น้ำท่วม ปัญหาน้ำท่วมและสาเหตุน้ำท่วม

ก่อนอื่นก็ต้่องบอกกันเลยว่าสิ่งที่เห็นในตอนนี้ กับเหตุการณ์น้ำท่วมนั้นมีหลายความรู้สึกมากมายเหลือเกิน ซึ่งจะบอกว่ามันแย่มากก็คงจะใช่ แต่ชีวิตไม่ได้มีไว้ให้ล้ม ดังนั้นเราจึงต้องสู้กันต่อไป

ขอเอาใจช่วยพี่น้องชาวไทยทุกท่านที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้ให้เอาตัวรอดปลอดภัยไปได้ สำหรับทรัพสินนั้นก็ขอให้เสียน้อยที่สุดเท่าที่จะเสียได้ โดยมุ่งรักษาชีวิตและความมั่นคงในอนาคตเป็นสำคัญ

ปัญหาน้ำท่วม

ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายภาคส่วน หลายจังหวัดในประเทศไทยตอนนี้เป็นปัญหาที่รุนแรงและจำเป็นต้องหาทางแก้ไขกันอย่างรวดเร็ว แต่แน่นอนว่าปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นในจุดใดจุดหนึ่งหรือทีละจุด แต่มันเกิดพร้อมๆกัน ดังนั้นการคาดหวังความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รัฐนั้นควรจะคิดเป็นอย่างหลัง ซึ่งในสถานะการณ์ที่จำเป็นต้องแก้ปัญหา เราจำเป็นต้องมุ่งไปที่ตัวปัญหา นั่นคือน้ำท่วม

น้ำท่วมแล้วจะแก้อย่างไร เช่นบ้านจมไปหมดแล้ว ณ จุดนี้ขอให้ทำใจให้สบาย นึกว่าต่อไปจะทำอย่างไรดี ดีกว่าที่จะคิดว่าจะเสียอะไรให้นึกว่าต่อไปแล้วเราเหลืออะไร แล้วจะได้อะไรได้บ้าง เพราะน้ำท่วมฝนแล้งนี่ต่อให้เป็นเทวดาผู้วิเศษมาจากไหน เป็นใครก็คงจะช่วยแก้ทันทีไม่ได้ ดังนั้นควรจะคิดต่อไปว่า หลังจากน้ำลดจะวางแผนอย่างไรดี เพราะน้ำท่วมครั้งนี้เป็นสัญญาณให้คนไทยเรารู้สึกตัวเสียทีว่าเรากำลังจะเผชิญกับอะไร เราควรป้องกันอย่างไร

ป้องกันน้ำท่วม

ผมเคยได้ยินว่าชาวไทยนั้นมี รูปแบบการป้องกันน้ำท่วมที่ดีอยู่แล้ว นั่นคือบ้านที่มีใต้ถุน แน่นอนว่าบ้านในสมัยนี้นั้นแทบจะไม่หลงเหลือเค้าโครงไทยอยู่แม้แต่น้อย เราใช้แบบบ้านสมัยใหม่ ซึ่งถ้าน้ำมันท่วม ก็โดนแน่นอนอย่างบ้านผมเองก็คงจะไม่รอดเหมือนกัน ปัญหาน้ำท่วมนั้นสร้างความเสียหายได้มากมายนัก ซึ่งขอบเขตความเสียหายนั้นก็จะใหญ่ และเกินจะควบคุมได้ เพราะปริมาณน้ำนั้นไม่ได้มาจากน้ำมือมนุษย์แต่มาจากธรรมชาติ

สำหรับการเกษตร ผมเคยได้ยินว่ามีข้าวที่ต้นยืดยาวได้ตามระดับน้ำ นั่นหมายถึงว่า มันจะเจอน้ำท่วมแค่ไหนมันก็จะรอดได้ แน่นอนว่าข้าวพันธุ์นี้ไม่ได้ถูกปลูกเท่าไรนักเพราะผมได้ยินว่ามันเป็นข้าวนาปี ปลูกได้ปีละครั้ง แต่จากประสบการณ์และความรู้ในการพัฒนาพันธุ์ทำให้ผมรู้ว่า มันสามารถเอามาผสมกับข้าวที่มีลักษณะเด่นอื่นๆให้มันดีขึ้นได้ ซึ่งเหมาะกับยุคแห่งหายนะนี้แน่นอน

ส่วนการใช้กระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมนั้นเป็นวิธีที่ดี แต่ผมเองก็ยังคิดว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แน่นอนว่ามันต้องใช้ แต่ถ้าหากเราไม่คิดนวัตกรรมเพื่อป้องกันน้ำท่วมใหม่ เราอาจจะลำบากตอนน้ำมาอีกทีก็ได้ เพราะกระสอบทรายเนี่ยมันก็ไม่ใช่ของที่จะหากันได้ง่ายๆ ตอนน้ำท่วมหรอกนะครับ เพราะใครๆก็ต้องการ ดังนั้น การป้องกันน่าจะมีทางอื่นที่เข้ามาเสริมด้วย

สาเหตุที่น้ำท่วม

เราอาจจะเห็นว่าฝนตกหนัก พายุพัดเข้าตลอดทำให้มีปริมาณน้ำฝนและน้ำในดินมากทำให้น้ำท่วม แต่นั่นเป็นแค่ผลกระทบปลายเหตุ ทำไมฝนจึงตก ทำไมจึงมีพายุ ทั้งๆที่เมื่อก่อนในภูมิภาคเราไม่ได้มีพายุบ่อยขนาดนี้

สิ่งที่ผมคิดอยู่ตอนนี้คือปัญหาโลกร้อน การตัดไม้ทำลายป่าทำลายสมดุลที่เคยมี แต่นั่นหมายถึงการเปลี่ยนแปลงสู่สมดุลใหม่ ที่ผมหมายถึงคือ สิ่งที่เราเจอกันอยู่ทุกวันนี้ พอถึงจุดหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่เกิดทุกปี ทุกเดือน หรือทุกวันก็เป็นได้ ซึ่งใครที่สามารถปรับตัวและปรับวิถีชีิวิตตามสภาพที่เปลี่ยนแปลงไปได้นี้ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าคนปรับเปลี่ยนไม่ได้ก็ลำบากหน่อย

ส่วนจะไปเรียกร้องให้ทุกคนรักโลก ดูแลโลก ผมว่าตอนนี้ไม่ทันแล้วแหละครับ ดอกผลแห่งเทคโนโลยีและความเจริญในอุตสาหกรรมกำลังย้อนกลับมาเล่นงานเรา ซึ่งมันก็รวดเร็วและถี่ขึ้นเรื่อยๆ ผมเองไม่สนใจว่าชาติไหนจะปล่อยสาร หรือก๊าซมากกว่ากันเพราะจริงๆแล้วเราก็ใช้อากาศเดียวกันทั้งโลก ดังนั้นการจะเกี่ยงว่าฉันทำฉันเก็บ เธอทำเธอเก็บก็คงจะเป็นเรื่องที่ไม่เป็นผลดีกับโลกนัก การปรับทัศนคติของคนหมู่มากนั้นยาก ดังนั้นปรับเปลี่ยนวิถีชีิวิตของตนเองรับกับสภาพที่เจอนั้นน่าจะง่ายกว่าเยอะ

สุดท้ายขออวยพรให้ทุกท่านโชคดีปลอดภัย

สวัสดี

ลูกแมวกลางถนน

เป็นเรื่องราวแปลกๆที่ไม่คิดว่าจะเกิดได้ และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต่อไปลูกแมวสีดำที่ผมเจอกลางถนนตัวนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป…

เมื่อวันก่อนผมเจอเรื่องราวแปลกเรื่องหนึ่ง ที่ไม่น่าจะเกิดได้บ่อยนัก มันเป็นความบังเอิญในจังหวะที่ลงตัวมากๆ

บ่ายวันเสาร์ผมขับรถออกจากบ้าน…

ผมขับวนออกจากบ้านโดยใช้เส้นทางเลียบทางด่วนรามอินทรา เอกมัย มุ่งหน้าไปยังเหม่งจ๋าย หลังจากที่กลับรถใกล้เกษตรนวมินทร์แล้ว ก็มาถึงช่วงที่รถจะติดนิดหน่อย เพราะว่าจะมีรถออกจากถนนทางลัดด้านซ้ายที่มาจากเกษตรนวมินทร์ ใครอยู่ใกล้ๆคงจะนึกภาพกันออก พอมาถึงจุดที่รถชะลอตัว ผมก็รู้สึกว่ามันชะลอกันแปลกๆ

รถสิบล้อที่อยู่ด้านขวาของผมหยุดนิ่ง สายตาผมมองไปถึงสาเหตุในการหยุดรถ มีลูกแมวสีดำอยู่กลางถนน (น่าจะอายุประมาณ 3-6 เดือน) ซึ่งอยู่ในเลนรถที่ 2 จากขวา มันมาถึงเลนนี้ได้อย่างไรก็ไม่รู้เหมือนกัน รถคันหนึ่งขับผ่านไปอย่างไม่ได้สนใจลูกแมว ลูกแมววิ่งสวนเข้าใต้ท้องรถ ขณะรถคันดังกล่าวขับผ่านไปด้วยความเร็วไม่มากนัก แต่ถ้าพลาดไปคงถึงชีวิต

เป็นเรื่องน่าตกใจที่ลูกแมวตัวสีดำ ตัวนั้นรอดจากการที่รถคันหนึ่งขับผ่าน จริงๆแล้วมันคงจะรอดมาหลายครั้งแล้วด้วย แต่นั่นคืออดีตก่อนที่มันจะมาอยู่กลางถนน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะรอดตลอดไป….

หลังจากที่รถเก๋งขับผ่านไปแล้ว ผมได้ตัดสินใจในวินาทีแห่งชีวิตแมว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ผมขับปาดไปบังหน้าสิบล้อที่กำลังหยุดดูเหตุการณ์ เปิดไฟฉุกเฉิน แล้วเปิดประตูลงมา ในใจคิดว่าจะเอาลูกแมวขึ้นรถให้ได้ก่อนเท่านั้น แต่ด้วยประสบการณ์ของผม การจับแมวที่ตกใจอยู่นั้นเป็นเรื่องยากมาก เพราะถ้ามันตกใจแล้ว มันอาจจะวิ่งไปให้รถเหยียบก็ได้

ณ ตอนนี้รถทุกเลนหยุดนิ่งทั้งหมด ผมเปิดประตูลงไปเพื่อที่จะจับลูกแมว เดินเ้ข้าไปอย่างช้าๆ เพื่อไม่ให้มันตกใจ (จริงๆมันก็ตกใจมากอยู่แล้วละนะ) จังหวะัที่ลูกแมวหันหลังไปผมก็เดินเข้าไปตะครุบตัวมัน ด้วยสองมืออย่างระมัดระวัง…

ผมจับลูกแมวสีดำตัวนั้นไว้ได้ แต่จับได้ไม่เต็มมือเท่าไหร่ เพราะจับตอนจังหวะมันเดิน และสุดท้ายมันก็วิ่งพุ่งไปข้างหน้าด้วยความตกใจอย่างที่คาดไว้ ทิศทางที่มันวิ่งไปคือใต้ท้องรถแทกซี่ที่จอดดูอยู่เลนขวาสุด และวิ่งทะลุไปจนถึงเกาะกลางถนน ซึ่งเป็นพื้นที่ใต้ทางด่วนที่กว้างใหญ่มากๆ ผมเองเห็นอย่างนั้นก็คงหมดหวังที่จะตามไปจับ แต่ก็สบายใจที่มันไปถึงใต้ทางด่วนได้ เพราะอย่างน้อยก็มีที่กว้างพอให้ดำรงชีวิตได้สักพัก ถ้าข้ามถนนกลับมาตอนเช้าๆ รถน้อยๆ ก็คงจะข้ามกลับไปได้สักฝั่งหนึ่งที่เหลือก็คงจะเป็นชะตากรรมของมัน…ลูกแมวสีดำกลางถนน

หลังจากนั้นผมก็ขึ้นรถ และพี่แทกซี่แกก็ลงมาดูว่าแมวเข้าใต้ท้องรถแล้วไปไหนแล้ว ผมก็ส่งสัญญาณบอกว่ามันวิ่งไปที่ใต้ทางด่วนแล้ว จึงออกรถเดินทางไปยังจุดหมายเดิมที่วางไว้ต่อไป

เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ

หลังจากวันเกิดเหตุผมก็ขับผ่านถนนเส้นเดิม มุมเดิมอีกครั้งในใจภาวนาว่าอย่าเป็นซากอะไรสีดำๆบนถนนเลย และมันก็ไม่มีจริงๆ อย่างน้อยผมก็คิดว่าลูกแมวสีดำตัวนั้นมันยังไม่ถึงเวลาของมัน เป็นความบังเอิญมากๆที่มันรอดไปได้ ไม่รู้ว่าจะมีหมาแมวสักกี่ตัวที่เอาชีวิตมาทิ้งในการข้ามถนน เรามักจะเห็นซากหมาแมวตายตามถนนเป็นประจำ ซึ่งพวกมันคงจะไม่ได้ดวงดีรอดไปเสียทุกครั้ง ครั้งใดที่พลาดก็คงหมดทางแก้ตัว

เรื่องดวงดี ดวงไม่ดีนี่ก็เป็นความบังเอิญที่เกินจะคาดเดาได้เสมอ เพราะแม้แต่นกที่บินได้ก็ยังมาตายแบบแบนๆกลางถนนเลย เพราะวันนี้ผมเห็นซากนกพิราบ บนถนนใน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แน่นอนว่าในมหาวิทยาลัยนั้น เราจะขับรถกันไม่เร็ว แต่ถ้านกโดนทับตายได้มันก็เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ…

สวัสดี