น้ำพริกหนุ่ม

น้ำพริกหนุ่ม

น้ำพริกหนุ่ม

ไปตลาดคราวก่อน เจอพริกหนุ่ม ผมเคยทำน้ำพริกหนุ่มอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนนี้จะลองทำอีกทีตามสูตรที่ได้เคยทำมา

วัตถุดิบนั้นก็มีพริกหนุ่ม หอมแดง กระเทียม เกลือ มีแค่สี่อย่างนี้ก็จะได้น้ำพริกหนุ่ม…..

วิธีการทำก็ไม่มีอะไรยาก เอาทุกอย่างไปย่าง แบบในรูปนี่เรียกว่าเผา เพราะไฟแรงไป เลยทำให้ไหม้เป็นหย่อม ๆ แต่ไม่เป็นไร สุดท้ายเราก็จะมาค่อย ๆ ลอกเอาผิวส่วนที่ไหม้ออก มันจะเป็นแผ่น ลอกไม่ยาก กระเทียมกับหอมยิ่งง่าย

ลอกที่ไหม้ ๆ ออกจนพอใจแล้วก็เอามาตำ ตำไปเท่าที่พอใจ แล้วก็เอามากินคู่กับผักมะเขือเผาและบวบงูสด

ตอนทำก็ดูเหมือนสนุกดี แต่ตอนกินนี่ไม่สนุกเลย แม้พริกหนุ่มจะเป็นพริกที่ไม่เผ็ดนัก แต่ถ้าปริมาณขนาดนี้ก็เผ็ดมากเหมือนกัน

เคยอ่านที่เขาว่าให้เอาเมล็ดพริกออกก่อน ไอ้เราก็ลืมขั้นตอนนั้นไป คิดว่ามันจะไม่เผ็ด ที่ไหนได้ กินไปทรมานไป สรุปมื้อนี้บวบงูเป็นพระเอก น้ำพริกหนุ่มเป็นผู้ร้าย กินไม่หมดอีกต่างหาก เลยแบ่งใส่ขวดโหลไว้ วันต่อมามีฟอง คงกินไม่ได้แล้ว ดีแล้ว…มันเผ็ด

ข้าวต้ม

ข้าวต้ม

ข้าวต้ม

วันก่อนรู้สึกอยากกินอะไรที่มันนิ่ม ๆ เคี้ยวง่าย ก็เลยคิดจะทำข้าวต้ม

แต่วัตถุดิบก็เหลือน้อย ยังมีขาเห็ดหอมแห้ง กับไชยาอยู่ก็เลยเอามาหั่นใส่ พร้อมทั้งใส่น้ำพริกสมุนไพรที่เหลือลงไปด้วย คงจะได้อารมณ์แบบข้าวต้มทรงเครื่อง

ลองผสมกันไปดู ออกมาก็สมดังใจ แต่ข้าวไม่นิ่มเท่าไหร่เพราะต้มไม่นานนัก แถมยังเป็นข้าวซ้อมมือด้วย ซึ่งถ้ารอให้นิ่มหรือเละอาจจะนาน หรือคงต้องหุงแล้วเอามายีให้มันเละก่อนคงจะได้ข้าวต้มเละ ๆ

แต่ก็ไม่เป็นไร แบบนี้มันมันก็พอได้ ได้กินข้าว ได้ซดน้ำอุ่น ๆ ให้คล่องคอ สบายไปอีกมื้อ

ผักกับน้ำพริก

ผักกับน้ำพริก

ผักกับน้ำพริก

ผมนี่เป็นคนกินน้ำพริกไม่เป็น เพิ่งจะมาหัดกินน้ำพริกกะปิก็ไม่กี่ปีมานี้ สมัยเริ่มลดเนื้อสัตว์แรก ๆ แต่ปัจจุบันก็ไม่ได้กินแล้ว

ก็เห็นแม่กินข้าวกับน้ำพริกและผักลวก ก็คิดไปว่า เออชีวิตกินแค่นี้ก็ง่ายดีนะ ก็เลยว่าจะลองเรียนรู้บ้าง

ผักที่เอามาลวกก็มีกะหล่ำ ไชยา อ่อมแซ่บป่า ซึ่งอ่อมแซบป่านี่น่าจะกินสด ไม่น่าลวก เพราะมันจะนุ่มนิ่มเกิน ส่วนไชยาชุดนี้นี่ เป็นใบที่เลี้ยงมาแบบขาดน้ำ ดังนั้นมันจึงเหนียว ลองกินใบใหม่ ๆ ดูแล้วไม่เหนียว แต่ถ้าเอาใบแก่ ๆ แนะนำให้หั่นก่อน จะกินง่าย ไม่อย่างนั้นคงจะได้เคี้ยวกันเมื่อยปากแน่ ๆ

ในส่วนน้ำพริกนั้นหยิบมามั่ว ๆ จากร้านขายวัตถุดิบมังฯ เขาก็ว่าเป็นน้ำพริกสมุนไพร ซึ่งจากที่ลองกินดูในมื้อนี้ก็พบว่ามันรสจัด

น้ำพริกนี่แหละคือตัวรวมความจัดของรสชาติ คนก็เลยติดใจไง เพราะมันปรับระดับความจัดได้ อยากให้จัดมากก็ใส่เยอะ ๆ ให้รสอ่อนหน่อยก็ใส่น้อย ๆ ส่วนน้ำพริกแต่ละชนิดก็หลากรสกันไปตามแต่สูตร

ซึ่งผมคิดว่ามันก็ลำบากและสิ้นเปลืองอยู่ดี เพื่อให้ได้มาซึ่งรสจัด ๆ แบบนี้ ถ้าเอาผักในรูปนี้ไปผัดแล้วปรุงในกะทะเลยก็อาจจะง่ายกว่าเอามากินกับน้ำพริก

เพราะแท้จริงแล้วน้ำพริกมีกระบวนการทำที่ค่อนข้างยุ่งยาก ถ้าเราซื้อเอามันจะไม่ชัด ทำเองจะรู้เลยว่ามันยุ่งยากกว่าการหั่นผักแล้วเอาใส่ในกะทะลงไปผัดและปรุงรส