เว็บบอร์ดธรรมะ

เมื่อประมาณสองปีก่อนสมัยเพิ่งรู้จักการปฏิบัติธรรมที่ลดกิเลสได้จริง มันก็คันไม้คันมือตามประสามือใหม่ แต่ก็ไม่ได้คันขนาดที่ว่าไปแสดงความคิดเห็นอะไรมั่วไปหมด

เพียงแต่มีความคิดว่า ควรหรือไม่ที่เราจะร่วมเข้าไปเล่นเว็บบอร์ด ไปตอบคำถามที่มีคนตั้งคำถาม ซึ่งหลายๆ คำถามนี่ก็น่าสนใจ น่าตอบมากเลยนะ ถ้าตอบไปเขาคงจะได้ประโยชน์มาก ตอนนั้นก็ยังคิดแบบนั้น

แต่ก็ยั้งใจไว้ มาถามครูบาอาจารย์ก่อนว่ามันเหมาะไหม มันควรหรือไม่ ท่านก็ตอบประมาณว่า ถ้ามันชั่วมากก็ไม่ควร (ผมจำได้ประมาณนี้นะ แต่ประโยคจริงๆ ก็จำไม่ได้)

ผมก็เข้าใจในตนเองเลยนะว่าจริงๆ แล้วเราควรจะไปร่วมกับมิตรดีสหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดี กลุ่มที่เขายังไม่ค่อยดีเราก็ยังไม่ควรเข้าไปยุ่ง มันจะทะเลาะกันเปล่าๆ เพราะความเห็นมันไม่ตรงกัน ทิฏฐิไม่เสมอสมานกัน ศีลไม่เสมอกัน หลายๆ อย่างไม่ตรงกัน และที่สำคัญเรายังอนุโลมไม่เก่ง จะไปเล่นมันก็จะทำตัวเองให้เสียเวลาไปเปล่าๆ ดีไม่ดีไปขุ่นใจทะเลาะกับเขาอีก

ดังนั้นตั้งแต่ศึกษาธรรมะมาก็เลยไม่ได้เล่นเว็บบอร์ดธรรมะใดๆ เลย ทั้งที่เป็นคนที่โตมากับยุคอินเตอร์เน็ตและการเล่นเว็บบอร์ด

จริงๆ แล้ว ใครจะเล่นหรือจะตอบก็เป็นสิทธิของแต่ละคน ถ้าเข้าไปแล้วมันไม่ชั่ว คือตัวเองไม่เกิดความชั่วขึ้นแล้วไม่ทำให้คนอื่นเกิดความชั่วตาม ผมคิดว่ามันก็ไม่มีปัญหา ก็ใช้ศิลปะในการนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์กันไป

แต่โดยส่วนตัวนั้นผมคิดว่า ลึกๆ มันก็ไม่เหมาะอยู่ดี เพราะลักษณะของพุทธนั้นไม่น่าจะเริ่มต้นด้วยการที่จะเอาคนมานั่งสุมหัวคุยกัน แต่เป็นการแสวงหาบุคคลผู้มีธรรมะ หรือที่เรียกว่า “สัตบุรุษ” แล้วเข้าไปรับฟังธรรมของท่านเหล่านั้น แล้วนำมาปฏิบัติจะตรงกับที่พระพุทธเจ้าตรัสมากกว่า ส่วนการสุมหัวคุยนั้นน่าจะเหมาะสำหรับคนที่ปฏิบัติตรงแล้วเป็นส่วนใหญ่มากกว่า เพราะถ้าปฏิบัติผิด ยิ่งสุมหัวก็จะยิ่งทะเลาะกัน

และจากที่ผมทดลองโดยส่วนตัว คือเอาตัวเองลงไปในกลุ่มต่างๆ แล้วทดสอบดู จึงรู้ว่าเป็นการยากที่จะทำให้คนอื่นๆ รับฟังความเห็นที่แตกต่าง แม้จะมีคนที่ถูกจริงอยู่ในกลุ่มสนทนานั้นก็ตาม แต่ความเห็นของเขาจะถูกกลบลงไปตามน้ำหนักของความเห็นทางโลก (อันนี้ผมอาจจะไม่เก่งเองก็ได้)

แม้ว่าผมจะเป็นคนที่พิมพ์บทความเกี่ยวกับธรรมะที่ตนเองศึกษาไว้ค่อนข้างมาก แต่จะให้ผมสอนใคร หรือแนะนำใคร หรือไปทักใครว่าเขาผิดเขาถูกอย่างนั้น ผมจะไม่ทำ เว้นเสียแต่ว่าคนคนนั้นเขาได้บอกกล่าว หรือร้องขอให้เราบอกเขา ซึ่งก็จะพิจารณาอีกทีว่าจะไม่ตอบเขาหรือตอบเขาอย่างไร

เพราะลึกๆ ผมรู้สึกว่าการตอบคำถามหรือแนะนำกันในอินเตอร์เน็ตนั้นอันตราย เพราะไม่รู้อาการของฝ่ายตรงข้าม ดังนั้นจึงประมาณได้ยาก ไม่เหมือนเจอกัน พูดคุยกัน อันนี้มันประมาณได้ง่ายกว่า ผิดพลาดน้อยกว่า เสี่ยงน้อยกว่า ซึ่งดูๆ แล้วการนิ่งไว้ก่อนจะเป็นกุศลมากกว่าที่จะเสี่ยงไปแนะนำหรือไปตอบอะไรมั่วๆซั่วๆ