[6] ถางหญ้า ในหน้าฝน

diary-0006-ถางหญ้าในหน้าฝน

6. ถางหญ้า ในหน้าฝน

กิจกรรมถางหญ้านั้น เป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างจะเพลิน กินแรงน้อย ทำได้นาน ถึงแดดจะร้อน แต่ก็ไม่รู้สึกว่าเหนื่อยนัก ยิ่งทำตอนแดดร่มลมพัดนี่ยิ่งถางได้เร็ว

แต่เมื่อฝนตกแล้ว ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นอีก เพราะนอกจากจะชื้นแฉะแล้วยังมีโอกาสเจอกับแมลงมีพิษหรือสัตว์อื่น ๆ ด้วยก็ได้

หลังฝนตกผมจึงไม่ค่อยเสี่ยงไปถางหญ้าสักเท่าไรนัก แต่จะเปลี่ยนงานไปทำอย่างอื่นดีกว่า รอวันอากาศดี ความชื้นน้อย ๆ ดูแห้ง ๆ แล้วค่อยออกไปถางหญ้าจะปลอดภัยกว่า

ช่วงนี้ฝนตก

ฝนตกช่วงนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานไม่น้อย เพราะงานในปัจจุบันกลายเป็นงานพัฒนาที่ดิน(ของตัวเองไปซะแล้ว)

ผมไปอยู่ที่ไร่ได้สักพักหนึ่งเพื่อดำเนินงาน เริ่มต้นจากการขุด คนขุดก็หามาแล้ว แบบขุดก็มีแล้ว แต่โอกาสในการขุดยังไม่อำนวยเท่าไหร่ ก็เลยต้องปรับแผนนิดหน่อยหนีฝนต่างถิ่นเพื่อกลับมาเจอฝนที่ กรุงเทพฯ ที่คิดถึง ฝนตกรถติดปนกลิ่นควันรถ ไม่มีที่ไหนมีเอกลักษณ์เหมือนกรุงเทพบ้านเราอีกแล้ว

เมื่อออกไปต่างจังหวัด บรรยากาศเหล่านี้่แทบไม่มีเหลือ มีแต่ความมืด ความเย็น ตามธรรมชาติ เท่านั้นเอง ผมได้ลองอยู่กับธรรมชาติ ณ บ้านเช่า แห่งหนึ่ง อยู่กันเป็นอาทิตย์ นอนแต่ละวันไม่เคยเปิดพัดลมเลยเพราะอากาศหนาวมาก อาจจะเพราะฝนก็เป็นได้

สวัสดี

หว่านข้าวสู่ผืนนา หว่านศรัทธาสู่หัวใจ เดินทางกลับ

มาถึงวันที่สามของกิจกรรม “หว่านข้าวสู่ผืนนา หว่านศรัทธาสู่หัวใจ” โดยทีวีบูรพา วันนี้เป็นวันที่เราจะต้องเดินทางกลับ แต่วันนี้เป็นวันที่นอนสบายจริงๆนะ

เมื่อคืนมีฝนตกตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนรึเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่หลับหลังจากฝนตกได้ไม่นาน เพราะความสบายจากอากาศที่เย็นและความเหนื่อยล้า? ที่ผ่านมาในวันนี้

วันนี้ตื่นสาย เพราะเพลินไปกับการนอน
วันนี้ตื่นสาย เพราะเพลินไปกับการนอน

เช้าวันนี้ไม่มีธรรมะตามสายให้ฟังเหมือนเมื่อวาน คล้ายๆจะได้ยินหลวงพ่อท่านว่าอยากให้นอนสบาย แต่ก็มาเปิดตอนช่วงเช้าๆหลังฝนหยุดอีกที สุดท้ายก็ได้ฟังธรรมะยามเช้าอีกเช่นเคย วันนี้เป็นวันที่ตื่นสาย ผมเลยพลาดกิจกรรมยามเช้าไป ฝนตกทั้งคืนทำให้อากาศเย็นมาก

ฝนที่ตกที่ต่างจังหวัดนั้นต่างจากกรุงเทพมากนัก เพราะกรุงเทพที่บ้านผม ก่อนตกนี่จะร้อนมาก ยิ่งหลังตกนี่ยิ่งร้อนมากทีเดียว อาจจะเป็นเพราะต่างจังหวัดไม่ใช่พื้นปูน เป็นพื้นดิน เลยคลายความร้อนได้เร็วกว่า อากาศตอนเช้าเหมือนเปิดแอร์ธรรมชาติที่อุณหภูมิ 24-26 องศา อะไรประมาณนั้น ตอนเกือบจะตื่นก็แอบเผลอคิดว่าใครก็ได้ปรับอุณหภูมิแอร์ขึ้นที…

ตื่นมาก็อาบน้ำแล้วไปดูดงไผ่กันหน่อย
ตื่นมาก็อาบน้ำแล้วไปดูดงไผ่กันหน่อย

ตื่นมาก็อาบน้ำ และเดินไปสำรวจป่าไผ่ครับ ที่นี่มีไผ่ปลูกไว้หลายชนิด ดูจากลำไผ่แล้วน่าจะสามารถใช้งานได้หลากหลายต่างกันไปครับ แต่ที่แน่ๆเขาว่าไผ่สร้างไพร นั้นโตเร็วตามชื่อครับ คิดว่ามีที่ทางถ้าผมจะสร้างกำแพงธรรมชาติก็ต้องไผ่สร้างไพรนี่แหละนะ

ชาวคณะกำลังพอกหน้า แช่เท้ากันอยู่ครับ
ชาวคณะกำลังพอกหน้า แช่เท้ากันอยู่ครับ

เดินกลับมาที่ศาลา ก็จะเห็นว่าชาวคณะกำลังพอกหน้าแช่เท้ากันอยู่ครับ สำหรับการพอกหน้านี่ผมเองก็ยังไม่ได้ลองเพราะเดี๋ยวจะต้องไปทำอีกกิจกรรมหนึ่งนั่นคือไปสวดมนต์ก็เลยตัดสินใจยังไม่พอก เพราะมาช้าตื่นสายด้วยครับเลยทำให้พลาดอะไรดีๆไป

สมุนไพรที่ใช้พอกหน้า?
สมุนไพรที่ใช้พอกหน้า?

สิ่งที่ใช้พอกหน้า มีอะไรผสมอยู่ก็ไม่รู้เหมือนกัน จะเรียกสมุนไพรได้รึเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ใจคิดว่าน่าจะมีส่วนผสมของผงถ่านอยู่แน่นอนครับดำๆแบบนี้

ได้แช่เท้านิดหนึ่งก็ยังดี
ได้แช่เท้านิดหนึ่งก็ยังดี

ว่าจะไม่ลองแล้ว แต่ด้วยคำแนะนำของแม่ๆ ว่าลองหน่อยสุดท้ายก็ลองจนได้ แช่เท้ากับน้ำสมุนไพรอุ่นๆกับ ก้อนเกลือที่อยู่ใต้เท้า แม้ว่าจะเป็นเวลาไม่นานแต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีครับ เพราะผมเองใช้ชีวิตแบบไม่สนใจบำรุงสุขภาพด้วยวิธีเชิงสปาอะไรแบบนี้เลย แต่ยังไงเดี๋ยวจะหาเวลาลองนะครับ จะได้ไม่พลาดโอกาสในการสร้างประสบการณ์ที่ดี

หลังจากนี้เราก็ไปสวดมนต์พร้อมทานหาอาหารเช้ากันครับ หลวงพ่อท่านให้ศีลให้พรอีกหน่อยเราก็ลากลับกัน

กิจกรรมก่อนลา แจกของใช้ที่ระลึก
กิจกรรมก่อนลา แจกของใช้ที่ระลึก

ก่อนจะลาเราก็จะมีกิจกรรมเฉลยบัดดี้นะครับ เป็นบัดดี้ระหว่างเกลอเมืองและเกลอทุ่งครับ หรือเรียกชื่อเกมส์ว่าเกลอเสี่ยว? ละมั้ง

กิจกรรม เฉลยบัดดี้
กิจกรรม เฉลยบัดดี้

บรรยากาศก็ดูวุ่นๆ ปนขำๆ เล็กน้อยเนื่องจาก พ่อแม่ชาวนาคุณธรรมก็ไม่ค่อยคุ้นกับเกมส์บัดดี้สักเท่าไรนัก ผมเองก็เพิ่งจะได้ลองไม่กี่ปีที่ผ่านมานี่เองครับ สำหรับจับได้พ่อบุญเรือง ซึ่งวันแรกๆก็ไม่ค่อยได้เจอแกเท่าไหร่ก็เลยไม่ได้ทำอะไร ซึ่งของที่ให้ไปก็เป็นพวกต้นไม้ที่บ้านผมนั่นเอง พวกลิ้นมังกร อโลนี่ละนะ คิดอยู่นานว่าจะให้อะไรเพราะ ทีมงานไม่ได้บอกว่าจะต้องให้ใครก็เลยงัดของกลางๆเอาเป็นต้นไม้นี่แหละนะ ไม่รู้จะเหมาะรึเปล่าแต่คิดว่าคงจะดีนะ

แม่หม่อนและผม
แม่หม่อนและผม

สำหรับบัดเดอร์ ของผมคือแม่หม่อนนะครับ แม่หม่อนฝากของให้คุณแม่ของผมด้วย ชาวนาคุณธรรมหลายท่านยังฝากความคิดถึง ถึงคุณแม่ผมด้วยครับน่ารักจริงๆ

แม่บัวลี ตุ๊หล่าง และผม
แม่บัวลี ตุ๊หล่าง และผม

รูปแม่บัวลี ตุ๊หล่าง และผมเองครับ ช่วงนี้แต่ละคนก็จะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกครับ แต่ผมขยับไปไหนไม่ได้เพราะมาตายเอาตรงเหน็บกินครับ แต่ไม่เป็นไรครับ จำได้ว่าทีมงานถ่ายไว้เยอะเดี๋ยวค่อยตามไปเก็บรูปใน อัลบั้มเครือข่ายตนกินข้าวเกื้อกูลชาวนาอีกที

เดินวนสวัสดีและอำลากัน
เดินวนสวัสดีและอำลากัน

ก่อนจะจากกันไปมีการตั้งแถวเป็นวงกลมครับ เดินวนสวัสดี ทักทาย พูดจา อำลา กัน แน่นอนว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีและครบแน่นอนครับ ผมชอบตรงจุดนี้มาก รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกจริงๆครับ ขอบคุณทุกๆท่านเลย

พ่อแม่ชาวนาคุณธรรมมายืนลากัน
พ่อแม่ชาวนาคุณธรรมมายืนลากัน

เมื่อร่ำลากันเรียบร้อยแล้วก็ทยอยขนของขึ้นรถกันครับ ขามานี่ไม่มีอะไรครับ แต่ขากลับบอกตรงๆว่าเพียบ นี่ขนาดไม่ได้เอาที่นอนที่เขาให้มานะ ยังรถแน่นขนาดนี้ นี่เหมือนเรามารับอย่างเดียวจริงๆทริปนี้

ป้ายสวนธรรมร่วมใจ (หน้าห้างดิน)
ป้ายสวนธรรมร่วมใจ (หน้าห้างดิน)

ก่อนจะกลับเขาก็มีกิจกรรมให้ไปแวะซื้อของกันที่ห้างดินกันก่อนครับ ห้างดินนี่น่าจะมาจากร้านขายสรรพสินค้าที่สร้างด้วยดินเช่นเดียวกับบ้านดินละมั้งครับ แต่หลักๆคือขายผลผลิตของชาวนาคุณธรรมและเครื่องมือเครื่องใช้อื่นๆครับ

แวะซื้อของกันที่ห้างดิน ก่อนเดินทางกลับ
แวะซื้อของกันที่ห้างดิน ก่อนเดินทางกลับ

สำหรับของฝากหรือของที่ผมซื้อก็สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากบทความในตอน ” ของฝากจากยโสธร

เปิดตลาดทุกวันศุกร์
เปิดตลาดทุกวันศุกร์

ที่นี่เขามีเปิดตลาดสุขใจ ทุกวันศุกร์ด้วยครับ เขาจำหน่ายอาหารพืชผักผลไม้ไร้สารพิษ ที่มาจากผลผลิตของชาวนาคุณธรรมครับ แอบอิจฉาเกลอทุ่งที่มีผลผลิตปลอดสารพิษให้กินกันแบบราคาไม่แพง สำหรับคนในเมืองอย่างผมจริงๆก็มีทางเลือกครับ มีหลายที่ขายผักปลอดสาร แต่ก็ไม่รู้แหล่งที่มาละนะ ถ้ากินแบบรู้แหล่งที่มาก็จะสบายใจกว่า ต่อไปผมคงต้องพิจารณาอาหารมากกว่าเดิม มากกว่าเอาแค่ว่ากินให้อิ่ม

วันนี้ฝนตก
วันนี้ฝนตก

วันนี้ฝนตกทั้งวันครับ ตั้งแต่ยโสธร เรื่อยมา จริงๆก็ตกตั้งแต่เช้าแล้ว ต้นไม้ และป่ากันชนที่เราปลูกไปได้รับน้ำฝนแบบนี้ก็มีอัตราการรอดชีวิตสูงเลยครับ งานนี้เรียกได้ว่าฟ้าฝนเป็นใจครับ ตอนปลูกก็ไม่ร้อนปลูกเสร็จก็มีฝนตก อะไรจะพอดีขนาดนี้กันละนี่

ทุ่งนาวิวสวยที่ผมชอบ
ทุ่งนาวิวสวยที่ผมชอบ

นี่เป็นวิวทุ่งนาระหว่างทางครับ ถ่ายที่ปั้มระหว่างทาง ผมเองเป็นคนที่ชอบมองไปไกลๆ สุดลูกหูลูกตา ผมชอบที่กว้างๆ กว้างแบบไม่มีอะไรบังสายตา ยิ่งเป็นทุ่งนาด้วยละก็เป็นที่โปรดปรานของผมเลย มันเหมือนเราสามารถปล่อยจินตนาการไปได้ไกลมากๆ สรุปคือผมชอบทุ่งนานั่นแหละ

ทริปนี้ไม่ขาดปั้ม
ทริปนี้ไม่ขาดปั้ม

ทริปนี้เราได้แวะปั้มตลอดครับ ผมชอบมากๆ เพราะได้เดินออกมายืดเส้นยืดสายรวมถึงเข้าห้องน้ำด้วย ถ้าหิวก็แวะซื้อได้ตลอด ทั้งนี้ผมเองก็ชอบการเดินทางแบบนี้นะครับ สบายๆไม่รีบ ไม่มีข้อจำกัดใดๆ ให้ใจหมองหม่น

เดินทางกลับ
เดินทางกลับ

เรากลับมาถึงกรุงเทพช่วง 2 ทุ่มกว่าๆครับ ทริปนี้บอกตรงๆว่าไปแบบสบายมากๆ กินอิ่มนอนหลับ ไม่มีอะไรดีกว่านี้อีกแล้ว สำหรับสิ่งที่ผมได้รับมาจากทริปนี้ก็จะเว้นไว้พิมพ์ไว้ในบทความต่อไปแล้วกันนะครับ สำหรับบทความนี้คงจบเรื่องเล่าแต่เพียงเท่านี้

สวัสดี

น้ำท่วม ปัญหาน้ำท่วมและสาเหตุน้ำท่วม

ก่อนอื่นก็ต้่องบอกกันเลยว่าสิ่งที่เห็นในตอนนี้ กับเหตุการณ์น้ำท่วมนั้นมีหลายความรู้สึกมากมายเหลือเกิน ซึ่งจะบอกว่ามันแย่มากก็คงจะใช่ แต่ชีวิตไม่ได้มีไว้ให้ล้ม ดังนั้นเราจึงต้องสู้กันต่อไป

ขอเอาใจช่วยพี่น้องชาวไทยทุกท่านที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้ให้เอาตัวรอดปลอดภัยไปได้ สำหรับทรัพสินนั้นก็ขอให้เสียน้อยที่สุดเท่าที่จะเสียได้ โดยมุ่งรักษาชีวิตและความมั่นคงในอนาคตเป็นสำคัญ

ปัญหาน้ำท่วม

ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายภาคส่วน หลายจังหวัดในประเทศไทยตอนนี้เป็นปัญหาที่รุนแรงและจำเป็นต้องหาทางแก้ไขกันอย่างรวดเร็ว แต่แน่นอนว่าปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นในจุดใดจุดหนึ่งหรือทีละจุด แต่มันเกิดพร้อมๆกัน ดังนั้นการคาดหวังความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รัฐนั้นควรจะคิดเป็นอย่างหลัง ซึ่งในสถานะการณ์ที่จำเป็นต้องแก้ปัญหา เราจำเป็นต้องมุ่งไปที่ตัวปัญหา นั่นคือน้ำท่วม

น้ำท่วมแล้วจะแก้อย่างไร เช่นบ้านจมไปหมดแล้ว ณ จุดนี้ขอให้ทำใจให้สบาย นึกว่าต่อไปจะทำอย่างไรดี ดีกว่าที่จะคิดว่าจะเสียอะไรให้นึกว่าต่อไปแล้วเราเหลืออะไร แล้วจะได้อะไรได้บ้าง เพราะน้ำท่วมฝนแล้งนี่ต่อให้เป็นเทวดาผู้วิเศษมาจากไหน เป็นใครก็คงจะช่วยแก้ทันทีไม่ได้ ดังนั้นควรจะคิดต่อไปว่า หลังจากน้ำลดจะวางแผนอย่างไรดี เพราะน้ำท่วมครั้งนี้เป็นสัญญาณให้คนไทยเรารู้สึกตัวเสียทีว่าเรากำลังจะเผชิญกับอะไร เราควรป้องกันอย่างไร

ป้องกันน้ำท่วม

ผมเคยได้ยินว่าชาวไทยนั้นมี รูปแบบการป้องกันน้ำท่วมที่ดีอยู่แล้ว นั่นคือบ้านที่มีใต้ถุน แน่นอนว่าบ้านในสมัยนี้นั้นแทบจะไม่หลงเหลือเค้าโครงไทยอยู่แม้แต่น้อย เราใช้แบบบ้านสมัยใหม่ ซึ่งถ้าน้ำมันท่วม ก็โดนแน่นอนอย่างบ้านผมเองก็คงจะไม่รอดเหมือนกัน ปัญหาน้ำท่วมนั้นสร้างความเสียหายได้มากมายนัก ซึ่งขอบเขตความเสียหายนั้นก็จะใหญ่ และเกินจะควบคุมได้ เพราะปริมาณน้ำนั้นไม่ได้มาจากน้ำมือมนุษย์แต่มาจากธรรมชาติ

สำหรับการเกษตร ผมเคยได้ยินว่ามีข้าวที่ต้นยืดยาวได้ตามระดับน้ำ นั่นหมายถึงว่า มันจะเจอน้ำท่วมแค่ไหนมันก็จะรอดได้ แน่นอนว่าข้าวพันธุ์นี้ไม่ได้ถูกปลูกเท่าไรนักเพราะผมได้ยินว่ามันเป็นข้าวนาปี ปลูกได้ปีละครั้ง แต่จากประสบการณ์และความรู้ในการพัฒนาพันธุ์ทำให้ผมรู้ว่า มันสามารถเอามาผสมกับข้าวที่มีลักษณะเด่นอื่นๆให้มันดีขึ้นได้ ซึ่งเหมาะกับยุคแห่งหายนะนี้แน่นอน

ส่วนการใช้กระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมนั้นเป็นวิธีที่ดี แต่ผมเองก็ยังคิดว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แน่นอนว่ามันต้องใช้ แต่ถ้าหากเราไม่คิดนวัตกรรมเพื่อป้องกันน้ำท่วมใหม่ เราอาจจะลำบากตอนน้ำมาอีกทีก็ได้ เพราะกระสอบทรายเนี่ยมันก็ไม่ใช่ของที่จะหากันได้ง่ายๆ ตอนน้ำท่วมหรอกนะครับ เพราะใครๆก็ต้องการ ดังนั้น การป้องกันน่าจะมีทางอื่นที่เข้ามาเสริมด้วย

สาเหตุที่น้ำท่วม

เราอาจจะเห็นว่าฝนตกหนัก พายุพัดเข้าตลอดทำให้มีปริมาณน้ำฝนและน้ำในดินมากทำให้น้ำท่วม แต่นั่นเป็นแค่ผลกระทบปลายเหตุ ทำไมฝนจึงตก ทำไมจึงมีพายุ ทั้งๆที่เมื่อก่อนในภูมิภาคเราไม่ได้มีพายุบ่อยขนาดนี้

สิ่งที่ผมคิดอยู่ตอนนี้คือปัญหาโลกร้อน การตัดไม้ทำลายป่าทำลายสมดุลที่เคยมี แต่นั่นหมายถึงการเปลี่ยนแปลงสู่สมดุลใหม่ ที่ผมหมายถึงคือ สิ่งที่เราเจอกันอยู่ทุกวันนี้ พอถึงจุดหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่เกิดทุกปี ทุกเดือน หรือทุกวันก็เป็นได้ ซึ่งใครที่สามารถปรับตัวและปรับวิถีชีิวิตตามสภาพที่เปลี่ยนแปลงไปได้นี้ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าคนปรับเปลี่ยนไม่ได้ก็ลำบากหน่อย

ส่วนจะไปเรียกร้องให้ทุกคนรักโลก ดูแลโลก ผมว่าตอนนี้ไม่ทันแล้วแหละครับ ดอกผลแห่งเทคโนโลยีและความเจริญในอุตสาหกรรมกำลังย้อนกลับมาเล่นงานเรา ซึ่งมันก็รวดเร็วและถี่ขึ้นเรื่อยๆ ผมเองไม่สนใจว่าชาติไหนจะปล่อยสาร หรือก๊าซมากกว่ากันเพราะจริงๆแล้วเราก็ใช้อากาศเดียวกันทั้งโลก ดังนั้นการจะเกี่ยงว่าฉันทำฉันเก็บ เธอทำเธอเก็บก็คงจะเป็นเรื่องที่ไม่เป็นผลดีกับโลกนัก การปรับทัศนคติของคนหมู่มากนั้นยาก ดังนั้นปรับเปลี่ยนวิถีชีิวิตของตนเองรับกับสภาพที่เจอนั้นน่าจะง่ายกว่าเยอะ

สุดท้ายขออวยพรให้ทุกท่านโชคดีปลอดภัย

สวัสดี

ฟ้าฝนที่ไม่น่าไว้วางใจ

เมื่อคืนฝนตกลงมาอย่างหนัก และตกต่อเนื่องจนถึงตอนเช้า ผมตื่นมาพร้อมบรรยากาศชื้นๆ ไม่นานนัก แสงอาทิตย์เริ่มแรงขึ้นจนเป็นสัญญาณบอกให้…

ซักผ้า!

ครับเรื่องฟ้าฝนกับแดดแรงๆนี่คงจะไม่มีอะไรมากกว่าการซักผ้า เพราะผมตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะใช้ช่วงแดดดีๆนี่แหละซักพวกผ้าห่มและผ้าคลุมเตียง ซึ่งจะพยายามซักบ่อยๆเท่าที่มีโอกาส บางทีฝนตกติดต่อกันหลายวันก็ทำให้ลำบากเหมือนกันนะ

วันนี้แดดดีช่วงเช้าๆแต่พอเผลอเข้าฝนก็ตกหนักทันที แทบจะเก็บผ้าที่ตากไว้ไม่ทัน หลังจากฝนตกลงมาห่าใหญ่ก็เริ่มมีแดดอีกครั้ง ทำให้รู้ว่าแม้จะมีแดดก็ไม่น่าไว้วางใจ เพราะฝนตกตอนแดดออกได้เสมอ บางทีมองออกไปเห็นแต่ฟ้าไกลๆไม่ได้ดูฟ้าใกล้ๆว่ามีเมฆฝนลอยผ่านมาละนะ

ล่าสุดหลังจากชิงจังหวะแดดออกนำผ้าห่มไปตากได้หนึ่งแดดก็แห้่งแล้วครับ ส่วนผ้าอื่นๆยังต้องรอคิวต่อไปเพราะไม่แน่ใจว่าฝนจะตกลงมาอีกรึเปล่า เอาไว้วันไหนแดดดีๆฟ้าโปร่งๆค่อยซักแล้วกันนะ

สวัสดี

วันแดดดีอย่างนี้ต้องตากผ้า~

วันนี้เป็นวันที่แดดดี อากาศดี ผิดกับหลายๆวันที่ผ่านมา ที่มีแต่ฝนตกฟ้าครึ้ม และบรรยากาศที่หมองหม่น…

วันสดใสแบบนี้ ภารกิจที่สำคัญของผมจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกเสียจากว่าซักผ้าและตากผ้าให้ไวๆครับ เพราะแดดแรงๆแบบนี้ทำให้ผ้าแห้งไวปราศจากกลิ่นอับ ใส่แล้วรู้่สึกว่าสะอาดปลอดภัยจริงๆครับ และถ้าไม่ซักตากกันวันนี้ เดี๋ยวต่อไปจะไม่มีฟ้าสดใสมาให้ตากผ้ากันสักพักครับ เพราะดูพยากรณ์อากาศเมื่อวาน เขาบอกว่าลมฝน และฟ้าหม่นอาจจะกลับมาอีกครั้งเร็วๆนี้

ดังนั้น มีเวลาผ่านที่พอจะเก็บเกี่ยวช่วงเวลาแดดดีๆก็รีบตากผ้ากันไว้นะครับ

สวัสดี

จุ๊บนอนเข้ามุมโค้ง

ตอนนี้เป็นหน้าฝน ช่วงนี้ฝนเลยตกบ่อย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ฝนที่ตกบ่อยๆนี้ ทำให้แมวหมูตัวหนึ่งมีที่นอนที่น้อยลง

จากที่เคยไปนอนกลิ้งเล่นตามพุ่มไม้ได้ หรือไม่ก็ไปนอนบนเสาบ้านหรือไม่ก็นอนตามใต้รถที่จอดอยู่บนถนนต่างๆ ก็ทำไ่ม่ได้เสียแล้ว เพราะฝนที่ตกกระหน่ำลงมาทำให้พื้นเฉอะแฉะเกินกว่าจุ๊บจะรับได้

jub-circle-side-sleep

ดังนั้นถ้าหน้าฝนแบบนี้ก็จะรู้ได้เลยว่ามักจะเจอจุ๊บในที่เดิมๆซ้ำอยู่อย่างนั้น

วันนี้มันนอนซุกเข้ามุมของกะละมัง และขอบตู้ด้านใน ผมไปแหย่มันเล่นนิดหน่อยระหว่างแหย่ก็เดินไปทำอะไรในบ้านไปด้วย พบว่าแมวที่ตื่นแล้วมักจะไม่นอนท่าเดิม คือมันก็นอนอยู่ละนะแต่ก็เปลี่ยนท่าเปลี่ยนมุมไปเรื่อยๆ ถ้าผมไม่ไปปลุกมัน มันก็คงจะยังนอนอยู่ในแบบรูปด้านซ้ายบนนั่นเอง

จุ๊บชอบนอนแล้วมองว่่าผมจะทำอะไรมัน คล้ายๆกับว่ามันไม่ไว้วางใจก็ว่าได้ ผมชอบเล่นกับสายตาของมันซึ่งบางทีแมวแก่ๆตัวนี้ก็มักจะไม่หลงกลกับสิ่งที่เราเอาไปล่อตาล่อใจมันสักเท่าไหร่ นี่ถ้าเป็นแมวเด็กก็วิ่งตามมาแล้ว

ช่วงนี้จุ๊บดูสุขภาพดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นหน้าร้อนเยอะ ซึ่งดูได้จากพุงของมัน แต่หน้าของมันก็ไม่กลมเหมือนก่อน แต่ก็ยังถือว่ากลมอยู่เมื่อเทียบกับแมวตัวอื่นๆ

สวัสดี

จุ๊บนอนหลบฝนที่มีความหิวเป็นเพื่อน

จุ๊บนอนหลบฝนที่มีความหิวเป็นเพื่อน เป็นเรื่องของวันฝนตก กับแมวเหงาๆ หิวๆ ที่อยู่บ้านตัวเดียว

ผมกลับบ้านมาพร้อมกับสายฝนที่ซาๆ วันนี้เป็นวันที่ชุ่มชื้นมากๆ ฝนตกทั้งวัน เมื่อจอดรถเสร็จแล้วก็มองไปเห็นจุ๊บที่นั่งอยู่ตัวเดียว ที่เก้าอี้หวายซึ่งเป็นหนึ่งในที่นอนสุดโปรดของมัน แต่วันนี้ไม่ได้นอนเพลินเหมือนทุกวัน

จุ๊บนั่งมองเหมือนรอคอยใครสักคน นั่นอาจจะเป็นผมก็ได้ เพราะถ้ามีใครสักคนมาถึงบ้าน จุ๊บก็จะได้กินข้าว วันนี้ผมเทอาหารให้มันไปตอนเช้าและเทไม่เยอะมากเพราะคิดว่ายังไงเดี๋ยวนกพิราบก็มากินหมดก็เลยไม่ได้เทเผื่อมื้อเย็นไว้

cat-waiting-food

แมวหิืวตัวหนึ่งเมื่อเห็นเจ้าของเดินมาก็รีบลุกวิ่งเข้าใส่ทันที แถมเดินนำไปยังจานข้าว เหมือนจะบอกว่า “รออยู่นะ รีบๆเทอาหารได้แล้ว” เห็นจุ๊บตอนหิวนี่น่ารักผิดกับตอนปกติเลย เพราะว่ามันจะไม่ค่อยสนใจอะไรเวลามันไม่ได้หิว จะน่ารักก็สองเวลา นั่นคือเวลาตื่นกับเวลาหิว จะเล่นด้วยได้มากหน่อย

หลังจากนั้นก็เทอาหารให้มัน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นแล้ว ไม่มีนกพิราบมากินตอนเย็น เพราะฉะนั้นมื้อเย็นก็เลยเป็นมื้อที่จุ๊บกินได้มากที่สุดนั่นเอง

สวัสดี

จุ๊บที่กลัวฝน

การที่แมวกลัวฝนหรือกลัวน้ำก็ดูเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซึ่งจะสังเกตุได้ว่าเวลาฝนตกนั้น เราจะสามารถเจอจุ๊บได้รอบๆบ้าน…

วันนี้จุ๊บมาพร้อมเสียงเปิดประตูเข้าบ้านของแม่ วันนี้แม่กลับบ้านมาเร็วอาจเพราะพายุฝนก็เป็นได้ จุ๊บเป็นแมวที่เวลาได้ยินเสียงเปิดประตูบ้านก็จะวิ่งเข้าบ้าน เหมือนรู้ว่ามีเจ้าของมาให้อาหารแล้ว ถ้าไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้าบ้านก็จะไปเดินเล่นอยู่บ้านอื่นๆ…

หลังจากมันมาอ้อนแม่ แม่ก็เทอาหารให้มัน เพราะอาหารแมวมักจะหมดไปกับนกพิราบที่มาคอยกินอาหารแมวที่เททิ้งไว้ให้จุ๊บในช่วงสายๆ – บ่าย ถ้าหลังจากพระอาทิตย์ตกแล้วเทอาหารก็จะไม่มีใครมาแย่งจุ๊บกิน มันก็เลยกินอย่างสบายๆ

jub-runaway-from-rain-1

ถ่ายรูปดูจะเป็นการขัดจังหวะและขัดใจในการกินอาหารของแมวอยู่ไม่น้อย เพราะมันก็คงคิดว่ามาเล่นอะไรตอนกินกันเนี่ย

jub-runaway-from-rain-2

กินไปได้สักพักก็เดินไปแอบอิงขอบประตูบ้าน

jub-runaway-from-rain-3

ดูหน้าตรงกันชัดๆ จะเห็นได้ชัดว่าหูแหว่งไปข้างหนึ่ง เพราะไปทะเลาะกับใครหรืออะไรก็ไม่ทราบได้ จำได้แต่ตอนนั้นแผลมันเน่าหนองขึ้นก็เลย หยอดไฮโดรเจนเพอร์ออกไซ์ ที่ใช้กับแผลเน่าได้ แต่ผลคือทำลายเนื้อเยื่อไปบางส่วนด้วย เลยกลายเป็นแมวอิมบาล๊านขึ้นมาทันที แต่ก็ดูมันมีความสุขดี บางครั้งนั่งมองมันก็แอบอิจฉาความไม่ทุกข์ที่มันไม่เหมือนเรา มันไม่ต้องคิดอะไรให้ปวดหัวมากเหมือนเรา สำหรับเวลาที่เครียดๆก็อิจฉาแมวอยู่ไม่น้อย

jub-runaway-from-rain-4

วิ่งฝ่าฝนเข้าบ้านมาหลังเลยเปียกนิดหน่อย ดูแล้วฟูๆดี ตอนนี้จุ๊บผอมลงนิดหน่อย เพราะพุงย้วยๆไม่เต่งตึงเหมือนเดิม

ตอนนี้เหมือนจะมีหนูอยู่ในบ้านตัวหนึ่ง ผมพยายามให้จุ๊บเข้ามาในบ้านเพื่อหาสารอาหารกินด้วยตัวมันเอง หวังว่ามันคงจับหนูในบ้านได้ในเร็ววัน หรือที่หนูมาอยู่ในบ้านนั้น คงเป็นเพราะแมวมันอยูนอกบ้านนั่นเอง

สวัสดี

วันฝนตก จุ๊บขนฟู

สวัสดีครับ วันนี้เป็นอีกวันที่ฝนตก แต่มันจะดีมากถ้าตกเร็วกว่านี้ซัก 2 ชม…….

ผมตื่นเช้ามากับอากาศสดใสและแดดที่ส่องมาที่หัว เป็นวันที่ 3 หลังจากที่ได้นำม่านไปซัก และคาดว่าจะอีกหลายวันเพราะ ร้านที่เอาม่านไปซักบอกจะมากลางๆอาทิตย์ ตอนนี้ห้องสว่างสุดๆ อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน หลังจากตื่นไม่นานก็อาบน้ำปั่นจักรยานคันเก่าออกไป กินข้าวหน้าปากซอย ที่ห่างไปเกือบสองกิโล เพื่อกระเพราหมูกรอบ เวลา 10.30 ช่างเป็นเวลาที่คนน้อยจริงๆ แดดก็แรงพอสมควรเลย หลังจากกลับมาก็ซักผ้าเพราะเห็นว่าแดดแรงดี น่าจะแห้งไว ผมเลยจับผ้าห่มยัดใส่เครื่องซักผ้า แล้วมานั่งรอ

ไม่นานนักเมฆก็ครึ้มฟ้าครึ้มฝน เริ่มมีลมแรงพัดมา ใบไม้ปลิวว่อน เมื่อเช้ามีป้าที่ดูแลความสะอาดในซอย มากวาดใบไม้แถวบ้าน ตอนปั่นจักรยานกลับมาถนน ก็สะอาดดี แต่มาตอนนี้ใบไม้เต็มถนนอีกแล้ว และที่สำคัญ ผ้าห่มผมยังไม่แห้ง ฝนโปรยลงมาเหมือนตอกย้ำความสำเร็จ …. พรุ่งนี้คงต้องซักใหม่ เพราะคงจะมีกลิ่นอับ..ระหว่างเอาผ้าออกมาไปตากในห้อง ก็พบกับ…” จุ๊บ ”

จุ๊บเป็นแมวหนุ่มตัวอวบที่เลี้ยงมานานและยังคงลงหลักปักฐานอยู่บ้านนี้ไม่หนีไปไหน หรือในอีกทางหนึ่งคือไม่รู้จะไปที่ไหนดี ตอนที่ย้ายมาบ้านหลังนี้ผมนำจุ๊บกับ ” ตัวใหญ่ ” มาด้วย ตัวใหญ่เป็นแมวหนุ่มเข้าวัยแก่ แต่ก่อนตัวใหญ่ตอนนี้ตัวผอม ที่ได้ชื่อว่าตัวใหญ่เพราะในรุ่นเดียวกันที่เกิดมามันตัวใหญ่กว่าเพื่อนร่วมคอกสองเท่าได้ แต่นิสัยออกจะติ๊งต๊องไปหน่อย เทีบบรุ่นแล้วตัวใหญ่เป็นพี่จุ๊บประมาณ 3 คอกได้ ทั้งสองตัวเกิดมาจากแม่ตัวเดียวกัน ชื่อ” วิลลี่ ” ซึ่งคงจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวิลลี่ในภายหลังเพราะยาว มากกกกกกกกก

กลับมาที่เรื่องจุ๊บ ในวันนี้ฝนตก จุ๊บมาหลบฝนหลังบ้าน ในตะแกรงมีผ้าเก่าๆอยู่ จุ๊บมาหลบฝนในตะแกรงเก่าๆที่วางอยู่บนตู้กับข้าวเก่าๆที่ไม่ได้ใช้แล้ว ท่าทางเหมือนจะโดนน้ำมานิดหน่อย ขนเลยออกฟูๆเพราะมันสะบัด ดูแล้วน่ารักดีเลยถ่ายมาให้ดูกัน

 

จุ๊บ1

Continue reading วันฝนตก จุ๊บขนฟู