ความเสื่อมสลายโดยรูปของศาสนา

ความเสื่อมสลายโดยรูปของศาสนา

อ่านเจอข่าวสถานที่ปฏิบัติธรรมลารุงการ์ในทิเบต กำลังถูกรื้อถอนและจำกัดจำนวนผู้พักอาศัยลดลงมากกว่าครึ่ง

ก็มานั่งคิดว่า ศาสนานี่มันต้องเสื่อมแน่ๆ แต่เพียงแค่มันเสื่อมโดยรูปเท่านั้น นามนั้นยังมีอยู่ แต่นามนั้นเป็นของจริงไม่จริงนั้นอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องพุทธในทิเบตก็ยกไว้ก่อน เอาพุทธในไทยนี่แหละ

ช่วงก่อนหน้านี้ก็มีกระแสกล่าวหาว่าพุทธนั้นโดนศาสนาอื่นโจมตี ก็มานั่งนึกอีกว่า เขาจะมากล่าวหา โจมตี สอดไส้สร้างความเสื่อมเสียแล้วมันยังไงหรือ? ถ้าเนื้อแท้มันยังอยู่ มันต้องไปกังวลทำไมเล่า ปัญหาจริงๆ คือตอนนี้มันมีแต่หนังรึเปล่า เนื้อไม่มีแล้ว มีแต่เปลือกๆ มันเลยสั่นคลอน หวั่นไหวได้ง่าย

ประเด็นคือคนที่ไม่รู้จริงก็จะกลัวความเสื่อม วิตกกังวลกันไปใหญ่ ก็พากันขัดขืนบ้าง เร่งสร้างหลักฐานบ้าง ก็เห็นชาวพุทธไทยนี่ชอบสร้างหลักฐานในการมีอยู่ของพุทธกันเหลือเกิน จนมันค่อนไปทางอัตตาเสียมาก คือมีอะไรก็สร้างวัตถุเป็นหลัก ธรรมะก็เน้นวัตถุกันอีก จะส่งต่อให้รุ่นลูกรุ่นหลานนี่เขาเน้นส่งแต่วัตถุกันนะ แต่จะไปว่าเขาก็ไม่ได้ ก็เขารู้เท่านั้น

ในส่วนตัวผมนะ ว่าจะไม่เน้นวัตถุเลย เอาข้างในให้มันได้จริงๆ ก่อนเถอะ ถึงวันนั้นจะมีวัดไม่มีวัด มีพระไม่มีพระ มีพระไตรปิฎกหรือไม่มี มันก็ไม่ได้สำคัญเท่าไหร่หรอก (จริงๆ มีก็ดี แต่ไม่มีก็ไม่เป็นไร)

อย่างตอนที่พระเถระท่านร่วมกันสร้างพระไตรปิฎกขึ้นมานี่ วัตถุมันไม่ได้มาก่อนนะ มันตามมาทีหลัง มันเป็นมรดกจากความสมบูรณ์ คือพระอรหันต์ 500 รูปมาร่วมกันสร้าง ถ้าไม่ใช่พระอรหันต์นี่เข้าร่วมไม่ได้นะ

แต่ทุกวันนี้อรหันต์ไม่อรหันต์ไม่รู้แหละ ตะบี้ตะบันสร้างวัตถุกันไป วัดบ้าง ตำราบ้าง ก็เยอะแยะหลากหลาย พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้นะ ให้ทำคุณอันสมควรก่อน จึงพร่ำสอนผู้อื่นภายหลังจักไม่มัวหมอง..

ผมนั่งนึกถึงวันที่พุทธในไทยมันเสื่อมสลายเหมือนกันนะ คือรูปไม่เหลือเลย วัดก็เละเทะ พระก็เละเทะ แล้วมันจะยังไง นึกไปมันก็ไม่ได้ทุกข์อะไร เพราะมันต้องเป็นไปอย่างนั้นอยู่แล้ว และที่สำคัญพุทธก็ไม่ได้สืบทอดกันแบบนั้นเสียหน่อย ศาสนาในปัจจุบันจะเละอย่างไร คนที่มีภูมิเก่าเขาก็สืบทอดสิ่งที่เขามีเขาเป็นมาก่อน แล้วพัฒนาต่อยอดไปเรื่อยๆ พอมีจริงแล้วมันก็เลยไม่กังวลว่าพุทธจะเสื่อมสลายไป เพราะรู้ว่าตนเองนี่แหละมีความเป็นพุทธอยู่ ถึงเหลือคนเดียวในโลกก็ทำไปเท่าที่ทำได้ ตายไปก็เกิดมาศึกษาต่อไปจนกว่าจะหมดกิเลส

พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนให้อย่ารีบเชื่อ ทั้งตำรา อาจารย์ผู้มีชื่อเสียง เพราะของพวกนี้มันไม่เที่ยง มันหลอกได้ มันปลอมได้ แต่ภาวะในตนนี่มันเป็นของจริง มันรู้แล้วรู้เลย มันแน่นอนกว่า เพราะเกิดจากการปฏิบัติสะสมมาหลายภพหลายชาติ พอไปลองปฏิบัติตามดูก็จะรู้เองว่าทางไหนใช่ ทางไหนไม่ใช่ ดังนั้นความเป็นพุทธจึงไม่หล่นหายไปไหน แม้รูปของศาสนาจะเสื่อมไปโดยสมบูรณ์ก็ตาม คนที่เขาปฏิบัติได้จริงถึงมรรคผลจริง เขาก็มีของเขาอยู่แบบนั้นแหละ

ทีนี้คนไม่รู้จริงเขาก็จะไม่มีความเข้าใจแบบนี้ เขาก็จะกังวล ตื่นตระหนก หากพุทธที่เขารักโดนทำร้ายทำลาย ถูกทำให้เสื่อมลง ส่วนใหญ่ก็จะเร่งสร้างวัตถุ สร้างมวล แต่ไม่ได้สร้างคุณภาพ คือไม่ทำความเห็นของตนให้ถูก เขาก็เลยต้องทุกข์เพราะความผิดหวังจากการพลัดพรากอยู่อย่างนั้น

 

อกหักทำไงดี วิธีแก้อกหัก เมื่อมีอาการอกหัก สำหรับคนอกหัก

ปัญหาโลกแตกอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องเกิดขึ้นกันทุกวันทุกเวลา เรื่องอกหักเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นเหมือนกับการมีรักพบรัก ในบทความนี้เราจะมาไขรหัสกันว่าอกหักทำไงดี ด้วยวิธีแก้อกหักแบบชั่วคราวและถาวร ต้องทำอย่างไรเมื่อมีอาการอกหัก บทความนี้เหมาะสำหรับคนที่อกหักและคนที่กำลังจะอกหัก ซึ่งโดยรวมก็หมายถึงว่าเหมาะกับทุกคนละนะ

ในบทความนี้จะแบ่งเนื้อหาเกี่ยวกับการอกหักออกเป็น 7 หัวข้อ มีหัวข้อดังนี้ ทำไมต้องอกหัก,ทำไมต้องทุกข์ ทำไมต้องทรมาน,อยากลืมกลับจำ อยากจำกลับลืม,อกหักทำอย่างไร,อกหักดีอย่างไร,ความรักหลังจากอกหัก,อกหักครั้งต่อไป โดยรวมแล้วน่าจะครอบคลุมเรื่องราวของการอกหักทั้งหมดได้ บทความจะค่อนข้างยาว อาจจะต้องใช้เวลาอ่านสักพักใหญ่ แต่ก็คิดว่ามีประโยชน์มากสำหรับคนที่หาทางออกจากอาการอกหัก หาวิธีแก้อกหักมามากหมายแต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ยังต้องวนเวียนอยู่กับทุกข์เพราะการอกหัก ความผิดหวัง ความบอบช้ำของร่างกายและจิตใจ วิธีการเยียวยาคนอกหักทั้งทางโลกและทางธรรม ได้ถูกเรียบเรียงไว้ในบทความนี้แล้ว แนะนำให้เข้าไปอ่านกันได้เลย กับบทความ”อกหัก”

อ่านต่อได้ที่บทความ : อกหัก

อกหัก

อ่านบทความอื่นๆ แนะนำ ติชม ทักทายกันได้ที่…

Facebook : ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์

Blog : Minimal life : Dinh Airawanwat