มรณสติประจำวัน

“ถ้าเราไม่เผาเขา เขาก็เผาเรา”

ผมมานั่งนึก ๆ ชีวิตก็น่าจะได้พบกับเหตุการณ์สองอย่างนี้แหละ แต่อย่างที่สองนี่เราจะไม่ได้พบแน่นอน เพราะตายไปแล้วมันไม่รู้แล้ว สรุปจึงเหลือแต่ความจริงที่ว่าถ้าเราไม่ชิงตายเสียก่อนเราก็คงจะได้เผาเขา

ก็นึกต่อไปว่า ทุกคนที่อยู่รอบตัว เขาจะจากเราไปอย่างไร แบบไหน เมื่อไหร่ คิดไปแล้วมันก็บันเทิงนะ แต่ถ้าคนกิเลสจัด ๆ จะหดหู่เศร้าหมอง ไม่อยากระลึกถึงการจากพราก ส่วนคนที่รู้สึกบันเทิง ยินดี ผ่องใสนี่น่าจะเป็นคนที่ล้างความยึดมั่นถือมั่นได้ หรือไม่ก็คนบ้าไปเลย

ส่วนเรื่องที่ว่าเขาเผาเรานี่มันไม่ต้องคิดเลย ไม่ต้องไปจินตนาการให้เสียเวลาว่าหลังตายแล้วจะเป็นอย่างไร เอาเป็นว่าก่อนตายหรือระหว่างที่กำลังจะตายนี่แหละ คือจุดที่ควรพิจารณา

ผมมีกิจกรรมสนุก ๆ ที่ระลึกถึงประจำเวลาเดินทาง คือจะตายท่าไหน แบบไหน ตอนไหน เดิน ๆ อยู่แล้วมีคนมาปล้น แล้วโดนเขาแทงตายจะเป็นอย่างไร ดูข่าวเขาฆ่ากันแบบนั้นแบบนี้ ถ้าเราโดนแล้วเราจะเป็นอย่างไร เราจะห่วงหาอะไรไหม เราจะโกรธแค้นเขาไหม ก็ปรุงไปเพลิน ๆ ระหว่างเดินทาง

ก็ตรวจใจเรื่อย ๆ ว่าเรายอมตายได้ทุกท่าทุกทางทุกนาทีไหม ถ้ามันมีกิเลส เดี๋ยวอาการก็ออกเอง ออกมาก็ตรวจหาความยึดมั่นถือมั่นนั้น แล้วก็ใช้ปัญญาคลายซะ มันก็เป็นการปฏิบัติธรรมสนุก ๆ ที่เกิดขึ้นในเวลาเดินทางในแต่ละวัน

ถ้าแค่ระลึกแล้วยังมีอาการหวั่นไหว แสดงว่าของจริงไม่รอดแน่นอน ก็พิจารณาทั้งตัวเราและคนอื่นนั่นแหละนะ ซึ่งมันจะได้ปัญญาเป็นผลมาเหมือนกัน คือจะลดความประมาทลงโดยลำดับ จะเริ่มรู้ว่าอะไรเป็นสาระสำคัญของชีวิต แล้วจะค่อย ๆ ลดสิ่งไร้สาระลงไปตามปัญญาที่มีนั่นแหละ