[31] ใช้ฟืน ได้ไฟ ได้ถ่าน

diary-0031-ใช้ฟืน-ได้ไฟ-ได้ถ่าน

31. ใช้ฟืน ได้ไฟ ได้ถ่าน

หลังจากที่ผมใช้ฟืนมาได้สักพัก ก็ได้รับประโยชน์จากฟืนมากมาย ได้มากกว่าถ่านเสียอีก เลยเก็บมาบันทึกกันหน่อย

การได้ฟืนมานั้นก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร เพราะต้องถางป่าที่รกอยู่แล้ว ไหนจะกระถิน ไหนจะปอกระสา มันเยอะจนไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ก็เอามาทำเป็นเชื้อเพลิงนี่แหละ สุดท้ายก็จะได้ถ่าน เอาไปใช้ปลูกต้นไม้ได้อีก

ถ้าซื้อถ่านที่เขาเผานี่มันไม่ง่ายนะ มันต้องเอารถไปขนมา ฟืนจึงเป็นความเรียบง่ายและพอเพียงชนิดหนึ่งที่เหมาะสมกับชีวิตบ้านไร่

ฟืนคือความไม่แน่นอน จะวางใจเหมือนใช้เตาแก๊สหรือกะทะไฟฟ้าไม่ได้ เพราะความร้อนที่ได้มันไม่แน่ แม้จะมีฟืนปริมาณเท่ากัน แต่ถ้าไม้ต่างชนิดก็ให้ความร้อนต่างกัน ไหนจะขนาด รูปทรง อีกที่มีผลต่อความร้อน ดังนั้นการทำอาหารด้วยฟืนจะต้องคอยสังเกตมากกว่า ต้องคอยเติมเชื้อเพลิงหรือลดมันลงบ้าง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ยุ่งยากกว่าการปรับอุณหภูมิขึ้นลงของเครื่องใช้ไฟฟ้ามาก

การใช้ฟืนในหน้าฝนนั้น คงไม่เหมือนหน้าร้อน เพราะอากาศมีความชื้นสูง ต้องจัดเตรียมฟืน เก็บฟืนไว้ในที่แห้ง หรืออย่างน้อย ๆ ก็ไม่ให้โดนน้ำค้างหรือน้ำฝน

การใช้ฟืนนั้นยังสามารถจุดไฟให้ติดได้ง่ายกว่าใช้ถ่าน เพราะก่อกองไฟด้วยเศษไม้และฟืนนี่แทบจะไม่ต้องใช้พัด แต่ก่อเตาถ่านต้องใช้ ก็เลยเป็นอีกหนึ่งความสะดวกของการใช้ฟืน

[29] ฝน และ แมลงเม่า

diary-0029-ฝนและแมลงเม่า

29. ฝน และ แมลงเม่า

หลังจากหนาวมาหลายวัน อากาศก็เปลี่ยนเป็นร้อน เพียงแค่ลมพัดผ่านวันเดียว ฤดูกาลก็เปลี่ยนได้

หลังจากร้อนมาสักพักจนอบอ้าว ฝนก็ตกลงมา ตกมาไม่เยอะหรอก แต่เม็ดใหญ่ ตกได้ไม่นานก็หยุด พอให้ชุ่มฉ่ำ เย็นสบาย อุณหภูมิก็ลดลงมาเป็นสบาย ๆ อีกครั้ง

หลังจากร้อนแล้วมาฝน สิ่งที่มักจะเจอคือแมลงเม่า หลังจากพระอาทิตย์ตก ตอนเปิดไฟเข้าห้องน้ำก็เห็นแมลงเม่า และรู้ทันทีว่าคงต้องปิดไฟนอนเลย เพราะแมลงเม่านี่มันมุดมุ้งได้ เปิดไฟนิดหน่อย เพียงแค่แสงหน้าจอมือถือมันก็มาแล้ว

ก็เลยวางงานสรุปในวันนั้นทังหมดแล้วนอน ก็นอนคิดอะไรเพลิน ๆ ไปเรื่อย ๆ แล้วก็หลับ ตื่นมาอีกทีดึก ๆ ค่อยมาสรุปงาน วางแผนงานวันต่อไป เพราะแมลงเม่านี่มันมีเวลาของมัน มันจะมาเยอะช่วงหัวค่ำ และลดลงไปเรื่อย ๆ หลังจากนั้น

วันต่อมาฝนก็ตกเหมือนเดิม แต่ไม่มีแมลงเม่าเหมือนวันแรก ก็ดีเหมือนกัน…

[28] คั่วเมล็ดมะม่วงหิมพานต์

diary-0028-คั่วเมล็ดมะม่วงหิมพาน

28.คั่วเมล็ดมะม่วงหิมพานต์

ด้วยความที่ว่าอยากจะปลูกมะม่วงหิมพานต์ไว้สัก 4-6 ต้น เพราะเป็นพืชที่ให้ทั้งโปรตีน ให้ทั้งน้ำมัน ทั้งเป็นที่นิยมอีกต่างหาก เอาเป็นว่ากินเองก็ได้ ทำขายก็คงพอมีคนสนใจ

ทีนี้ก่อนจะปลูก มันก็ต้องศึกษากันก่อนว่ากระบวนการที่จะทำให้ได้กินเนี่ย เขาทำอย่างไร ไม่ใช่ว่าปลูกแล้วแปรรูปยาก ขั้นตอนเยอะ อะไรแบบนี้มันก็ไม่ไหว

พอดีว่ามีคนเขาให้เมล็ดมะม่วงหิมพานต์มาให้ปลูก เราก็เลยแบ่งส่วนหนึ่งมาทดลองคั่วดู ก่อนจะคั่วก็เปิดหาความรู้กันในอินเตอร์เน็ตนั่นแหละ ตามที่่เขาทำให้ดูกัน เราก็เรียนรู้ไป

พอมาถึงคราวทำจริงนี่ก็ระวังเหมือนกัน เพราะที่เขาทำให้ดูนี่มันติดไฟง่าย เราก็ลองเอาหม้อเก่านี่มาคั่ว ก็คั่วไป ใช้ไม้เขี่ย วน ๆ ไปให้มันร้อนหลาย ๆ ด้าน ไม่นานนักก็ไฟลุก เราก็ตายใจ เห็นเปลือกมันหนาเลยปล่อยให้ไฟลุกไปสักพัก รอบแรกได้แบบรูปขวาบน น้ำตาลมาเชียว สรุปว่าเสีย

รอบสองพอจะกะเวลาได้ คือถ้าไฟติด ก็ดับแล้วเลิกเลย ก็ออกมาดูดี แต่เมล็ดมันไม่เต่งเหมือนที่เราซื้อกินกัน ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน แต่ก็กินได้

สรุปลองกินทั้งแบบยั่งไม่คั่ว คั่วแล้วไหม้ คั่วแล้วยังไม่ไหม้ ก็โอเค สรุปความคิดว่าจะปลูกมะม่วงหิมพานต์ไว้กินก็ผ่าน ไว้ปลูกโตให้ผลแล้วค่อยมาว่ากันอีกที

[27] ถางหญ้า ตัดหญ้า ซอยหญ้า

diary-0027-ตัดหญ้า

27. ถางหญ้า ตัดหญ้า ซอยหญ้า

ที่นี่เป็นไร่เก่า มีหญ้าเป็นปกติ ถ้าปล่อยไว้นาน หญ้าจะโต ยาวมากกว่า 1 เมตร แม้จะเห็นว่ามันแห้ง แต่มันยังไม่ตาย ถ้าเราไม่ตัด มันก็จะไม่สลาย มันจะอยู่ของมันแบบนั้นไปอีกนานพอสมควร

แต่ถ้าเราตัด มันก็จะแตกใบใหม่ ถึงตอนนั้นค่อยขุดต้นมันออกอีกทีหนึ่ง เมื่อเราตัดหญ้าเราก็จะได้หญ้า จะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่สะดวก

แต่ก่อนผมใช้คลุมต้นไม้บ้าง คลุมแปลงผักบ้าง ไอ้คลุมต้นไม้นี่มันก็ดีอยู่หรอก ไม่นานก็ย่อย แถมรักษาความชื้นใต้ต้นได้อีก แต่คลุมแปลงผักนี่ไม่ไหว หญ้ายาวกว่าหนึ่งเมตร จัดลงแปลงผักเล็ก ๆ ของเรา ยังไงมันก็ขาด ๆ เกิน ๆ ล้นออกมาบ้าง ไม่สม่ำเสมอกันบ้าง

สุดท้ายก็เลยลองเอาหญ้ามาตัด ก็ลองตัดตั้งแต่ 2 นิ้ว ไปจนถึง 6 7 8… ก็แล้วแต่จะไปใช้กับที่แบบไหน ถ้าเอาไปคลุมพื้นที่เพาะเมล็ด ซอยสั้น ๆ มันก็ดี แต่ถ้าเอาไปลงแปลงผัก ซอยสั้น ๆ ก็จะเสียแรงเสียเวลาเยอะไปหน่อย

ก็เป็นอีกกิจกรรมที่ดี ที่เอาไว้ทำตอนเที่ยง ๆ จนถึงบ่าย เป็นกิจกรรมที่ทำได้ในร่ม ไม่ต้องออกแดด ตัดหญ้าไป ฟังสิ่งที่เป็นประโยชน์ไป เพลินดีนักเชียว

ยามเย็น

diary-0025-ยามเย็น

ยามเย็น

พอมองบรรยากาศตอนเย็นแล้วก็คิดถึงความแตกต่างจากบ้านที่กรุงเทพฯ ที่นี่ไม่มีอะไรเลย มีแต่ทุ่งหญ้า ไร่นา ภูเขา ต้นไม้… แสงยามเย็นจึงไม่มีอะไรบังมากนัก เต็มที่ก็ภูเขาบัง แต่กรุงเทพฯ นี่ตึกบัง บ้านบัง ป้ายบัง ก็เป็นความแตกต่างของเมืองกับชนบท มันก็เป็นของมันอย่างนั้น

ในตอนที่แสงแดดอ่อน ๆ ยามเย็นกำลังจะหมดไป ลมหนาวก็พัดมา ช่วงก่อนหน้านี้จะหนาวแค่ตอนเช้ากับตอนหัวค่ำ แต่ตอนนี้เหมือนจะมีลมหนาวพัดมาทั้งวัน แต่ยังไม่ถึงกับหนาวมาก แค่ยืนขุดดินตากแดดตอนเช้า 8.00 น ก็ยังหนาวจนอยากใส่ชุดกันหนาวทั้งตัวทีเดียว

ถ้าเป็นสมัยก่อนผมก็คงจะอยากไปเที่ยวประเทศที่เขาหนาวสุด ๆ มีหิมะ มีธารน้ำแข็ง แต่ตอนนี้ไม่เอาแล้ว อยู่ที่นี่ แค่หนาวเท่านี้บางทีก็ลำบากร่างกายแล้ว เลยไม่รู้จะไปหาหนาวกว่านี้ทำไม

หน้าหนาวนี่ก็ดีอย่าง ทำงานเหงื่อแห้งไว ไม่เลอะเทอะนัก ส่วนหน้าฝนนี่ลำบากสุด คือเหงื่อออกมาก ยุงเยอะ เลอะเทอะ แต่ให้ผลผลิตดีสุด ผักโตไวดี ส่วนหน้าร้อนนี่เสียน้ำเยอะ คนก็ต้องกินน้ำบ่อย ต้นไม้ก็เช่นกัน

[23] การเลือกวัสดุอุปกรณ์ (ลวด)

diary-0023-การเลือกวัสดุอุปกรณ์-ลวด

23. การเลือกวัสดุอุปกรณ์ (ลวด)

วันนี้จะมาเล่าเรื่องลวด ในรูปนี้มีลวดสองเส้น เส้นหนึ่งเป็นของเก่า อีกเส้นพึ่งซื้อมาใหม่…

เส้นที่เป็นของเก่าซื้อติดบ้านไว้นานแล้ว อยู่ด้านขวา แขวนไม้ไว้เป็นปีก็ไม่มีสนิมกิน แต่ลวดด้านซ้ายซื้อมาไม่นาน เอามาผูกไม้ก็ไม่นาน สนิมกินในเวลาไม่นาน

บางครั้งการเริ่มทำอะไรหลายสิ่งหลายอย่าง เราก็ต้องเสียเวลาให้กับความไม่รู้ อย่างเช่นเราไม่มีความรู้ในเรื่องวัสดุอุปกรณ์ เห็นหน้าตามันเหมือนจะกันสนิมได้ก็ซื้อมา แต่จริง ๆ แล้วก็เป็นสนิมเหมือนกับลวดผูกเหล็กทั่วไปได้

ของแต่ละอย่างมีวิธีใช้ของมัน ลวดด้านซ้าย ถ้าใช้ในร่มในที่แห้งก็คงไม่มีปัญหาอะไร

เหมือนกับของหลายอย่างที่ผมใช้แล้วใช้ผิดวิธีเพราะไม่มีความรู้ บุ้งกี๋มันยกของหนักมากไม่ได้ แรงเรามีจริง แต่มันตามแรงเราไม่ไหว มันก็หัก มันก็พัง หรือมีดที่ดูเหมือนจะแข็งแรง แต่พอฟันผิดเหลี่ยมนิดหน่อย กลับงอไปทั้งเล่ม

เราก็ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดนี่แหละครับ พวกนี้เป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่ได้มีชุดความรู้เผยแพร่อยู่ทั่วไป อาจจะมีก็เช่นพวกในกลุ่มของคนที่ทำอาชีพหรือคนที่เผชิญกับปัญหาเดียวกันเอามาแบ่งปัน แต่ส่วนใหญ่เราก็พลาดก่อนทั้งนั้น เพราะไม่รู้ยังไงล่ะครับ มันก็เลยประมาณผิดไป

[22] ฝนตกปลายหนาว

diary-0022-ฝนตกปลายหนาว

22.ฝนตกปลายหนาว

วันนี้มีฝนตกตั้งแต่เช้า หลังจากที่ไม่เห็นมันตกมากว่าครึ่งเดือน

อากาศก่อนหน้านี้ก็ค่อนข้างเย็น ตอนเช้าอุณหภูมิลงไปถึง 19 องศา ซึ่งเย็นแค่นี้ ผมคิดว่าผมก็อยู่ไม่ค่อยสบายแล้ว แต่ปี 58 ที่นี่ก็เคยเย็นกว่านี้ ตกลงไปประมาณ 13-14 องศา เรียกว่าออกมากลางแจ้งลมพัดทีนึงเล่นเอามือชากันเลย

หลังจากอากาศเย็นเมื่อวันสองวันก่อนผ่านไป มันก็เริ่มอุ่นขึ้น เมื่อวานตอนเช้าวัดได้ 24 องศา ก็กำลังดี คิดว่าน่าจะอุ่นขึ้นอีก แต่ฝนกลับตกลงมาก็เลยน่าจะกลายเป็นเย็นลงไปอีก

บ้านที่อยู่นี่ก็ไม่ได้กันร้อนหนาวดีเท่าที่กรุงเทพฯ จะค่อนข้างอ่อนไหวมาก เพราะสร้างด้วยวัสดุที่ไม่กันความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเท่าไรนัก ก็อยู่กันไป…

[20] ฟ้าที่มองเห็นดาว

diary-0020-ฟ้าที่เห็นดาว

20.ฟ้าที่มองเห็นดาว

ปกติแล้ว จะไม่ได้ออกมาข้างนอกตอนกลางคืน เพราะไม่มีอะไรนอกจากความมืดและความเงียบ (ในหน้าหนาวก็ยังหนาวอีกด้วย…)

แต่วันหนึ่งก็มีเหตุให้ออกมาเดินเล่นตอนกลางคืน ก็เดินคิดงานไปเพลิน ๆ มองไปบนฟ้าเห็นดาวเยอะมาก เลยไปหยิบกล้องมาถ่ายไว้

ฟ้าที่กรุงเทพฯ ไม่เห็นแบบนี้หรอก เพราะมันสว่างเกินไป ทั้งยังมีฝุ่นควันเยอะด้วย แต่ที่นี่เห็นแบบนี้ทุกวัน ถ้าไม่มีเมฆบังละนะ

อยู่ต่างจังหวัด ก็เห็นคลองใส ๆ ภูเขา ต้นไม้ ดาวเป็นธรรมดานั่นแหละ

[19] ฝนตกแดดออก

diary-0019-ฝนตกแดดออก

19. ฝนตกแดดออก

วันสองวันนี้มีสภาพอากาศเหมือนกันคือฝนตกแดดออก ตกกันตอนบ่าย ๆ นี่แหละ ประมาณว่ากินข้าวเสร็จ กำลังจะไปทำสวน ฝนก็เทลงมา…

ตกกันทีก็นานเป็นชั่วโมง สรุปว่าแปลงผักแฉะหมดแล้ว เลยไม่ได้ทำอะไรเพิ่ม นอกจากจะไปเก็บงานนิดหน่อย ฝังเมล็ดนั่นนี่ไปตามประสา

แต่จะไปเกี่ยวหญ้าหลังฝนนี่เกรงใจแมลงจริง ๆ แต่ก่อนฝืนทำบ่อย แต่ก็ต้องเผชิญกับมดไปเรื่อย จริง ๆ ก็เกรงว่าจะเจออะไรที่มากกว่ามดละนะ เพราะอากาศชื้น ๆ หลังฝน สัตว์มันก็คงจะชอบออกหากิน

สู้ทำงานในวันแห้ง ๆ แดดดี ๆ ไม่ได้ สบายใจมาก แม้จะร้อนไปสักหน่อย แต่ก็สะดวกในการทำงาน ไม่เฉอะแฉะ

[17] ฟ้าหลังฝน

diary-0017-ฟ้าหลังฝน

17. ฟ้าหลังฝน

ช่วงก่อนหน้านี้ ฟ้าค่อนข้างสดใส ตารางงานที่วางไว้ ถูกจัดการไปโดยลำดับ ซึ่งผมเองก็กำลังเพลินกับงานเลยทีเดียว

มาถึงวันสองวันนี้ ฝนตกค่อนข้างมาก ตกทีนึงก็ตกนาน แถมนำพาความชื้นมาอีกมากมาย งานที่วางไว้ก็ล่าช้าลงไป

การทำงานในสวนหลังฝนตกนั้นไม่ง่าย เพราะนอกจากต้องคอยสังเกตมดและแมลงที่ออกมากันมากมายแล้ว ยังเจอความเปียกชื้น ที่เป็นอุปสรรคทั้งในด้านกระบวนการทำงานและด้านร่างกายด้วย

ในด้านร่างกายนั้นผมสังเกตว่าในวันฝนตกเหงื่อจะออกมากและแห้งช้า ต่างกับวันที่แดดดี ๆ แม้เหงื่อจะออกก็แห้งเร็วไม่เหนาะหนะ และไม่เหนื่อยเร็ว

ในส่วนงานนั้นก็ยากขึ้นไปอีก เช่นงานขุด ฝนตกลงมาเหมือนจะขุดง่าย แต่จริง ๆ ไม่ง่าย เพราะขุดทีนึงดินก็ติดอุปกรณ์ขึ้นมาทีนึง ถ้าขุดต่อก็จะยิ่งหนัก แถมจะขุดไม่เข้าอีก ก็เลยลำบากขึ้นอีกหน่อย

วันนี้แม้ฝนจะตกตั้งแต่เช้าถึงเที่ยง แต่เห็นฟ้าหลังฝนตอนเย็นแล้ว ก็พอจะเห็นภาพของฟ้าที่สดใสในวันพรุ่งนี้ แม้ว่าฟ้าจะไม่ใส แต่อย่างน้อยเมฆก็ไม่มากเหมือนวันก่อน ๆ