วันฟ้าใสที่ใครหลายคนรอคอย

วันนี้เป็นอีกวันที่ฟ้าใสมากๆ หลังจากที่ช่วงอาทิตย์ก่อนหรือเดือนก่อนที่ผ่านมานั้น ฝนกระหน่ำตกทุกวัน เช้า เย็น ค่ำ ไม่เคยปล่อยให้ฟ้าใสเหมือนวันนี้

วันนี้เป็นอีกวันที่ฟ้าใส ซึ่งเมื่อผมเห็นฟ้าใสๆแบบนี้ก็คิดอย่างเดียวเลยว่าต้องตากผ้า ผ้าที่แห้งภายใต้ไอแดดนี้ จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆของผงซักฟอก และความอบอุ่นของแสงอาทิตย์อยู่ ซึ่งผมชอบมากๆเลยทีเดียว และเชื่อว่าใครๆก็ชอบตากผ้าภายใต้ฟ้าที่ไร้เมฆแบบนี้

วันฟ้าใสที่ใครหลายคนรอคอย
วันฟ้าใสที่ใครหลายคนรอคอย

เป็นมุมมองที่ผมถ่ายรูปไว้ให้เห็นว่า ไม่มีเมฆบนฟ้าเลยแม้แต่ก้อนเดียว แน่นอนว่านี่คือมุมมองเดียวที่เห็น และแม้ว่าจะมองไปรอบๆก็เห็นเมฆบางตา และเมฆไกลๆที่รู้ว่ายังไงก็ไม่ใช่เมฆฝนอย่างแน่นอน ผมหวังว่าฟ้าแบบนี้จะเป็นแบบนี้ต่อไปจนกว่าผ้าของผมจะแห้ง…

สวัสดี

เรื่องเล่าจากเช้าที่ท่าพระจันทร์

เป็นเรื่องเล่าจากเช้าเมื่อวาน เป็นเช้าที่ไม่เหมือนเช้าอื่น เพราะเช้านี้ผมไม่ได้อยู่ที่บ้าน แต่อยู่ที่ท่าพระจันทร์…

เริ่มต้นจากหลายวันก่อนผมได้ลงสมัครสัมมนา กับรายการเถ้าแก่ ในตอนที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจออนไลน์ งานจะจัดเมื่อเวลา 9.30 วันพฤหัส และเนื่องจากที่มันเป็นวันธรรมดาเวลาเช้า สำหรับผมแล้วซึ่งไม่ได้ออกไปไหนเวลานี้ทำให้ต้องมีการเตรียมตัวกันไม่น้อยทีเดียว

เริ่มจากการตื่นเช้าไปจอดรถที่หมอชิต ตื่นเช้าไปจอดของผมนี่ต้อง ตี 5 เลย เพราะอยากได้ที่จอดใกล้ๆ และที่จอดแบบไม่มีรถมาจอดขวาง เวลาจะออก สัมมนาวันนี้เลิก 5 โมงแต่ผมก็คงจะต้องเลิกก่อนเพื่อเดินทางกลับไปเรียน ดังนั้นที่จอดที่ออกง่ายและสะดวกน่าจะเหมาะสมที่สุดเพราะเวลา ที่ผมคิดว่าจะกลับมาุถึงหมอชิตน่าจะสี่โมงครึ่ง ที่จอดน่าจะยังเต็มอยู่ ก็เลยจอดใกล้ๆทางออกนั่นแหละ มาเช้าเลือกจอดที่ไหนก็ได้ มันง่ายดี

หลังจากจอดรถก็ขึ้นรถเมล์ไปธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ เพราะว่าเขาจัดสัมมนากันในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั่นเอง เมื่อมาถึงก็มาเช้าก่อนเวลาไปมากสักหน่อย แต่คิดเอาไว้แล้วก็เลยหอบงานมานั่งทำรอสัมมนาด้วย แต่ตอนนี้ก็เวลาเช้าเหลือเกิน เพิ่งจะ 7 โมง สัมมนาเริ่มตอน 9.30 เลยไปเดินหาอะไรกินก่อน

หลังจากเดินไปมาแถวท่าพระจันทร์ ดูว่ามีอะไรให้เลือกกินบ้าง ก็ตัดสินใจกินโจ๊กหน้าท่าพระัจันทร์เลย ซึ่งโจ๊กร้านนี้ มีแม่เป็นคนทำและลูกชายลูกสาวอยู่ช่วย ผมเดินไปสั่งโจ๊กใส่ทุกอย่าง+ไข่ด้วย เพื่อเป็นอาหารในเช้าวันนี้ ซึ่งหลังจากนั่งก็มีลูกสาวร้านโจ๊ก วัยดูๆแล้วก็น่าจะประมาณ 4-6 ขวบเดินมาถามว่ารับน้ำอะไร

เด็กน้่อยพูดด้วยเสียงใสๆ แววตาเหมือนบอกว่าให้สั่งน้ำเถอะๆ ผมก็เลยสั่งน้ำเปล่าไปขวดหนึ่ง ตอนแรกบอกเด็กว่าเอาแค่แก้วเปล่าไม่ใส่น้ำแข็ง แต่เด็กน้อยทำหน้างงเหมือนผิดบท ก็เลยให้ใส่น้ำแข็งเหมือนเคยๆไป ไม่นานนักโจ๊กก็มาเสริฟและเ็ด็กสาวก็เดินเอาแก้วใส่น้ำแข็ง และน้ำเปล่ามาให้หนึ่งขวดพร้อมส่งยิ้มบอกว่า “น้ำค่ะ”

เป็นบริการยามเช้าที่ดูสดใสจริงๆ เช้าๆตื่นมาทุกคนก็คงอยากเห็นอะไรดีๆแจ่มใส ไม่หม่นหมอง และสิ่งที่ผมเจอก็เป็นความรู้สึกที่สดใสทีเดียว

หลังจากกินเสร็จจ่ายเงินแล้วก็เดินไปหาอะไรกินต่อ จริงๆก็มองก่อนจะมากินโจ๊กแล้วนั่นคือน้ำเต้าหู้ ปัญหาคือน้ำเต้าหู้เนี่ยพอคิดไปแล้วซื้อมาจะกินยังไงละ ถือถุงเดินดูดกินหรอ หรือว่าต้องไปหาแก้วมากิน ที่นั่งก็ไม่มี มองๆไปก็เหลือบไปเห็น “ใส่แก้ว 8 บาท” ครับ ร้านที่ผมสนใจและเดินเข้าไปซื้อมีแก้วด้วย เป็นแก้วกระดาษใส่น้ำเต้าหู้ให้ลูกค้าที่ไม่ค่อยสะดวกแต่อยากกินได้กินน้ำเต้าหู้ นี่คือสิ่งที่ผมประทับใจว่าทำไมเรื่องง่ายๆเราต้องทำให้ยากด้วย อยากกินแต่ไม่สะดวกก็แค่มีแก้ว ปกติผมซื้อน้ำเต้าหู้สมัยก่อนๆก็จะมีแต่ใส่ถุง พอมาเจอใส่แก้วนี่รู้สึกดีอย่างประหลาด

เพราะวันนี้นอกจากดูรีบๆยุ่งๆแล้ว ยังจะไม่สะดวกอีกต่างหาก การซื้อน้ำเต้าหู้ใส่แก้วกินเลยดูเป็นเรื่องธรรมดาที่มาแก้ปัญหาในเรื่องธรรมดาของคนอยากกินน้ำเต้าหู้แต่ไม่มีปัญญานั่นเอง

หลังจากนั้นก็เดินเข้าธรรมศาสตร์ไปหามุมสงบๆ เย็นๆ หน่อย นั่งทำงานต่อรอจนถึงเวลาสัมมนารอบเช้าของวันนี้…

สวัสดี

เช้าแมวหาว

วันนี้เป็นวันที่ผมตื่นเช้า และเช้ามากกว่าทุกวัน เป็นเช้าที่แสงอาทิตย์ยังสาดเข้ามาในมุมประมาณ 30 – 40 องศา ได้ และเช้านี้ก็เป็นเช้าที่ผมตื่นก่อนจุ๊บ

จุ๊บที่นอนอยู่บนเสาต้นโปรด ผมก็ไม่รู้ว่าเสาต้นนี้มันมีดีอะไร จริงๆเสาแบบนี้ก็มีอีกหลายเสา จริงๆอีกทีก็คือผมอาจจะไม่ได้ตามไปดูทุกเสาก็เป็นได้ เอาเป็นว่าจุ๊บชอบนอนบนเสา

morning-cat-2

แสงแดดสีเหลืองทองที่ส่องลงกระทบขนแมว ดูแล้วรู้สึกว่าวันนี้น่าจะเป็นวันที่ดี วันที่สดใส เพราะแมวก็ยังนอนสบายแม้ว่าพระอาทิตย์ขึ้นแล้วก็ตาม ยังไง ยังไง ก็คิดว่าวันนี้คงจะเป็นวันที่ฝนไม่ตกอย่างแน่นอน อย่างน้อยๆก็เช้าถึงเที่ยงละนะ

morning-cat

รูปแมวหาวที่ทำหน้าตามึนๆ จุ๊บยังไม่ตื่นจากหลับลึกเลยครับ อาการก็งัวเงียตามประสาแมวแก่ๆง่วงๆตัวหนึ่งหลังจากผมถ่ายรูปและปลุกมันมันโดยไม่ได้ตั้งใจแล้วนั้น มันก็ตื่นขึ้นมาหาวและมองผม แล้วก็นอนต่อ…

…ประมาณว่าขออีก 5 นาทีเราๆนั่นเอง เวลาแมวมันนอนกลางวันจะไม่มีอาการแบบนี้ เพราะถ้าปลุกแล้วก็จะขี้เกียจนอน หนีไปที่อื่น เดินเข้ามาขออาหาร หรือไม่ก็ลืมตามองเฉยๆ แต่อันนี้แมวที่เพิ่งตื่นเช้าทำให้มีอาหารแมวหาวง่วงอย่างที่เห็นนี่แหละ

ในวันที่ถ่ายสองรูปนี้ออกมาเป็นวันที่สดใสจริงๆ สำหรับผมแล้วนั้นการได้เห็น หรือได้รับรู้สิ่งดีๆ ตั้งแต่ตอนเช้าก็สามารถทำให้ทั้งวันดีขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาดใจ

สวัสดี

จุ๊บเช้านี้

จุ๊บเช้านี้ เป็นอีกวันที่มันจะชอบมานอนรอหน้าประตูบ้าน และเมื่อเปิดประตูไป บานประตูก็จะไปถูไถกับพุงอ้วนๆ ที่มีขนฟูๆของมัน

วันนี้จุ๊บรออยู่หน้าประตูเหมือนเดิม ผมเปิดประตูไปครึ่งหนึ่ง แล้วหยุดอยู่ที่กลางตัวมัน หวังว่ามันจะลุกออกไปเอง แต่วันไม่เป็นอย่างที่หวังไว้ มันก็ยังนั่งอยู่อย่างนั้น อยู่อย่างที่ประตูพาดผ่านหลังแมวหมู ดูแล้วนึกขำในใจ เราจะมาดูอาการของมันกัน

หลังจากมันถอยมาแล้วผมก็ไปเก็บของที่รถ และมองดูอาการของมันไปด้วยในเวลาเดียวกับ ภาพที่ปรากฏคือแมวที่เพิ่งตื่นสามารถหิวได้ทันที มันลุกขึ้นมาพร้อมเลียปาก แสดงอาการเตรียมพร้อมที่จะกินอย่างเต็มที่ทีเดียว

jub-morning-meal

สุดท้ายพอเก็บของเสร็จก็ไปเท อาหารเช้าให้แมวที่หิวโหยเป็นพิเศษได้กินกัน

สวัสดี

อรุณสวัสดิ์แมวหมู

เมื่อวานก่อนตื่นนอนลงไปดูบอนสีตามปกติ และก็พบจุ๊บตามปกติ…

ผมนั่งลงบนเก้าอี้ไม้เล็กๆตัวใหม่ที่แม่ซื้อมาให้ ดูๆแล้วเหมือนเก้าอี้ซักผ้า แต่มันก็นั่งสบายกว่าเก้าอี้พลาสติก อาจจะเพราะมั่นใจว่ามันจะไม่หัก.. จุ๊บนอนอยู่ข้างหลังผม บนตู้ที่ใช้เก็บของ ตื่นมาอย่างงัวเงียและกระโดดลงมาเดินผ่านผมไป

จุ๊บไปหยุดอยู่กลางทาง หันมามองหน้าผมแล้วร้อง “เหมียว” เป็นสัญญาณว่า ไปให้ทำหน้าที่ได้แล้ว นั่นคือให้อาหารมันนั่นเอง จริงๆมันแสนรู้ขนาดนี้แล้วก็น่าจะเปิดถุงอาหารเองได้แล้วนะ แต่มันอาจจะขี้เกียจก็ได้ หรือไม่ก็เป็นแมวมารยาทดี

ผมเดินผ่านในบ้านไปเพื่อเปิดประตูหน้าบ้านที่ยังลงกลอนไว้อยู่ และเมื่อเปิดออกมาก็จะพบกับจุ๊บ ซึ่งภาพแบบนี้เป็นเหตุการณ์ที่เดาได้ง่ายสุดๆว่าจุ๊บจะมารอ ณ จุดนี้ ซึ่งมันก็คงรู้เหมือนกันว่าผมคงจะเดินมาเปิดประตูแน่นอน

jub-cat-wait-fish

นี่คือภาพแมวจุ๊บกับจานอาหารที่ว่างเปล่า ที่บ้านผมใช้จานสแตนเลส ซึ่งมีอยู่ใบเดียวที่ซื้อมาสำหรับแมวโดยตรงกันเลยทีเดียว เพราะเคยใช้ชามพลาสติกแล้วมันเสื่อมสภาพและพังไวมากๆจะไม่เปลี่ยนมันก็ไม่ดี ก็เลยใช้จานแบบนี้มาเกือบ 10 ปีแล้ว

แถมท้ายด้วยคลิปวีดีโอจุ๊บ โชว์โหม่งประตู และเลียปากแพล่บ ๆ ( อาการเห็นหน้าผมแล้วหวังว่าจะได้กินปลาทู )