MonkiezGrove before 5th

ใกล้จะปีใหม่ ใกล้จะปีหน้า ใกล้จะครบรอบ 5 ปี มังกีซ์โกรฟกันอีกครั้ง ช่วงปีที่ 4 ถึงปีที่ 5 มานี้นั้น แทบจะเรียกได้ว่าไร้กิจกรรมใดๆกันเลยทีเดียว

เนื่องจากช่วงต้นปี 2555 ผมติดเรียน ค่อนข้างยุ่งมากจนกระทั่งกลางปีก็ยังไม่ลงตัวเท่าไรนัก พอปลายปีก็มีโปรเจคของ AIRA Garden เข้ามาอีก กว่าจะออกแบบกว่าจะทำเสร็จก็กินเวลากันเกือบ 3 เดือน ยังดีที่มีเวลาให้พอจินตนาการวาดรูปลงที่ MonkiezGrove Cartoon Book (facebook) กันบ้าง ทำให้ผู้สนใจหรือแฟนๆของมังกีซ์โกรฟพอหายคิดถึงกันได้บ้าง

MonkiezGrove ก่อนจะเข้าสู่ปีที่ 5

ก่อนจะเข้าสู่ปีที่ 5 นี้ก็ต้องยอมรับกันก่อนเลยว่าช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมานั้นแทบจะว่างเปล่า แต่ก่อนจะสิ้นปีนี้ ผมจะปรับปรุงเว็บไซต์มังกีซ์โกรฟอีกครั้ง เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ที่ปรับปรุงเพราะว่าจะทำให้มันใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิมอีก ง่ายขึ้นกว่าเดิมมากๆ ง่ายทั้งคนดูและคนเขียน เพราะก่อนหน้านี้บอกตรงๆ เลยว่าทักษะเขียนเว็บไซต์นั้นค่อนข้างจะน้อย แต่ตอนนี้ก็พัฒนามาอยู่ในขั้นที่พอจะใช้งานได้นานและไม่ปรับเปลี่ยนกันบ่อยๆ และคิดว่าในปี 5 นี่แหละ ที่จะเป็นปีที่ได้มีโอกาสสร้างผลงานมากมายออกมาให้ทุกท่านชม ติดตามกันต่อไปนะครับ

MonkiezGroveMonkiezGrove Cartoon Book

Social network ที่เข้ามาช่วยให้หลายๆท่านสร้างเครือข่ายโดยไม่ต้องมีเว็บไซต์ให้ยุ่งยาก มังกีซ์โกรฟเองก็เช่นกัน หากเป็นช่องทางหนึ่งที่เราจะได้พบกับผู้ที่สนใจงานของเรา เราก็จะสร้างมันขึ้นมา

MonkiezGrove Cartoon Book

ปัจจุบันมังกีซ์โกรฟ มีแฟนเพจอยู่ประมาณ 700 ท่าน แม้จะเพิ่มขึ้นไม่มากมายจนผิดหูผิดตา แต่เราก็ยังดีใจทุกครั้งที่ผลงานของเราที่สร้างนั้น ได้ทำให้แฟนเพจหลายๆท่านมีความสุขที่ได้พบเห็นงานน่ารักๆของเรา ซึ่งผลงานของมังกีซ์โกรฟนั้นก็จะเน้นไปในทางน่ารักสดใส และเชิงสร้างสรรค์ เพราะต้องการจะแบ่งปันภาพสวยๆ อารมณ์ดีๆ แก่ผู้รับชม

สำหรับผู้สนใจที่ยังไม่เคยเข้าไปดู MonkiezGrove Cartoon Book ก็เข้าไปแวะชมได้ใน MonkiezGrove Cartoon Book (https://www.facebook.com/monkiezgrovecartoon) ถ้าท่านใดมีบัญชีของเฟสบุคก็สามารถติดตาม like&share ได้ตามอัธยาสัย

ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนถึงทุกวันนี้

สวัสดี

ปริมาณงานตามพื้นที่หน้าจอ

เวลาที่ผมมีงานหรือมีโปรเจคเข้ามา ก็มักจะบันทึกงานไว้หน้า Desktop ครับ ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาทำอย่างไรนะ แต่ผมชอบไว้ตรงนี้ มันเห็นง่ายดี

แต่เวลามีหลายๆงานเข้ามารุมล้อมกัน บางทีมันก็จะเคลียไม่ค่อยทัน นั่นคืองานมันซ้อนกันหลายงานนั่นแหละครับ ทีนี้พองานเยอะๆเข้าชักจะกินที่ของหน้าจอไปเรื่อยๆละซิ สิ่งนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าผมจำเป็นต้องรีบเคลียงานนะ!!

เมื่องานชักจะเยอะ หน้าจอก็เริ่มรกไปเรื่อยๆ
เมื่องานชักจะเยอะ หน้าจอก็เริ่มรกไปเรื่อยๆ

จริงๆเรื่องงานถ้ามันง่ายขนาดคิดก็เสร็จนี่มันคงจะไม่ยากลำบากชีวิตอะไรนัก เพราะงานของผมมักจะขึ้นกับลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งหัวหน้าผมก็คือผมเอง ดังนั้นคนที่ตัดสินใจให้งานผ่านก็เหลือแค่ลูกค้าครับ ซึ่งบางทีอาจจะต้องมีรอตรวจงานกันนิดหน่อยก่อนจะส่งมอบงานสุดท้ายไป

ซึ่งบางทีพอชนกันหลายๆงาน มันก็ติดอยู่หน้าจอหลายงานครับ บางทีก็ทำให้สับสนอยู่เหมือนกัน ซึ่งนิสัยผมจะยังไม่เคลียงานที่ยังไม่เสร็จครับ คือจะปล่อยไว้หน้าจออย่างนั้นจนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ซึ่งอย่างทีรู้ๆกัน งานวีดีโอ งานอนิเมชั่น มันไฟด์ Output ค่อนข้างจะเยอะ บางทีถ้าไฟด์มันเยอะนักผมก็จะเอาไปเก็บในแฟ้มครับ ซึ่งก็อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่ตอนเรียกใช้ละนะ…

หลังจากจัดการงานที่สุมอยู่เสร็จ หน้าจอก็โล่ง
หลังจากจัดการงานที่สุมอยู่เสร็จ หน้าจอก็โล่ง

พองานเสร็จทุกอย่างจะโล่งมากๆ ผมมักตั้งหน้าจอไว้ที่สีดำเพื่อเป็นการประหยัดไฟ (คิดว่าอย่างนั้นนะ) ถ้างานเสร็จเร็วเท่าไหร่หน้าจอก็ยิ่งจะโล่ง ไฟก็จะยิ่งประหยัด ปัจจุบันผมยังใช้จอ CRT อยู่เลยครับ เพราะมันสามารถซื้อจอใหญ่ได้ในราคาเล็กๆ แต่ตอนนี้เริ่มไม่มั่นใจแล้วครับ คิดว่าถ้าจอนี้เสียอาจจะซื้อจอใหม่เป็น LCD หรือเทคโนโลยีอื่นที่ดีกว่าแทน เพราะจออันนี้ผมซื้อมาใช้ก็สี่ปีกว่าแล้วครับ (ซื้อจอมือสองมาใช้)

สวัสดี