ความเข้ากันดีในสาขาอาชีพ และกิจกรรมประจำวัน

วันนี้ระหว่างกำลังจัดต้นไม้หน้าบ้าน ให้มันเป็นระเบียบมากขึ้นโดยการย้ายกระถาง ใส่รวมกันในกระถางใหญ่กระถางเดียวนั้น ก็มีผู้ใหญ่ในหมู่บ้านมาทักทาย

คำถามที่น่าสนใจคือผมจบเกษตร มาหรือปล่าว? นั่นหมายถึงจบเกษตรกรรมนะครับ เพราะผมอาจจะดูจริงจังกับต้นไม้มากก็ได้ ภาพที่เห็นเลยเป็นอย่างนั้น ก็ตอบลุงแกไปว่าเรียนบริหารครับ แกก็บอกว่าดูไม่ค่อยเข้ากันอะไรประมาณนี้ครับ

ความไม่เข้ากัน…

ก็จริงอยู่นะ ชีวิตผมทำอะไรหลายๆอย่างที่ไม่ค่อยเข้ากัน ในสายตาคนอื่น ซึ่งปัจจุบัน ทักษะของผมนั้นหลากหลายจนเกินจะบอกว่าแท้จริงแล้ว ผมเก่งอะไรกันแน่ ผมวิจัยต้นไม้เป็นส่วนตัว ผมเรียนศิลปะ ผมทำอนิเมชั่น ผมทำเว็บไซต์ ผมพิมพ์บทความมากมาย นั่นคือสิ่งที่ผมทำได้ และแน่นอนว่าวิชาบริหารที่ผมเรียนนั้นก็จะมาช่วยให้ทุกอย่างเข้ากันดีมากขึ้น

ทุกอย่างเหมือนส่วนผสมที่ไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ แต่ก็จะพยายามนำมาปรุงให้ได้ แน่นอนว่าถ้าเมนูนี้ออกมามันต้องเป็นเมนูใหม่ของโลกอย่างแน่นอน ดังนั้นผมคิดว่าผมควรจะทำมันต่อไป

การสร้างความถนัดเฉพาะด้าน?

คงจะดีถ้าผมเก่งอะไรจริงจังสักอย่างหนึ่ง ก็คงจะพูดให้ใครๆเขาเข้าใจได้ง่ายว่าผมนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ตัวผมเองไม่ได้ต้องการ ความถนัดเฉพาะด้านคือสิ่งที่สังคมต้องการ เขาต้องการให้เราเป็นแรงงานในส่วนใดส่วนหนึ่งและผลักดันสังคมไป …แต่ปัญหาคือไปในทิศทางไหน?

ผมเองคิดว่าตนเองนั้นไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงานให้กับใครคนใดคนหนึ่ง ผมไม่อยากเป็นคนที่ทำงานให้ครอบครัวๆหนึ่งรวย แล้วใช้ชีวิตไปแบบที่สังคมเป็น นั่นคือผมไม่ได้คิดว่าตนเองนั้นเป็นฟันเฟืองในสังคมที่กำลังขับเคลื่อนอยู่แม้แต่น้อย ผมเกิดมาทำไม เพื่ออะไร ผมจำเป็นต้องหาคำตอบนี้ด้วยตนเอง แต่ที่ผมรู้แน่ๆแล้วนั่นคือ ผมไม่ได้เกิดมาแล้วตายไปแบบหนุ่มออฟฟิศแน่นอน ที่บอกนี่ไม่ได้หมายความว่าผมมองมันไม่ดี แต่ผมแค่มองว่ามันดูไม่เข้ากับตัวเองเท่านั้นเอง

และเมื่อเกิดความคิดแบบนั้น ผมจึงเลือกเดินหนทาง อาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ ( Freelance ) นั่นก็เพื่อตามหาความไม่เข้ากันที่เหมาะสมกับผมนั่นเอง

ความหลากหลายที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ เป็นเพราะผมเลือกที่จะรู้กว้าง แต่ไม่รู้ลึก มันเป็นนิสัยของผมมานานแล้ว ผมชอบศึกษาอะไรไปเรื่อยๆ ทำให้มีทักษะติดตัวค่อนข้างหลากหลาย และมันจะเป็นอย่างนี้ต่อไป จนกว่าผมจะค้นพบคำตอบที่ำำพอจะทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

สวัสดี

กระเพราเห็ดไข่ดาว

วันนี้มากับเมนูใหม่กระเพราเห็ดไข่ดาว เมนูที่ผ่านเข้ามาในหัวเมื่อหลายวันก่อน วันนี้มีโอกาสได้ออกไปกินรู้สึกประหลาดอย่างไม่น่าเชื่อ

ที่มาที่ไปของกระเพราเห็ดไข่ดาว

มันสืบเนื่องมาจากที่วันหนึ่ง ผมไปซื้อไก่กินที่มหาลัย ซึ่งซื้อมาเยอะหน่อยเพราะว่าหิว กินไปกินมามันก็เริ่มไม่อร่อยเพราะเยอะ+เลี่ยนไป (ไก่ทอด) ก็มานั่งนึกๆว่าทำไมต้องกินไก่ด้วย ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบได้ที่ทำให้ผมซื้อไก่กิน ก็รู้สึกว่าถ้าจริงๆเราไม่กินไก่กินอย่างอื่นก็ได้นะ ก็มานั่งคิดไปว่าไม่กินเนื้อสัตว์ก็อยู่ได้นี่นะ เป็นการลดน้ำหนักไปในตัวด้วยเพราะบางทีอะไรที่มันอร่อยเกินไปก็จะกินเยอะเกิน

ต่อเนื่องจนเป็นกระเพราเห็ดไข่ดาว

วันก่อนได้ไปกินสเต๊ก เนื่องจากไม่ได้กินมานาน แต่ความรู้สึกไม่เหมือนก่อน ไม่ใช่ว่ามันไม่อร่อย แต่ก็ไม่รู้จะไปกินทำไมให้มันลำบาก กินให้อิ่มก็พอ เหมือนว่าความคิดของผมก่อนหน้านี้มันมากเกินไปหน่อย รู้สึกเหมือนอยากปรับตัวเองให้พอดีกับความเป็นจริงเสียหน่อย ทำไมผมต้องลำบากออกเดินทางไปหาสเต๊กกินด้วยนะนี่…

วันนี้ก็ได้กินกระเพราเห็ดไข่ดาว

วันนี้ตอนสายๆออกไปกินข้าวที่สี่แยกแถวบ้าน ซึ่งมีร้านอาหารตามสั่งอยู่ ถ้าปกติสำหรับผมแล้วก็คงจะสั่งกระเพราหมูกรอบพิเศษไข่ดาว แต่วันนี้เริ่มลังเล มาถึงที่ร้านมองไปไม่เห็นหมูกรอบก็เป็นโอกาสที่ดี เพราะร้านนี้จะทอดหมูกรอบประมาณสายๆ ถึงเที่ยง แต่วันนี้เขายังไม่ได้ทอดก็เป็นโอกาสที่ดีในการเปลี่ยนเมนูเสียเลย

ผมมองไปที่ตู้ใส่ผักว่ามีอะไรบ้าง ตอนแรกคิดว่าจะใส่เห็ดกับข้าวโพด แต่เห็นว่ามีเห็ดเยอะก็เลยสั่งแต่กระเพราเห็ด ใส่ไข่ดาวเพิ่มไปอีกหน่อย แม้ค้าถึงกับต้องถามซ้ำอีกครั้งว่ากระเพราใส่เห็ดอย่างเดียวหรอ ปกติคงจะไม่ค่อยมีคนสั่งเมนูนี้เท่าไหร่ หรือไม่ก็สั่งแล้วใส่ควบกับอย่างอื่น ก็ตกลงเอาเมนูนี้แหละ วันนี้มั่นใจและพร้อมที่จะกินกระเพราเห็ดเต็มที่แล้ว แม้มันจะแปลกๆในใจก็ตาม

หลังจากนั่งรอไม่นานนักกระเพราเห็ดไข่ดาวก็ถูกนำมาวางไว้หน้าผม รสชาติของกระเพราก็เหมือนเดิมต่างไปแค่เป็นเห็ดแทนเนื้อสัตว์ ผมคิดว่าที่มันอร่อยจริงๆก็ตรงกระเพราไข่ดาวนี่แหละ พวกเนื้อหมูกรอบหรืออะไรก็ตามดูเหมือนจะเป็นเครื่องเคียง เพราะฉะนั้นเปลี่ยนเนื้อสัตว์เป็นเห็ดก็เลยไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่ กินไปก็อร่อยดี ในใจก็คิดว่านี่แหละเมนูยอดฮิตในปีนี้ของผม อย่างมาก็ใส่เต้าหู้เพิ่มเข้าไปด้วยอีกหน่อย

สักพักก็มีคนเดินมาสั่งกระเพราหมูกรอบ แต่ที่ร้านยังทอดไม่เสร็จบอกว่าอีกครึ่งชั่วโมงได้ คนที่เขาสั่งกระเพราหมูกรอบแทนที่จะเปลี่ยนเป็นกระเพราอย่างอื่นก็ยังยืนยันที่จะรอกระเพราหมูกรอบ เพราะร้านนี้หมูกรอบเด็ดจริงๆครับ แต่ในระหว่างที่ผมกินอยู่นั้น กลับไม่รู้สึกอยากเปลี่ยนใจกลับไปกินหมูกรอบเลย หรือเพราะได้กินเข้าไปบ้างแล้วอาการหิวเลยไม่มีทำให้ไม่อยากและไม่สนใจเมนูอื่นแล้ว

สรุปแล้วกระเพราเห็ดก็อร่อยดีครับ วันหลังว่าจะให้ใส่อย่างอื่นไปด้วย เช่นข้าวโพดอ่อน เห็ดหูหนู ฯลฯ ประมาณว่าอยากกินผักแทนแล้วครับ อะไรก็ได้จะพยายามเปลี่ยนตัวเองให้ได้สักวัน

สวัสดี

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับการลดเนื้อสัตว์ มากินผักได้ที่ Veggie kitchen , facebook (Veggie Kitchen)