อากาศเดียวกันทั้งโลก ดังนั้นการจะเกี่ยงว่าฉันทำฉันเก็บ เธอทำเธอเก็บก็คงจะเป็นเรื่องที่ไม่เป็นผลดีกับโลกนัก การปรับทัศนคติของคนหมู่มากนั้นยาก ดังนั้นปรับเปลี่ยนวิถีชีิวิตของตนเองรับกับสภาพที่เจอนั้นน่าจะง่ายกว่าเยอะ

สุดท้ายขออวยพรให้ทุกท่านโชคดีปลอดภัย

สวัสดี