การสนับสนุนคนเห็นผิด

ได้อ่านข่าวที่พระทำขนมปังขาย แล้วก็เห็นว่ามีทั้งกระแสที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ผู้ที่เห็นด้วยก็คิดว่าดีเป็นประโยชน์ ผู้ที่ไม่เห็นด้วยก็เพราะว่าสิ่งนั้นไม่สมควรทำ

ถ้าเป็นสมัยก่อน ผมก็คงคิดว่าอย่างน้อยท่านก็คิดจะทำสิ่งที่ดี เราก็เอื้อ ๆ กันไปบ้าง แต่หลังจากที่ได้ศึกษาอนุตตริยสูตร จึงพบว่านั่นคือ “การร่วมนรก” ดี ๆ นี่เอง

ข้อหนึ่งในอนุตตริยสูตร คือปาริจริยานุตริยะ พระพุทธเจ้าตรัสว่า การบำรุงคนไม่ว่าจะฆราวาสหรือนักบวชที่เห็นผิด ยังไม่มีความเห็นถูกตรง เป็นคนทุศีล ไม่มีศีล ไม่มีวินัย นั้นมีอยู่ แต่เป็นการบำรุงที่ “เลว

ท่านเน้นคำว่า “เลว” เลยนะ ไม่ใช่ “เออ อย่างน้อยเขาก็ทำดีนะ” คือถ้าเขาทำผิดแล้วเราไปสนับสนุนเนี่ย เรียกว่าการบำรุงที่เลว คือเรานี่แหละ ไปสนับสนุนให้เขาเห็นผิด ให้เขาคิดผิด ให้เขาทำผิดต่อไปเรื่อย ๆ

ยิ่งพวกนักบวชที่ใช้ผ้าเหลืองแสวงหาโลกธรรมนะ จะได้มีเงินมาก ๆ มีบริวารมาก มีตำแหน่งสูง มีชื่อเสียงมากมาย มีปัจจัย 4 ที่ยิ่งใหญ่มากมายกินใช้ไม่มีวันหมด …

แม้แต่ท่านที่ใช้บารมีของผ้าเหลืองในการไปสร้างคุณงามความดีแบบโลก ๆ ให้ดูยิ่งใหญ่อลังการ แต่ไม่ได้มุ่งขัดเกลากิเลสในตน ให้เป็นไปสู่ความมักน้อย ละโลภ โกรธ หลง อันนี้มันก็ผิด แม้คนเขาจะ “สาธุ” กันมาก แต่มันก็ผิด

เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ถึงกระนั้นพระพุทธเจ้าท่านก็ยังมีเส้นแบ่งที่ชัดเจนว่า การบำรุงพระพุทธเจ้าและสาวกของพระพุทธเจ้า(พระอริยะเท่านั้น ไม่ใช่พระทั่วไป) นั้นเป็นการบำรุงที่ยอดเยี่ยมกว่าการบำรุงทั้งหลาย

ผมนี่ซึ้งใจเลยนะว่า แต่ก่อนที่เราเคยบำรุงคนนั้นคนนี้ นั่นคือการบำรุงที่เลว แม้ภาพรวม ๆ เขาจะดูดี แต่ก็ยังเลว เพราะเขายังไม่มีอริยะคุณ เขายังลดกิเลสไม่เป็น บำรุงไปทุกบาททุกสตางค์ ทุกแรงกายแรงใจ นั้นจะไปเป็นส่วนเพิ่มกิเลสเขาทั้งหมด

ดังนั้น ไม่ว่าจะขนมปังพระทำ หรือบริจาคให้พระไปทำนู่นทำนี่ แม้จะดูดีเป็นสาธารณะประโยชน์แค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าผมประเมินดูดีแล้วว่าตัวบุคคลนั้นยังไม่มีคุณอันสมควร ผมก็จะไม่บำรุง ไม่ร่วมสังฆกรรม ยกเว้นจะอนุโลมในบางกรณีเท่านั้น